check-mark-iconคัดลอกลิงก์ไปที่คลิปบอร์ดแล้ว

พาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? เตรียมตัวยังไงให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่อง

พาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? เตรียมตัวยังไงให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่อง

travel-story-1746596463_4c7cc7f1bc71d2c4924f-0


คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่พาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เชื่อว่ามีความกังวลใจไม่น้อยเลย เพราะกลัวว่าลูกน้อยงอแงหรือส่งเสียงดังรบกวนผู้โดยสารคนอื่นบนเครื่อง เพราะปฏิกิริยาของเด็กเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากมาก ๆ ยิ่งต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ขนาดผู้ใหญ่เวลาที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกยังเกิดความกลัวหรือประหม่าได้เลย แล้วต้องจัดเตรียมสัมภาระและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับลูกน้อยให้ครบถ้วน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะขึ้นเครื่องไม่ได้ รวมถึงความปลอดภัยระหว่างการเดินทางของลูกน้อยด้วย เรียกได้ว่าเกิดความกังวลทุกสิ่งทุกอย่างเลยจริง ๆ ซึ่งในวันนี้ Gother อยากจะมาแชร์เคล็ดลับในการพาเด็กขึ้นเครื่อง และการพาเด็กขึ้นเครื่องบินเอกสารอะไรบ้างที่จะต้องเตรียมให้ครบ เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยตะลุยฟ้าเที่ยวได้อย่างสบายใจแบบไร้กังวล!

พาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

  คุณพ่อคุณแม่วางแพลนเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งไปเที่ยวครั้งนี้อยากจะพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินไปด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร สำหรับการพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินครั้งแรก มาดูกัน  
 

1. ควรศึกษาข้อกำหนดและกฎของสายการบินก่อนจองตั๋วเครื่องบิน

  สิ่งแรกควรทำในการพาลูกขึ้นเครื่องบิน คือ ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ควรศึกษาข้อกำหนดและกฎของสายการบินที่จะเดินทางด้วย เนื่องจากแต่ละสายการบินจะมีกำหนดอายุเด็กในการขึ้นเครื่องบิน เช่น สามารถให้พาเด็กเล็กที่มีอายุขั้นต่ำ 7 วัน หรือ 14 วัน ขึ้นเครื่องได้ แต่ว่าเด็กต้องนั่งตักพ่อหรือแม่หรืออนุญาตให้อายุน้อยกว่านั้นจะสามารถขึ้นเครื่องบินได้ และที่สำคัญจะต้องแจ้งสายการบินตอนจองตั๋วเครื่องบินด้วยว่ามีเด็กเล็กเดินทางไปด้วย  
 

2. พาลูกไปตรวจสุขภาพกับแพทย์

  เมื่อจองตั๋วเครื่องบินให้ลูกน้อยเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลาลูกน้อยไปตรวจสุขภาพกับแพทย์ ว่าลูกมีความพร้อมสำหรับการเดินทางหรือไม่ รวมถึงการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ให้กับเด็กก่อนจะเดินทางด้วย  
 

3. เตรียมเอกสารการเดินทางให้ครบถ้วน

  เอกสาร เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเอกสารจะใช้เพื่อยืนยันแสดงตัวตนในการขึ้นเครื่องบิน เอกสารที่จะต้องเตรียมสำหรับเด็ก แบ่งออกตามอายุ ดังนี้  
 
  • กรณีเด็กทารกอายุตั้งแต่ 14 วัน แต่ไม่ถึง 7 ปีบริบูรณ์ ในวันเดินทาง ต้องใช้เอกสารใบสูติบัตรฉบับจริงเท่านั้น หรือพาสปอร์ตสำหรับการเช็กอิน ซึ่งพาสปอร์ตใช้ในกรณีเดินทางต่างประเทศ 
  • กรณีเด็กทารกอายุตั้งแต่ 7 วันปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 15 ปีบริบูรณ์ ในวันเดินทาง จะต้องใช้เอกสารใบสูติบัตรฉบับจริงเท่านั้น หรือบัตรประชาชนเด็ก หรือพาสปอร์ตสำหรับการเช็กอิน ซึ่งพาสปอร์ตใช้ในกรณีเดินทางต่างประเทศ
 

  ทั้งนี้ ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศ คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมทั้งสูติบัตรตัวจริงและพาสปอร์ต รวมถึงวีซ่าของประเทศนั้น ๆ ด้วย ในกรณีเดินทางเข้าประเทศที่จะต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางด้วย  
 

4. เตรียมรถเข็นเด็กและเป้อุ้มเด็กให้พร้อม 

  รถเข็นเด็กและเป้อุ้มเด็กจัดเป็นอุปกรณ์สำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมไปด้วยเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระและทุ่นแรงในการอุ้มลูกตลอดทริปของการไปเที่ยว ถ้ากังวลว่ารถเข็นเด็กจะนำขึ้นเครื่องบินได้ไหม ก็ต้องบอกว่ารถเข็นเด็กสามารถเช็กอินแล้วโหลดขึ้นเครื่องไปพร้อมกระเป๋าเดินทางได้เลย หากคุณแม่อยากจะเข็นรถไปจนถึงหน้าเกท (Gate) หรือประตูเครื่องบินก็สามารถทำได้เช่นกัน  
 

5. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นของลูกน้อยให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่อง

  นมและของใช้ที่จำเป็นสำหรับลูก เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมโดนเด็ดขาด! คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมกระเป๋าเพื่อจะใส่ของลูกโดยเฉพาะ และเลือกของใช้ที่จำเป็นจริง ๆ ขึ้นเครื่องไปด้วย ได้แก่

 
  • นมผง กรณีที่ต้องชงนม ควรเตรียมน้ำให้พร้อม เพราะสายการบินจะไม่มีให้บริการ ทั้งนี้ของเหลวที่พกพาไปขึ้นต้องไม่เกิน 100 มล. ต่อชิ้น
  • ผ้าคลุมให้นม กรณีที่ลูกกินนมแม่ เวลาให้นมจะได้คลุมปิดเพื่อความเรียบร้อย
  • ผ้าอ้อม เตรียมให้เพียงพอต่อการเดินทางและเผื่อกรณีฉุกเฉิน
  • ทิชชู่เปียกและทิชชู่แห้ง สำหรับเช็ดทำความสะอาด
  • ถุงใส่ผ้าอ้อมที่ใช้แล้ว เพื่อความสะอาดและจะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้โดยสารคนอื่น
  • ยาประจำตัวและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ และพลาสเตอร์
  • ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่ลูกชอบ หรือหนังสือนิทาน กรณีที่ลูกร้องไห้จะได้มีของเหล่านี้ไว้ปลอบให้ลูกสงบ
   

6. ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศให้กับลูกน้อย



กรณีที่พาเด็กขึ้นเครื่องบิน ครั้งแรก พาเที่ยวต่างประเทศ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศให้ทั้งลูกและตัวเองเพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง เพราะประกันการเดินทางจะช่วยคุ้มครองกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น กรณีที่เจ็บป่วย กรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก หรือเที่ยวบินล่าช้า กรณีกระเป๋าเดินทางสูญหาย กรณีที่เอกสารต่าง ๆ สูญหาย เป็นต้น

 

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม เมื่อต้องพาเด็กขึ้นเครื่องบิน

travel-story-1746596580_71b6e4f535eadfae1908-0

  แม้ว่าจะเป็นเด็กทารกหรือเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปีนั้น ทุกครั้งก่อนขึ้นเครื่องบินคุณพ่อคุณแม่จะต้องแสดงเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน โดยเอกสารที่จะต้องเตรียมนั้นจะแตกต่างกันไปเล็กน้อยขึ้นอยู่เส้นทางในการบิน รวมถึงอายุของเด็กที่เดินทางด้วย สรุปมาให้แล้วว่ามีเอกสารอะไรบ้างที่จะต้องเตรียม ดังนี้  

1. กรณีเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ

  เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ต้องเตรียมเอกสารในการเดินทาง ดังนี้

 
  • สูติบัตรใช้ตัวจริงเท่านั้น หรือหรือสำเนาที่มีเจ้าหน้าที่รับรอง ซึ่งเป็นเอกสารหลักที่ใช้ยืนยันตัวตนและอายุของเด็ก
  • ทะเบียนบ้าน สามารถใช้ตัวจริง หรือหรือสำเนาที่มีเจ้าหน้าที่รับรอง ซึ่งบางสายการบินอาจจะไม่ต้องใช้เอกสารนี้
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริง กรณีนี้ถ้ามีก็สามารถใช้แทนสูติบัตรหรือทะเบียนบ้านได้
  • บัตรประจำตัวผู้พิการตัวจริงเท่านั้น กรณีเด็กมีบัตรประจำตัวผู้พิการ ให้แนบให้เจ้าหน้าที่สายการบินไปด้วย
  เด็กอายุ 7 ปีขั้นไป แต่ไม่ถึง 18 ปี ต้องเตรียมเอกสารในการเดินทาง ดังนี้

 
  • บัตรประจำตัวประชาชน ตัวจริง
  • สูติบัตรใช้ตัวจริงเท่านั้น หรือหรือสำเนาที่มีเจ้าหน้าที่รับรอง กรณีที่ไม่มีบัตริประชาชน
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริง (ถ้ามี)
  • กรณีที่เด็กเดินทางพร้อมกับผู้ปกครองนั้น ผู้ปกครองจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) หรือหนังสือเดินทาง (Passport) (ตัวจริง) แนบมาด้วย
 

2. กรณีเดินทางด้วยเครื่องบินระหว่างประเทศ

  เด็กทุกอายุ รวมถึงทารก ต้องเตรียมเอกสารในการเดินทาง ดังนี้

 
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริง โดยหนังสือเดินทางจะต้องมีอายุเหลือตามข้อกำหนดของประเทศปลายทางที่จะเดินทางไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปนับจากวันเดินทาง
  • วีซ่า (Visa) กรณีที่เดินทางไปยังประเทศปลายทางที่จะต้องมีวีซ่า
  • สูติบัตรใช้ตัวจริงเท่านั้นหรือหรือสำเนาที่มีเจ้าหน้าที่รับรอง ซึ่งบางกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของบางประเทศอาจจะมีการขอดูเอกสารเพื่อยืนยันความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง
  กรณีที่เด็กเดินทางโดยไม่มีคุณพ่อหรือคุณแม่ หรือเดินทางกับคุณพ่อหรือคุณแม่เพียงคนเดียว ต้องเตรียมเอกสารในการเดินทาง ดังนี้

 
  • ต้องมีหนังสือยินยอมที่ออกโดยคุณพ่อและคุณแม่ที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย โดยต้องมีการรับรองลายมือชื่อจากอำเภอหรือโนตารีพับลิค (Notary Public)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางของคุณพ่อและ/หรือคุณแม่ที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย
  • เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่ เช่น ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า หรือใบปกครองบุตร (แล้วแต่กรณี)
    ทั้งนี้ แนะนำว่าเอกสารทั้งหมดที่เตรียมเดินทางนั้น ควรจะต้องสำเนาเอกสารทั้งหมด เก็บไว้ทั้งในรูปแบบกระดาษและไฟล์ดิจิทัล พร้อมมีข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล ของสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในประเทศปลายทาง เผื่อว่าเกิดฉุกเฉินที่จำเป็นต้องติดต่อ และในกรณีที่เด็กมีโรคประจำตัวนั้น หรือมีความจะเป็นจะต้องใช้ยา ควรมีใบรับรองแพทย์ติดตัวไปด้วย

 

6 เทคนิคง่ายๆ ช่วยให้เด็กไม่งอแง เมื่อต้องขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

travel-story-1746596656_91a3bf6748b1368d84e3-0

  การพาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าท้ายคุณพ่อคุณแม่พอสมควรเลย โดยเฉพาะลูกที่ยังเด็กเล็กมาก ๆ ด้วยความเป็นเด็กเล็กที่ไม่สามารถสื่อสารได้ว่าต้องการอะไร และอาจจะมีการร้องงอแงได้บนเครื่องบิน วันนี้เราก็เลยอยากจะมาบอกเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยลดอาการงอแงของเด็กเมื่อต้องขึ้นเครื่องบินครั้งแรก รับรองว่าจะแฮปปี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และเพื่อนร่วมทาง  
 

1. ควรเลือกไฟล์ทบินให้ตามเวลานอนของเด็ก

  เทคนิคง่าย ๆ สำหรับการพาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เพื่อช่วยอาการงอแงได้ ก็แนะนำให้เลือกไฟล์ทบินที่เป็นเวลานอนควรเด็ก ๆ ถ้าเป็นเที่ยวบินสั้น ๆ ก็อาจเลือกเวลาที่ลูกตื่นและไม่งอแงง่าย แต่ถ้าเป็นเที่ยวบินยาวควรพิจารณาเที่ยวบินกลางคืนที่อาจจะช่วยให้ลูกหลับได้ตลอดทาง ซึ่งวิธีจะช่วยทำให้เด็ก ๆ ไม่งอแงและร้องไห้ระหว่างเดินทางได้พอสมควรเลย  
 

2. เล่าเรื่องเล่าการเดินทางด้วยเครื่องบินให้เด็กฟัง

  นำหลักจิตวิทยามาใช้กับเด็ก ๆ สำหรับเด็กที่พอจะเข้าใจแล้วคุณพ่อคุณแม่อาจจะเล่าเรื่องราวเครื่องบินและการจะเดินทางด้วยเครื่องบินให้ลูกฟังด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ๆ ซึ่งการจะเลือกใช้เป็นหนังสือภาพ วิดีโอ หรือของเล่นที่เป็นเครื่องบิน เพื่อเป็นการความคุ้นเคยให้กับเด็ก ๆ ยังช่วยลดอาการตื่นเต้นได้อีกด้วย  
 

3. เตรียมนมหรืออาหารของเด็กให้พร้อม

  เมื่อรู้ว่าลูกน้อยกินเก่งกินบ่อย คุณแม่ต้องเตรียมนมหรืออาหารสำหรับเด็กให้พร้อม โดยปกติเด็กเล็กจะหิวค่อนข้างบ่อย แม้ว่าจะเดินทางระยะสั้น คุณพ่อคุณแม่ควรจะเตรียมนมหรืออาหารของลูกน้อยให้เพียงพอตลอดการเดินทาง เผื่อว่าลูกร้องหิวจะได้ให้นมกินทันที โดยสายการบินส่วนใหญ่จะอนุญาตให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางร่วมกับเด็กเล็กที่ยังดื่มนมเป็นอาหาร สามารถนำนมผงหรือนมชงพกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้    
 

4. จองที่นั่งสำหรับเด็ก

  สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่พาเด็กขึ้นเครื่องครั้งแรก! แนะนำให้จองที่นั่งสำหรับเด็ก ถ้าไม่รู้ตอนจองตั๋วเครื่องบินให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีเด็กเล็กไปด้วย เพื่อจะได้เลือกที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับเด็ก สายการบินโดยส่วนใหญ่จะมีที่นั่งที่อยู่ตรงช่วงด้านหน้าของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นที่นั่งที่ติดตั้งเปลเด็ก หรือ Baby Bassinet ไว้บริการ โดยเปลเด็กที่นี่จะรองรับเด็กอายุไม่เกิน 6 เดือนหรือเด็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม ซึ่งเรื่องที่นั่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพาเด็กขึ้นเครื่องบินเช่นกัน  
 

5. เลือกที่นั่งที่ใกล้กับห้องน้ำ

  การเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่พาเด็กขึ้นเครื่องบิน ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ นอกจากจะเลือกที่นั่งด้านหน้าแล้ว ก็อาจเลือกที่นั่งที่อยู่ใกล้กับห้องน้ำ เผื่อว่าในระหว่างการเดินทางอาจจะต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือเปลี่ยนแพมเพส จะได้ลุกเข้าไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำได้สะดวก โดยไม่รบกวนผู้โดยสารคนอื่น  
 

6. เตรียมของเล่นให้ลูกเล่นผ่อนคลาย

  อีกหนึ่งวิธีที่จะจัดการเด็กให้อยู่หมัด! และไม่ร้องไห้งอแงระหว่างเดินทาง แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมของเล่นชิ้นโปรดหรือสิ่งของที่สร้างความสุขสนุกสนาน ให้เด็ก ๆ ได้เล่นแก้เบื่อ หรืออาจมีแท็บเล็ต หรือ iPad ให้เด็กดูการ์ตูน หรือฟังเพลงหรือเล่นเกมจากเครื่องเล่นพกพา อย่าลืมใส่หูฟังให้ลูกเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น ๆ รับรองวิธีนี้เด็ก ๆ จะไม่ร้องไห้งอแงระหว่างการเดินทางแน่นอน  
 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการพาเด็กขึ้นเครื่องบิน ที่พ่อแม่มือใหม่ต้องเช็ก!

travel-story-1746596701_eac0b3c6b527b50ee965-0

  คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังจะพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินครั้งแรก มีข้อควรรู้สำคัญหลายประการที่คุณต้องเช็ก เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด ดังนี้  
 

1. เอกสารสำคัญของเด็ก อย่าลืมเด็ดขาด!

  สิ่งสำคัญการเดินทางด้วยเครื่องบิน คือ ต้องอย่าลืมเอกสารสำคัญสำหรับเด็ก เช่น สูติบัตร หนังสือเดินทาง (กรณีที่เดินทางต่างประเทศ) และเอกสารยินยอม ในกรณีที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางไปด้วย ต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบและเก็บไว้ในที่ที่หยิบง่าย อย่าลืมสำเนาเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน  
 

2. เช็กกฎระเบียบของสายการบินที่เดินทาง

  แต่ละสายการบินจะมีระเบียบและกฎที่เหมือนหรือแตกต่างกันไป โดยเฉพาะมีเด็กเดินทางไปด้วยจะต้องเช็กเลยว่าสายการบินที่จะเดินทางนั้น อนุญาตให้เด็กอายุเท่าไหร่บางที่สามารถขึ้นเครื่องได้ โดยทั่วไปแล้วทารกอายุ 7 วันขึ้นไป จะสามารถเดินทางได้ แต่บางสายการบินอาจจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน รวมถึงบางสายการอาจจะมีอัตราค่าโดยสารสำหรับเด็กพิเศษ หรือสามารถเดินทางฟรีโดยให้เด็กนั่งตักผู้ปกครอง นอกจากนี้ก็สามารถสอบถามเกี่ยวกับเปลเด็ก (Baby Bassinet) อาหารเด็ก หรือความช่วยเหลืออื่น ๆ จากสายการบิน เพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง  
 

3. ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่อง

  เดินทางด้วยเครื่องบินโดยที่มีเด็กเล็กไปด้วย คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องวางแผนการเดินทาง และเผื่อเวลาให้เพียงพอ เพื่อให้ลูกปรับตัวและไม่เร่งรีบ  
 

4. อย่าลืมสิ่งของจำเป็นสำหรับเด็กขึ้นเครื่องบิน

  นอกจากเอกสารสำคัญแล้ว อย่าลืม! ของใช้จำเป็นสำหรับเด็กที่จะต้องถือขึ้นเครื่องบินไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น นม น้ำ อาหาร เสื้อผ้าสำรอง ผ้าอ้อม ของเล่น ยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล หากลืมสิ่งของพวกนี้บอกเลยว่างานนี้บันเทิงแน่นอน

 

ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการพาเด็กขึ้นเครื่องบิน

travel-story-1746596780_e9af8f6d69621bd6d0bb-0

  นอกจากนี้ Gother ยังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาก ๆ สำหรับการพาเด็กขึ้นเครื่องบิน มาฝากให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องการจะพาเด็กขึ้นเครื่องบิน ครั้งแรก ว่าแต่จะมีคำถามอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย  

คำถาม: เด็กนั่งเครื่องบินแล้วร้องไห้ ควรรับมืออย่างไรดี?  
คำตอบ: วิธีรับมือกับเด็กร้องไห้นั้น มีหลากหลายวิธีมาก ๆ เช่น ให้เด็กกินนมขณะอยู่บนเครื่องบิน หรือพาเด็กเดินไปเดินมา แต่ระวังอย่ารบกวนผู้โดยสารคนอื่น ๆ เตรียมของเล่นที่ลูกชื่นชอบเพื่อจะได้ไม่ร้องไห้งอแง

คำถาม: เด็กทารกสามารถขึ้นเครื่องบินได้ไหม และอันตรายไหม?  
คำตอบ: ทารกสามารถขึ้นเครื่องบินได้ โดยทั่วไปแล้วจะรอให้เด็กอายุประมาณ 4 - 8 สัปดาห์ขึ้นไปก่อน เนื่องจากเด็กทารกแรกเกิดมีอายุที่น้อยมาก ๆ อาจทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นหากเป็นเด็กทารกก็แนะนำให้พาเด็กตรวจสุขภาพกับแพทย์ก่อนว่าแข็งแรงดีไหม และพร้อมต่อการเดินทางบนอากาศหรือไม่

คำถาม: เด็กทารกกี่เดือนขึ้นไปจึงจะสามารถขึ้นเครื่องบินได้?  
คำตอบ: เด็กทารกสามารถขึ้นเครื่องบินได้เลย แต่เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ควรรอให้เด็กมีอายุ 4 - 8 สัปดาห์หรือเด็กมีอายุประมาณ 2 - 3 เดือนก่อน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่าง ๆ นั่นเอง

คำถาม: เด็กต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินหรือไม่ และเสียเท่ากับผู้ใหญ่หรือไม่?  
คำตอบ: โดยทั่วไปแล้วเมื่อเด็กทารกอายุไม่เกิน 2 ปี ขึ้นเครื่องบินราคาค่าตั๋วถูกกว่าที่นั่งอื่น ๆ เพราะเด็กทารกไม่มีที่นั่งประจำของตนเอง แต่สายการบินจะมีเปลเด็กให้บริการ พร้อมจัดที่นั่งให้อยู่ในโซนด้านหน้า อีกทั้งบางสายการบินก็จะมีอาหารเด็กไว้คอยบริการด้วย แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า กรณีที่เด็กอายุ 2 - 12 ปี อาจจะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาที่ถูกกว่าปกติ 25% แต่ถ้าเด็กอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป ราคาค่าตั๋วเครื่องบินจะเท่ากับตั๋วเครื่องบินของผู้ใหญ่ ทั้งนี้ ราคาส่วนลดของเด็กจะขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน

    นี่คือเคล็ดลับดี ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องพาเด็กขึ้นเครื่องบินครั้งแรก สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลมากจนเกินไป เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นความตึงเครียดจนทำให้หมดสนุกไปเสียก่อน ดังนั้น ก่อนจะเดินทางให้ เช็กลิสต์สิ่งที่ต้องเตรียมไปทีละเลยว่าเอกสารสำคัญของเด็กและผู้ใหญ่ครบไหม สิ่งของใช้ที่จำเป็นของลูกมีครบไหม หรืออะไรก็ตามที่เราแนะนำ แต่ละข้อทำได้ไม่ยากเลย เชื่อว่าเคล็ดลับนี้จะทำให้การพาลูกน้อยของคุณเที่ยวได้อย่างไม่ต้องกลัวอีกต่อไป คราวนี้ถึงเวลาวางแพลนเที่ยวกันแล้ว เมื่อเลือกวันได้เดินทางแล้ว อยากได้ตั๋วเครื่องบินราคาดี ต้องจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ Gother เพราะคุณสามารถเปรียบเทียบราคาเที่ยวบินและเช็กโปรโมชันตั๋วเครื่องบินจากทุกสายการบินทั่วโลก มีเจ้าหน้าที่ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้คุณจองทริปสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รองรับสกุลเงินและช่องทางในการชำระเงินที่หลากหลาย หรือถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เลย ผ่าน Gother แพลตฟอร์มจองทริปท่องเที่ยวทั่วโลกสำหรับทุกไลฟ์สไตล์!  
 

ผู้เขียน

logo

Gother

แหล่งรวมเรื่องราวท่องเที่ยว ที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย

logo

Gother

06 พ.ค. 2025

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ