เดินทางไปต่างประเทศทีไร นอกจากเรื่องแพลนเที่ยว ที่พัก ตั๋วเครื่องบินที่ต้องจัดการแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ "ยา"! เพราะเรื่องยาๆ นี่แหละที่อาจจะกลายเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้ทริปสนุกๆ ของคุณต้องสะดุดได้เลย เคยสงสัยไหมว่า ยาที่ควรพกไปต่างประเทศ มีอะไรบ้าง? ยาที่เราใช้ประจำ เอายาขึ้นเครื่องได้ไหม? แล้วมันมี ยาที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบิน จริงหรือเปล่า?

ไม่ต้องกังวล Gother เข้าใจดีว่าเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน เพราะแต่ละประเทศก็มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันไป การพกยาไปต่างประเทศโดยไม่ศึกษาข้อมูลให้ดี อาจทำให้คุณเผลอทำผิดกฎหมายของประเทศปลายทางโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่ไม่คาดคิดได้เลย

วันนี้ Gother เลยขออาสาเป็นไกด์นำทางให้ข้อมูลสำคัญที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการพกยาเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อให้ทริปของคุณราบรื่น ปลอดภัย และไร้กังวลมากที่สุด!

ก่อนจะเก็บกระเป๋า สิ่งแรกที่ต้องทำคือการศึกษา "กฎหมายการนำยาเข้าประเทศ" ของประเทศปลายทาง อย่าคิดเอาเองว่ายาที่เราใช้ประจำที่เมืองไทยจะสามารถพกพาเข้าประเทศอื่นได้ง่ายๆ นะ เพราะแต่ละที่มีกฎไม่เหมือนกัน!

ตรวจสอบชื่อสารสำคัญในยาอย่างละเอียด (ไม่แค่ยี่ห้อ)

สิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้ "สารสำคัญ" ในยาที่คุณต้องการพกพาไป ไม่ใช่แค่ชื่อยี่ห้อ เพราะยาหลายชนิดมีชื่อการค้าที่ต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่มีสารสำคัญตัวเดียวกัน และเป็นสารสำคัญนี่แหละที่แต่ละประเทศจะใช้เป็นเกณฑ์ในการควบคุม ไม่ใช่ชื่อการค้า เช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล มีชื่อการค้าหลากหลายมาก แต่สารสำคัญคือ Paracetamol เหมือนกันหมด

การรู้ชื่อสารสำคัญจะช่วยให้คุณตรวจสอบข้อมูลได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ว่ายาตัวนั้นมีข้อจำกัดหรือเป็นยาควบคุมในประเทศปลายทางหรือไม่ ควรปรึกษาเภสัชกร หรือตรวจสอบจากฉลากยาให้ชัดเจนก่อนเดินทาง

เช็กกฎหมายของประเทศปลายทาง

ข้อนี้สำคัญสุดๆ เพราะแต่ละประเทศมีกฎระเบียบยาที่แตกต่างกันอย่างมาก บางประเทศอาจมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณ ชนิด หรือแม้กระทั่งส่วนประกอบของยาที่อาจจะหาได้ง่ายๆ ในบ้านเรา แต่ผิดกฎหมายในประเทศเขา เช่น ยาบางชนิดที่ไทยสามารถซื้อได้ตามร้านขายยา อาจถูกจัดเป็นยาควบคุมหรือยาเสพติดในบางประเทศ ซึ่งอาจมีโทษถึงขั้นปรับ หรือจำคุกได้เลยทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้แพ้ที่มีส่วนผสมของ Pseudoephedrine (ซูโดอีเฟดรีน) ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในยาแก้หวัดคัดจมูกบางชนิด อาจเป็นยาที่ต้องห้ามหรือมีข้อจำกัดในการนำเข้าในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด หรือยาแก้ปวดบางชนิดที่มีส่วนผสมของ Codeine (โคเดอีน) ก็อาจถูกจัดเป็นยาควบคุมในบางประเทศเช่นกัน

ทางที่ดีที่สุดคือการเข้าไปที่เว็บไซต์ของสถานทูต หรือสถานกงสุลของประเทศปลายทางที่คุณจะเดินทางไป เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด

ยาที่มีฤทธิ์แรงต้องมีใบสั่งแพทย์

สำหรับยาที่มีฤทธิ์แรง หรือเป็นยาควบคุมพิเศษ เช่น ยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของสารเสพติด (เช่น Tramadol, Codeine ในปริมาณสูง), ยานอนหลับบางชนิด, ยาคลายกังวล, ยาสำหรับโรคซึมเศร้า หรือยาสำหรับโรคประจำตัวบางประเภท มักจะต้องมี "ใบสั่งแพทย์" (Prescription) หรือ "ใบรับรองแพทย์" (Medical Certificate) กำกับติดตัวไว้เสมอ

ใบสั่งแพทย์ควรระบุ:

• ชื่อ-นามสกุลของผู้ป่วย
• ชื่อยา (ทั้งชื่อการค้าและชื่อสารสำคัญ)
• ขนาดยา และวิธีใช้
• เหตุผลทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ยา
• ระยะเวลาในการรักษา
• ชื่อและลายเซ็นของแพทย์ผู้สั่งยา
• ข้อมูลติดต่อของคลินิกหรือโรงพยาบาล

และที่สำคัญที่สุดคือ ควรเป็น ภาษาอังกฤษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ประเทศปลายทางสามารถตรวจสอบและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เมื่อรู้แล้วว่ายาที่คุณจะพกไปเข้าข่ายยาที่มีข้อจำกัดหรือไม่ ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมเอกสารประกอบการเดินทาง นี่คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณ เอายาขึ้นเครื่องได้ไหม แบบไร้กังวล

A. ใบรับรองแพทย์ (Medical Certificate/Prescription)

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ใบรับรองแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยาที่มีฤทธิ์แรง หรือยาควบคุม และควรระบุข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วนตามที่ได้แนะนำไป

B. ฉลากยา (Original Packaging/Labeling)

สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่สำคัญมากคือ ควรเก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิมที่มีฉลากยาครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ควรแกะยาออกจากแผงหรือกล่องเดิมแล้วนำมาใส่ซองยาเล็กๆ เพราะฉลากยาจะแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อยา, วันหมดอายุ, ขนาดยา, วิธีใช้, และชื่อผู้ผลิต ซึ่งจะเป็นหลักฐานยืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้ว่ายาที่คุณพกมานั้นถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง

C. อาจต้องขออนุญาตล่วงหน้าผ่านสถานทูต

สำหรับยาบางชนิด โดยเฉพาะยาเสพติดให้โทษบางประเภทที่ใช้ในทางการแพทย์ (เช่น Morphine สำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย) หรือยาที่มีสารควบคุมพิเศษมากๆ อาจจะต้องได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากสถานทูต หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศปลายทางก่อนเดินทาง ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นควรเผื่อเวลาดำเนินการไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน

หากไม่แน่ใจ ต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ถ้าคุณยังคงมีข้อสงสัย หรือไม่แน่ใจว่ายาที่คุณต้องการพกพาไปนั้นสามารถนำเข้าประเทศปลายทางได้หรือไม่ อย่าเสี่ยงเด็ดขาด! ควรสอบถามจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ดังนี้:

A. สถานทูต/สถานกงสุลของประเทศปลายทางในประเทศไทย

นี่คือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุด และเป็นที่เดียวที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเกี่ยวกับกฎหมายการนำเข้ายาของประเทศนั้นๆ แนะนำให้ติดต่อสอบถามโดยตรงทางโทรศัพท์หรืออีเมล และควรสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาของประเทศนั้นๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุด

B. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับยาของประเทศไทย หรือคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการพกยาเดินทางไปต่างประเทศ คุณสามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

การพกยาไปต่างประเทศดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่จริงๆ แล้วสำคัญมากๆ การเตรียมตัวและตรวจสอบข้อมูลเรื่องยาอย่างละเอียดก่อนเดินทางจะช่วยให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายใจ ปลอดภัยจากปัญหาทางกฎหมายที่ไม่คาดคิด

อย่าละเลยการตรวจสอบข้อมูลสำคัญเหล่านี้ เพื่อให้ทริปของคุณเต็มไปด้วยความสุขและไร้กังวล!

และเมื่อจัดการเรื่องยาเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวออกเดินทางจริงจัง! ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือกิจกรรมสนุกๆ ในต่างแดน Gother พร้อมช่วยให้ทริปของคุณเป็นจริงได้ง่ายๆ เพราะเรามีบริการครบวงจรให้คุณค้นหาและจอง ตั๋วเครื่องบิน สู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสายการบินชั้นนำหรือสายการบินราคาประหยัด พร้อมดีลพิเศษที่จะทำให้การเดินทางของคุณคุ้มค่ายิ่งขึ้น

ค้นหา ที่พัก ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรู รีสอร์ทสวยๆ หรือที่พักโฮสเทลน่ารักๆ เราก็มีตัวเลือกมากมายในทุกงบประมาณ และทุกทำเลที่คุณต้องการ

และเพื่อให้ทริปของคุณไม่น่าเบื่อ Gother ยังมี กิจกรรม และทัวร์น่าสนใจให้คุณเลือกจองล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นทริปผจญภัยในธรรมชาติ ทัวร์ชิมอาหาร ชมเมือง หรือเวิร์กช็อปสนุกๆ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง!

วางแผนการเดินทางและเรื่องยาของคุณให้ดี เพื่อประสบการณ์สุดประทับใจในต่างแดน! ให้ Gother เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณราบรื่นและเต็มไปด้วยความสุข!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ana airline / mahidol / doctoranywhere