สินค้าแนะนำ
รหัสทัวร์
GOJO9239
ระยะเวลา
8 วัน 5 คืน
ระดับที่พัก
สายการบิน
รอยัล จอร์แดน
ไฮไลต์ทัวร์
ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน-วิหารเทพซูส-ทะเลทรายวาดิรัม-ปราสาทครูเสดโชบัค-มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์-ทะเลสาบเดดซี-อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส-วิหารเฮอร์คิวลิส
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้า หมายเลข 7 เคาน์เตอร์ T สายการบิน Royal Jordanian (RJ) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านเอกสารการเดินทางและสัมภาระการเดินทางของท่านให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
วันที่ 2
สนามบินควีนอาเลีย – กรุงอัมมาน – เมืองอัจลุน – เมืองเจอราช – กรุงอัมมาน
00.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินควีนอาเลีย ประเทศจอร์แดน โดยสายการบิน Royal Jordanian เที่ยวบินที่ RJ183 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
04.40 น. เดินทางถึง สนามบินควีนอาเลีย กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปทางตอนเหนือของประเทศสู่ เมืองอัจลุน (Ajloun) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที) เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าต้นสน และต้นมะกอก นำท่านชม ปราสาทอัจลุน หรือป้อมอัจลุน (Ajloun Castle) ถูกสร้างโดยพวกนักรบมุสลิม ในปี ค.ศ. 1184-1185 ใช้เป็นป้อมทหารในการต่อสู้รบกับพวกนักรบครูเสด และในปี ค.ศ. 1260 และถูกเข้าทำลายโดยกองทัพมองโกล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำเดินทางสู่ เมืองเจอราช ชมนครเจอราช (Jerash) หรือ เมืองพันเสา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นอดีต 1 ใน 10 หัว เมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และถูกทรายฝังกลบจนสูญหายไปเป็นนับพันปี ชม ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน และ สนามแข่งม้าฮิปโปโดรม นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม โอวัลพลาซ่า สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมืองในยุคก่อน, วิหารเทพซูส, โรงละครทางทิศใต้ (สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน) ด้วยความสามารถทางสถาปัตย์ที่สร้างให้มีจุดสะท้อนเสียงตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์ เพียงพูดเบา ๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา ชม วิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน นำท่านเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักที่ใช้เข้า – ออกเมือง บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า, ฝาท่อระบายน้ำ, ซุ้มโคมไฟ และบ่อน้ำดื่มของม้า......ได้เวลาอันควรนำท่านเดินทางสู่กรุงอัมมาน เพื่อเข้าสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Hilton Amman Hotel ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 3
กรุงอัมมาน – เมืองเครัค – ทะเลทรายวาดิรัม าสโตเก้
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเครัค (Kerak) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ ชมทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาท้ังสองข้างทางจนได้ฉายาเป็น “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน” นำท่านชม ปราสาทเครัค (Kerak Castle) และ ป้อมโบราณยุคครูเสด เป็นป้อมปราการโบราณสมัยสงครามครูเสด สงครามที่เป็นการสู้รบกันระหว่างฝ่ายศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม เพื่อเข้ายึดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (เยรูซาเล็ม) โดยกินเวลายาวนานประมาณ 200 ปี และในระหว่างนั้นได้มีการสร้างป้อมปราการในจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ โดยปราสาทเครัค เป็นหนึ่งในป้อมปราการขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง สร้างขึ้นโดยกลุ่มอัศวินในสงครามครูเสดสายที่มาจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นฝ่ายศาสนาคริสต์ โดยมี Reynald-de-Chatillon (also known as Arnat) เป็นผู้นำทัพ แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1189 “ซาลาดิน” กษัตริย์อิสลามจากราชวงศ์ Ayyubid ของอียิปต์ บุกเข้าโจมตีปราสาทเครัคได้สำเร็จ จากนั้นปราสาทแห่งนี้ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมเผ่าต่างๆในภูมิภาคนี้มาโดยตลอด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านออกเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum Desert) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศ ซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปี ค.ศ. 1916-1918 ทะเลทราย แห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมาเป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” นำท่าน นั่งรถจิ๊ป เปิดหลังคารับบรรยากาศท้อง ทะเลทรายวาดิรัม ที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล ชมสถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พัก และคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน นำท่านท่องทะเลทรายต่อไปยังภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนแกะสลักก่อน ประวัติศาสตร์ ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ และรูปภาพต่าง ๆ ผ่านชมเต้นท์ชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย เลี้ยงแพะเป็นอาชีพ ฯลฯ (ไม่รวมค่าทิปคนขับรถในทะเลทรายวาดิรัม 2 USD/คน)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในแคมป์ทะเลทราย
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Sultana Rum Camp (Martian Tent) หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ทะเลทรายวาดิรัม – เมืองอาคาบา
05.00 น. นำท่านขี่อูฐ ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทรายวาดิรัม พร้อมเก็บภาพบรรยากาศที่ไม่มีวันลืม (รวมค่าขี่อูฐแล้ว แต่ ไม่รวมค่าทิปคนจูงอูฐ ประมาณ 1 USD/คน)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคาบา (Aqaba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที) เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี มีประชากรอาศัยราว 70,000 คน นำท่าน ล่องเรือท้องกระจก (Glass Boat) แล่นในทะเลแดง ทะเลที่มีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ จอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์ และ ซาอุดิอาระเบีย ให้ท่านได้ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ ทะเลแดงเป็นทะเลแห่งประวัติศาสตร์ ที่ได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่า ทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่ที่โมเสสได้ทำอัศจรรย์โดยการชูไม้เท้าแหวกทะเลแดง เป็นทางเดินพาชาวอิสราเอลให้หนีรอดพ้นจากการตามล่าของทหารอิยิปต์ เพื่อจับไปเป็นทาสของอียิปต์ และจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล คือกรุงเยรูซาเลมปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้ดำน้ำชมความงามของทะเลแดง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บาร์บีคิว (BBQ)
นำท่านเดินทาง สู่โรงแรมที่พัก ให้ทุกท่านได้พักผ่อนและเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลแดงตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ City Tower Aqaba Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
เมืองอาคาบา – เมืองเพตรา
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา (Petra) นำท่านแวะชม ปราสาทครูเสดโชบัค (Shobak Castle) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที) หรือที่รู้จักกัน ในพวกนักรบครูเสดชื่อมอนทรีลแห่งตะวันออก (East Montreal) ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์บอลด์วินที่1แห่งกรุงเยรูซาเลม ในปีค.ศ. 1115 สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการควบคุมเส้นทางกองคาราวานที่จะเดินทางจากดามัสกัส สู่กรุงอียิปต์ และในอดีตเมืองแห่งนี้มีชาวคริสต์อาศัยอยู่ราว 6,000คน โดยในปี ค.ศ. 1189 ได้ถูกทำลายลงโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของ ซาลาดิน นำท่านชมความสวยงามของปราสาทเก่าแก่อีกแห่งของประเทศจอร์แดน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองเพตรา (Petra) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) นำท่านชม เมืองเพตรา (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07) มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (Wadi Musa) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปี ในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นายโจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ นำท่าน ขี่ม้า (รวมค่าขี่ม้าเข้าเมืองเพตราแล้ว แต่ไม่รวมค่าทิปคนจูงม้า 1 USD/คน) บนถนนทะเลทราย สู่ถนนเข้าเมือง SIQ เส้นทางมหัศจรรย์ ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอน น้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ, รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง สุดปลายทางของช่องเขาพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (El-Khazneh Treasury) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่ 1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ นำท่านชม โรงละครโรมัน (Roman Theatre) ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลย์ได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียน ต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครอง ได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000 คน จากนั้นนำท่านเดินขึ้นบันไดหิน ประมาณ 800 ขั้น ขึ้นสู่ Monastery Petra อารามหรือที่ประชุมลับของกษัตริย์หรือผู้นำเมืองในสมัยก่อน อิสระให้ท่านเก็บภาพแห่งความประทับโดยรอบเพตรา......ได้เวลาอันสมควรและ เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลา นำท่านนั่งรถกอล์ฟออกจากเมืองเพตรา (ไม่รวมค่าทิปคนขับรถกอล์ฟ 2 USD/คน)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Petra Castle Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
PETRA BY NIGHT: จะเริ่มตั้งแต่ 20.00 น. – 22.30 น. (โปรแกรมรวมค่าเข้าเพตราไนท์แล้ว)
การเยี่ยมชมพิธีกรรมของเพตรา: ไม่ควรพลาดการแสดงที่ยอดเยี่ยม แนะนำทุกท่านเปิดประสบการณ์ ด้วยการเยี่ยมชม Petra Night Show งานนี้เป็นวิธีมหัศจรรย์ในการชมส่วนหนึ่งของเมืองหินด้วยแสงเทียนและสำรวจเมืองเก่ายามค่ำคืน ซึ่งกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ประสบการณ์ที่หาที่เปรียบไม่ได้ ด้วยการเดินผ่าน SIQ ใต้แสงเทียนไปยังคลังที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนกว่า 100 ดวง การแสดงแห่งนี้จะมีแค่ในคืนวันจันทร์ วันพุธและวันพฤหัสบดีเท่านั้น
วันที่ 6
เมืองเพตรา – ทะเลสาบเดดซี
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) หรือที่เรียกกันว่า ทะเลมรณะ อีกสมญานามหนึ่งว่าเป็น“ทะเลที่ไม่มีวันจม” ตั้งอยู่ตรงเขตแดนประเทศจอร์แดนและอิสราเอล เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และมีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20% ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ ความเข้มข้นของเกลือละลายอยู่สูงทำให้คนสามารถไปลอยน้ำในเดดซีได้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก โรงแรมตั้งอยู่ริมทะเลสาบเดดซี ให้ท่านได้สนุกกับการพอกโคลน เพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้นุ่มเนียน และเพลิดเพลินกับการลอยตัวในทะเลเดดซี เพื่อสุขภาพผิวพรรณที่ดี อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Holiday Inn Dead Sea Hotel ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
ทะเลสาบเดดซี – เมาท์ เนโบ – เมืองมาดาบา – กรุงอัมมาน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมาท์เนโบ (Mount Nebo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที) มีความสูง 817 เมตร จากระดับน้ำทะเล ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวเดินทางจากอิยิปต์มายังกรุงเยรูซาเลม ชม พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม (Small Museum) ภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือ ภาพที่ โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000 ชม อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส (The Serpentine Cross Sculpture) ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู อิสระให้ท่านถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาดาบา (Madaba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) อดีตเส้นทางสำคัญสมัยโรมัน ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม และเมืองแห่งเรื่องราวของโมเสสที่สำคัญทางหน้าประวัติศาสตร์ของศาสนายูดา, คริสต์ และอิสลาม ยังเป็นศูนย์กลางที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำโมเสก เป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน, หรือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ซึ่งใช้ในการตกแต่งมหาวิหาร หรือในปัจจุบันใช้ประยุกต์ในการตกแต่งบ้านเรือนหรือ เมืองแห่งโมเสก ชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ (Greek Orthodox Church of St. George) ถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชม ภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม (Holy Land of Jerusalem) ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน (Amman) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) นำท่านขึ้นชม ป้อมปราการ แห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้านการเมืองต่าง ๆ รอบเมือง ตั้งอยู่บนยอดเขา Jabal Al – Qala’a อิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมัน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน ซึ่งเป็นอัฒจันทร์หินแห่งศตวรรษที่ 2 จุผู้ชมได้ 6,000 คน ซึ่งในปัจจุบันใช้จัดกิจกรรมเป็นครั้งคราว และ ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก ชม วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) ที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161–180 ในสมัยโรมัน ชม พระราชวังเก่าอุมมายาด (Umayyad Old Palace) สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดน เป็นอาคารที่ที่มีความสวยงามได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี ภายในมีอาคารห้องโถงรูปทรงโดมขนาดใหญ่ คือ Audience hall เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาคารในพระราชวังอุมัยยะฮ์ ใช้เป็นบ้านพักอาศัยของผู้ปกครองเมือง เป็นการสร้างทับสิ่งก่อสร้างเดิมยุคไบเซนไทน์ ภายในประกอบไปด้วยห้องทำงาน, ห้องรับแขก ฯลฯ เมื่อมองไปด้านเหนือ จะเห็นธงชาติจอร์แดนขนาดใหญ่โบกสะบัดแต่ไกล ชาวจอร์แดนต่างภาคภูมิใจว่าธงนี้เป็นธงที่สูงที่สุดในโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินควีนอาเลีย กรุงอัมมาน
วันที่ 8
สนามบินควีนอาเลีย – สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
02.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Royal Jordanian เที่ยวบินที่ RJ182 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
14.35 น. เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ชำระเงินเต็มจำนวน
การจองนี้ยังไม่ใช่การยืนยันที่นั่ง (เนื่องจากที่ว่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเช็คที่นั่งว่างและแจ้งกลับลูกค้าอีกครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Economy Class สายการบิน Royal Jordanian (น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน 25 กก./ท่าน)
ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
ค่าวีซ่า ประเทศจอร์แดน สำหรับหนังสือเดินทางประเทศไทยเท่านั้น
ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงิน 1,000,000.- บาท (ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 85 ปี)
ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่), ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในโปรแกรม, มีน้ำดื่มบริการ
ค่าพาหนะ หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามโปรแกรมระบุ
เจ้าหน้าที่ไกด์คนไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์, ค่าแฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุ
ค่าทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
ค่าจัดทำเอกสาร และค่าธรรมเนียมวีซ่าของชาวต่างชาติ
ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง กรณีเกินกว่าที่สายการบินกำหนด (25 กิโลกรัม / ท่าน)
ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (หากมีการปรับขึ้น)
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ต่าง ๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และ ค่าอาหารที่สั่งมานอกเหนือจากทาง เมนูอาหารที่ทางบริษัทฯ จัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์คนไทย ท่านละ 32 USD/Trip
ไม่รวมค่าทิปไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ ท่านละ 36 USD/Trip
ไม่รวมค่าทิปคนขับรถในทะเลทรายวาดิรัม, คนจูงม้า, คนจูงอูฐ, คนขับรถกอล์ฟในเพตรา ท่านละประมาณ 1-2 USD/ 1 กิจกรรม
ยกเลิกก่อนการเดินทางมากกว่า 40 วัน คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ยกเว้นค่าวีซ่าที่ยื่นและตั๋วเครื่องบินที่ออกล่วงหน้า และกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดเทศกาล เช่น สงกรานต์, วันแรงงานแห่งชาติ, วันหยุดเดือน กรกฎาคม, วันหยุดเดือน ตุลาคม ที่ต้องการันตี มัดจำกับทางสายการบินหรือกรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พัก โดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่อาจขอคืนเงินได้)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 25-39 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์
ยกเลิกการเดินทาง 1-24 วัน เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 % ของราคาทัวร์
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืนในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย จนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณีที่สูญหายสูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ฯลฯ