ผจญภัย 10 เส้นทางรถไฟท่องเที่ยวในญี่ปุ่น วิวสวยที่คนไม่ค่อยรู้

ใครว่าเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปแต่ที่ดังๆ บทความนี้ Gother อยากชวนเพื่อนๆ มารู้จักกับ 10 เส้นทางรถไฟชมวิวญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สวยๆ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่ค่อยรู้จัก แต่รับรองว่าน่าตื่นตาตื่นใจพอๆ กับที่เที่ยวยอดฮิตเลย เพราะได้เห็นทั้งช่วงเวลาที่ซากุระบานสะพรั่ง ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือเส้นทางเลียบทะเลที่เราจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติแบบใกล้ชิด มาดูกันดีกว่าว่ามีเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นไหนบ้างที่ควรไปตามรอย

ถ้าคุณเป็นสายผจญภัยและรักธรรมชาติ เส้นทาง Kurobe Gorge Railway คือตัวเลือกที่ต้องไป! รถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นสายนี้วิ่งผ่านช่องเขาที่สวยงามในจังหวัดโทยามะ และพาคุณไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่ยังคงความดั้งเดิมและบริสุทธิ์แบบสุดๆ รางรถไฟจะพาคุณผ่านป่าที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดทางคุณจะได้เห็นความหลากหลายของต้นไม้และสัตว์ป่าในธรรมชาติที่แสนเงียบสงบ

ถ้าไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คุณจะได้พบกับความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร ใบไม้สีส้มและแดงจะบานสะพรั่งท่ามกลางภูเขาและแม่น้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในภาพวาดธรรมชาติสุดอลังการ แม่น้ำที่ไหลผ่านช่องเขาและภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ทั้งสองข้างทางเพิ่มความงดงามให้กับเส้นทางนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการขับผ่านสะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงเหนือช่องเขา บรรยากาศตอนที่รถไฟชมวิวญี่ปุ่นสายนี้วิ่งผ่านสะพานจะทำให้คุณได้สัมผัสความตื่นเต้นและความงดงามจากมุมมองที่ไม่เหมือนใคร จึงทำให้การเดินทางบน Kurobe Gorge Railway กลายเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าจดจำจริงๆ!

ถ้าอยากไปเที่ยวในบรรยากาศสวยๆ ธรรมชาติชิลๆ ลองนั่งรถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นสาย Isumi Railway ดูสิ! เป็นเส้นทางรถไฟที่วิ่งผ่านชนบทของจังหวัดชิบะ ที่จะพาคุณไปชมวิวสวยๆ ทั้งทุ่งนา ทุ่งดอกไม้ และป่าเขา บอกเลยว่ามันสวยสุดๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกนาโนะฮานะ หรือดอก Rapeseed สีเหลืองทองบานเต็มสองข้างทาง เส้นทางนี้จะมีดอกนาโนะฮานะบานยาวๆ ถึงเกือบครึ่งทางของเส้นทางเลยนะ มันเหมือนกับการนั่งผ่านทุ่งดอกไม้สีเหลืองสดใสไปเรื่อยๆ

ขอบอกว่าช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเมษายนเป็นช่วงที่ดอกนาโนะฮานะบานเต็มที่ ส่วนช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายนก็จะได้เห็นดอกซากุระบานด้วยนะ ฟินสุดๆ ไปเลย

นอกจากดอกไม้แล้ว ยังมีสถานีต่างๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะ อย่างสถานี Ohara ที่เชื่อมกับ JR Sotobo Line และปลายทางที่ Kazusa-Nakano Station ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟ Kominato Railway ที่ก็มีทุ่งดอกนาโนะฮานะเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีปราสาท Otaki และย่านเก่ารอบๆ ให้เที่ยวชมด้วย

ถ้าอยากได้บรรยากาศฟินๆ กับซากุระสวยๆ ต้องนั่งรถไฟ Keifuku Randen Tram เลย! โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานเต็มต้น บอกเลยว่าสวยที่สุด! คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศน่าตื่นตาตื่นใจ ขณะที่รถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นสายนี้วิ่งผ่านอุโมงค์ซากุระสีชมพูสดใสสองข้างทาง ฟีลเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของดอกไม้เลยล่ะ

การเดินทางก็สะดวกสุดๆ จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) นั่งรถบัสไปสถานี Shijo-Omiya แล้วต่อรถรางไปยังสถานีนารุทากิ (Narutaki Station) เส้นทางนี้จะพาคุณผ่านจุดชมวิวเด็ดๆ ในเกียวโต อย่าง อาราชิยาม่า (Arashiyama) ที่มีซากุระเรียงรายเต็มสองข้างทาง จนเหมือนล่องลอยผ่านทะเลซากุระ บอกเลยว่าฟีลมันเหมือนอยู่ในภาพยนตร์โรแมนติกเลย!

พิเศษไปกว่านั้น รถไฟชมวิวญี่ปุ่นสายนี้จะชะลอความเร็วตอนถึงจุดชมซากุระ เพื่อให้คุณได้ถ่ายภาพและดื่มด่ำกับความงามของต้นซากุระอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่มีการเปิดไฟประดับต้นซากุระ ให้คุณได้ชมซากุระท่ามกลางแสงไฟในบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ 

อยากไปดูความสวยงามของฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ถึงจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในเกียวโต แถมยังเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ อย่างอาราชิยาม่าอีกด้วย! อยากให้ลองไปนั่งรถไฟชิลๆ ชมวิวเพลินๆ แบบนี้ รับรองว่าคุ้ม! ใครไม่เคยไปพลาดมาก!

รถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นสาย ทาดามิ (Tadami Line) ที่วิ่งผ่านพื้นที่โอคุ-ไอซุในจังหวัดฟุคุชิมะ ถือเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามของธรรมชาติที่ยังคงความดงดิบของภูมิทัศน์ที่ไม่เคยถูกแตะต้อง จุดเด่นของเส้นทางนี้คือลำธารและสะพานที่ทอดข้ามหุบเขาในฤดูหนาว ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น การเดินทางบนรถไฟชมวิวญี่ปุ่นสายนี้ในฤดูหนาวจะทำให้คุณได้สัมผัสกับหิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วทุ่งนาและป่าลึก ซึ่งเมื่อรถไฟขับผ่านทิวทัศน์อันงดงามเหล่านี้ จะเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความเงียบสงบ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เมื่อหิมะตกหนาและทิวทัศน์จะสวยงามเหมือนภาพวาด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าจดจำในชีวิต พร้อมกันนี้ระหว่างการเดินทาง คุณจะได้เห็นภาพของสะพานและทัศนียภาพอันงดงามจากหน้าต่างรถไฟ เส้นทางรถไฟทาดามิไม่เพียงแต่มีวิวที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่ ที่คุณจะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นอย่างแท้จริง

หากคุณต้องการไปชมวิวนี้ให้ได้อรรถรสที่สุด ต้องลงที่ สถานี Aizu-Miyashita แล้วนั่งรถต่อไปยังจุดชมวิวสะพานซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 5 นาทีเท่านั้น! บอกเลยว่าสถานที่นี้เหมาะแก่การถ่ายรูปสุดๆ! จองตั๋วรถไฟแล้วเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในโลกขาวๆ ที่จะทำให้คุณลืมไม่ลงเลย! 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เตรียมตัวไปลุยหิมะ อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ และรองเท้าบูทกันหิมะ เพื่อให้การเดินทางของคุณสนุกและปลอดภัยที่สุด เพราะเส้นทางนี้เต็มไปด้วยหิมะและอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว และหิมะอาจตกหนักจนสูงถึง 1 เมตรในคืนเดียว!

ถ้าคุณอยากสัมผัสกับเส้นทางที่ได้รับการขนานนามว่า "รถไฟโรแมนติก" สักครั้ง ต้องไม่พลาด Sagano Scenic Railway ในย่านอาราชิยาม่า เมืองเกียวโต! รถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นเส้นทางนี้จะพาคุณไปสัมผัสบรรยากาศที่ทั้งโรแมนติกและผ่อนคลายสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่งริมแม่น้ำโฮซุ (Hozu River) หรือในฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นทองและแดงระยิบระยับไปทั่วเส้นทาง รถไฟขบวนเก่าแก่จะพาคุณวิ่งผ่านป่าร่มรื่นและแม่น้ำที่ไหลผ่านหินก้อนใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากหนังรักโรแมนติก

สิ่งที่ทำให้รถไฟชมวิวญี่ปุ่นเส้นทางนี้พิเศษคือการวิ่งผ่านธรรมชาติที่สวยงามบนรถไฟโบราณที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไป การได้เห็นวิวทิวทัศน์ของป่าเขียวขจีและภูเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ นอกจากนั้นยังมีบางจุดที่รถไฟวิ่งขนานกับแม่น้ำโฮซุ ทำให้การเดินทางยิ่งเพิ่มความโรแมนติกเข้าไปอีก ถ้าคุณนั่งรถไฟโบกี้ที่เปิดรับลมเย็นสดชื่นจะยิ่งทำให้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดสุดๆ

เหมาะมากสำหรับการเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์กับคนพิเศษ หรือแม้แต่กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่อยากจะหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ มาสัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครแบบนี้ รับรองว่า Sagano Scenic Railway จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสงบและความงดงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่!

Gono Line เป็นอีกหนึ่งเส้นทางรถไฟชมวิวญี่ปุ่นที่สวยงามสุดๆ เชื่อมต่อฮิกาชิโนะชิโระ (Higashinoshiro) ในจังหวัดอะคิตะ จนถึงสถานี Kawabe ในจังหวัดอะโอโมริ ระยะทางรวมหลายร้อยกิโลเมตร สำหรับใครที่รักวิวทะเลและภูมิทัศน์ธรรมชาติ เส้นทางนี้วิ่งตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่สวยงามที่สุดในประเทศ ที่จะพาคุณชมวิวทะเลสุดอลังการตลอดเส้นทาง 

จุดเด่นของ Gono Line คือการที่รถไฟจะวิ่งไปตามชายฝั่งทะเลที่มีคลื่นซัดสาดและวิวของมหาสมุทรที่ตัดกับทิวเขาอย่างลงตัว ถ้าคุณไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือต้นฤดูร้อน คุณจะได้เห็นท้องฟ้าสีฟ้าใสสะอาดตาและน้ำทะเลใสๆ ที่สวยจนแทบไม่อยากเชื่อ สร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนตร์รักโรแมนติกที่เราเห็นในหนังญี่ปุ่น นอกจากนี้ ถ้าโชคดีอาจได้เห็นการตกปลาของชาวประมงตามริมทะเล หรือแวะทานอาหารทะเลสดๆ ที่เสิร์ฟร้อนๆ ด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ

หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงจะเป็นดอกซากุระที่บานสะพรั่งเต็มเมือง และถ้าอยากสัมผัสความสวยงามของดอกซากุระในบรรยากาศที่ฟินสุดๆ ขอแนะนำเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่น Tohoku Line ที่มุ่งตรงไปยัง Ogawara ในจังหวัดมิยางิ ช่วงกลางเดือนเมษายนนี้! บนเส้นทางนี้ คุณจะได้เห็นวิวภูเขา Zao ที่สวยงามทั้งป่าเขียวขจีและทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะขาวๆ รอให้คุณชมตลอดการเดินทาง พอใกล้ถึง Ogawara ก็จะได้เห็นดอกซากุระบานเต็มต้นเรียงรายไปตามทางรถไฟ บอกเลยว่าต้องเตรียมกล้องให้พร้อม!

เมื่อมาถึง Ogawara อย่าลืมไปเยือน ภูเขา Zao ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่คุณจะได้เห็นทั้งทุ่งหญ้าเขียวขจีและดอกไม้บานสวยๆ รวมถึงวิวภูเขาอันน่าประทับใจที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอีกใบเลยล่ะ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักที่เดินทางสะดวกและมีกำหนดเวลารถไฟที่พาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้อากาศเย็นสบายในช่วงกลางเดือนเมษายนยังทำให้การเดินทางยิ่งเพลิดเพลินไปอีก!

ใครที่อยากได้ประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นที่แตกต่างและเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบย้อนยุค ต้องไปที่ สถานี Godo บนรถไฟสาย Watarase Keikoku Railway Line ที่เมืองมิโดริ จังหวัดกุมมะกันเลย! รถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นดีไซน์เก่าขบวนนี้จะพาคุณไปดูวิวทุ่งดอกไม้สีชมพูและแดงที่บานสะพรั่งริมทางรถไฟในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทำให้การเดินทางนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่สดใสและโรแมนติกสุดๆ เพราะสองข้างทางรถไฟเต็มไปด้วย ดอกซากุระ และ ดอกไม้สีแดง ที่บานสะพรั่งช่วงกลางเดือนเมษายน บรรยากาศที่นี่เหมือนภาพในหนังเลยล่ะ! การเดินทางบนรถไฟไม่เพียงแต่เป็นประสบการณ์ที่สนุก แต่ยังให้คุณได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติแบบดั้งเดิมที่ไม่ค่อยมีให้ได้เห็นบ่อยๆ ด้วย

รถไฟฟ้าสาย เอโนะชิมะ (Enoshima Dentetsu Line) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า เอโนะเด็น (Enoden) เป็นหนึ่งในรถไฟท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคามาคุระ (Kamakura) และเกาะเอโนะชิมะ (Enoshima Island) โดยรถไฟท่องเที่ยวญี่ปุ่นสายนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ นั้นแสนสะดวกสบาย

เส้นทางของเอโนะเด็นวิ่งระหว่างสถานีคามาคุระ (Kamakura Station) และสถานีฟูจิซาวะ (Fujisawa Station) รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่สิ่งที่ทำให้การเดินทางนี้น่าสนใจมากขึ้นคือทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้จากหน้าต่างรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเลที่สวยงาม ภูเขาไฟฟูจิที่เด่นชัดในช่วงฤดูหนาว หรือสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ตามเส้นทาง ทั้งหมดนี้ทำให้การเดินทางด้วยเอโนะเด็นเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ในระหว่างทาง คุณสามารถแวะลงที่สถานีต่างๆ และเดินเที่ยวเล่นตามสถานที่ที่น่าสนใจได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศปลอดโปร่ง จะทำให้คุณเห็นภูเขาไฟฟูจิจากชายฝั่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และหากคุณชอบบรรยากาศชายทะเลก็สามารถแวะไปที่สถานี ชิจิริกาฮามะ (Shichirigahama Station) ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม และเป็นสถานที่ที่คนท้องถิ่นแนะนำให้ไปชมวิวทะเล การเดินทางด้วยเอโนะเด็นเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง วิวทะเลและภูเขาที่คุณเห็นระหว่างทางจะทำให้การเดินทางของคุณไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว!

สถานีคาคุโนะดาเตะในเมืองเซมโบกุ จังหวัดอาคิตะ เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจบนรถไฟสาย Akita Nairiku Line ที่ไม่ควรพลาด! รถไฟชมวิวญี่ปุ่นสายนี้มีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ด้วยขบวนรถไฟท้องถิ่นที่มีเพียง 1 ตู้โดยสาร ภายในตกแต่งด้วยภาพของเจ้าหมาอาคิตะอินุ สัญลักษณ์ของจังหวัดอาคิตะ ซึ่งทำให้การเดินทางนี้เต็มไปด้วยความน่ารักและอบอุ่น รถไฟวิ่งช้าๆ แบบเนิบๆ ตลอดเส้นทาง 94.2 กิโลเมตร ผ่านสถานีต่างๆ ที่เชื่อมโยงธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งนาข้าว ภูเขา แม่น้ำ และหมู่บ้านท่ามกลางทิวทัศน์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล

หนึ่งในไฮไลท์ที่ทำให้รถไฟสายนี้โด่งดังคือ ศิลปะบนทุ่งนาข้าว (Tanbo Art) ที่สร้างขึ้นในช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม-กันยายน) ซึ่งจะมีการเปลี่ยนธีมทุกปี ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มานั่งรถไฟสายนี้! 

ใครที่หลงรักเสน่ห์ของธรรมชาติญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รถไฟสาย Akita Nairiku จะพาคุณสัมผัสความสวยงามของสถานที่หลากหลายตลอดเส้นทาง ที่สำคัญสามารถเลือกนั่งได้ตามความสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางยาวตลอดเส้นทาง เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจตามทาง ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากแวะที่ไหนหรืออยากให้การเดินทางสะดวกและคุ้มค่าที่สุด สามารถเลือกซื้อตั๋วแบบรายสถานี หรือหากมีหลายจุดที่อยากไป สามารถเลือกแพ็คเกจบัตรโดยสารรถไฟเพื่อความคุ้มค่าได้เช่นกัน

และนี่คือ 10 เส้นทางรถไฟท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยวิวธรรมชาติสุดอลังการและบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร! ไม่ว่าจะเป็นการชมดอกไม้บาน ทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงาม หรือแม้แต่การนั่งรถไฟเลียบทะเลที่วิวสุดอลังการ ทั้งหมดล้วนเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด

หากคุณอยากสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติในญี่ปุ่นแบบนี้แล้ว อย่ารอช้า! จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า หรือค้นหา ตั๋วรถไฟชมวิวญี่ปุ่น ที่ Gother เพื่อนั่งรถไฟไปสัมผัสความงามของเส้นทางเหล่านี้ พร้อมเต็มอิ่มกับบรรยากาศที่คุณจะไม่มีวันลืมได้เลย!