สองสามชั่วโมงอาจไม่พอ! เช็กอินสนามบินนาริตะ เตรียมตัวแบบไหน เดินทางยังไงไม่ให้ตกเครื่อง

เคยได้ยินกันใช่ไหมว่า “ไปสนามบินต้องเผื่อเวลา 2-3 ชั่วโมง” แต่บอกเลยเวลาเท่านั้นอาจไม่พอสำหรับ สนามบินนาริตะ โดยเฉพาะถ้าคุณเดินทางช่วงไฮซีซั่น! ถ้าไม่อยากตกเครื่องแบบใจสั่น เหงื่อแตก รีบเช็กอิน รีบวิ่งลากกระเป๋ากันจ้าละหวั่น บทความนี้เรามีวิธีเตรียมตัวให้ถึงสนามบินแบบปลอดภัย พร้อมบินสบายๆ ไม่มีดราม่ามาฝาก!
ทำไมไปก่อนหลายชั่วโมงถึงยังเสี่ยงตกเครื่อง?

หลายคนคิดว่าไปถึงสนามบินก่อน 2-3 ชั่วโมงก็มากพอแล้ว แต่ความจริงคือ สนามบินนาริตะไม่ใช่สนามบินเล็กๆ และมีหลายปัจจัยที่ทำให้เวลาของคุณหายไปแบบไม่รู้ตัว เช่น
จุดเช็กอินที่ใช้เวลานานกว่าที่คิด

ช่วงเวลาที่สนามบินนาริตะคนแน่นที่สุดก็คือช่วงบ่ายจนถึงค่ำ โดยเฉพาะถ้าคุณบินไฟลท์เส้นทางโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คิวมักยาวมาก! แต่ตอนนี้สนามบินนาริตะก็ได้มีบริการ Self Bag Drop และ Face Express ที่ช่วยให้การเช็กอินสะดวกขึ้นเยอะ แค่ใช้เครื่องเช็กอินด้วยตัวเองแล้วฝากกระเป๋าผ่านระบบอัตโนมัติ ถึงจะดูง่ายแต่หลายคนก็ยังงงๆ กับวิธีใช้งานอยู่ดี บางทีคิวเลยยาวเพราะนักท่องเที่ยวไม่รู้ต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเป็นช่วงนักท่องเที่ยวต่อแถวเยอะเกินไปจนเครื่องไม่พอใช้
สอนวิธีใช้เครื่อง Self Check-in และ Face Express แบบทำเองได้ไวสุดๆ
ขั้นตอนที่ 1: เช็กอินด้วยตัวเอง

• สแกนพาสปอร์ตที่ตู้ Kiosk
• ยืนยันชื่อผู้โดยสารและเที่ยวบินที่แสดงบนหน้าจอ
• เลือกจำนวนกระเป๋าที่จะโหลด และกดยืนยัน
• รับ Boarding Pass และแท็กสำหรับติดกระเป๋า
ขั้นตอนที่ 2: Self Bag Drop และ Face Express

• เตรียมพาสปอร์ตและ Boarding Pass ให้พร้อม
• นำกระเป๋าไปที่เคาน์เตอร์ Self Bag Drop (ของ Japan Airlines จะอยู่ที่เคาน์เตอร์ K สนามบินนาริตะ ชั้น 4 เทอร์มินัล 2)
• สแกนพาสปอร์ตแล้วกดถ่ายรูปทำ Face Express
• สแกน Boarding Pass แล้วเลือกจำนวนกระเป๋าที่จะโหลด
• วางกระเป๋าบนสายพานทีละใบ เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะมีใบรายการยืนยันให้เก็บไว้
• รอรับกระเป๋าที่ไทยได้เลย
เครื่องเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถ้ารู้ขั้นตอนวิธีใช้เครื่องก็จะทำให้เช็กอินด้วยตัวเองได้ง่ายและเร็วขึ้นมาก ถ้ากลับจากสนามบินนาริตะ อย่าลืมลองใช้บริการนี้ดูนะ!
ด่านตรวจคนเข้าเมืองแถวยาว

เวลาต่อแถว ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) ที่สนามบินนาริตะ บางช่วงอาจใช้เวลารอถึง 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น! โดยเฉพาะในช่วงที่มีไฟลท์ออกเยอะ เช่น วันหยุดยาว หรือช่วงเทศกาลซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี คนจะแน่นสนามบินสุดๆ ถ้าคุณต้องเดินทางในช่วงเหล่านี้ อย่าลืมเผื่อเวลาไว้สำหรับการตรวจคนเข้าเมืองด้วยนะ
การตรวจกระเป๋าที่ละเอียดสุดๆ

ถ้าโชคร้ายเจอสุ่มตรวจที่สนามบิน คุณอาจต้องเปิดกระเป๋าและให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของที่ซื้อมาในทริปทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่แค่ใช้เวลานาน แต่ยังทำให้คุณต้องจัดระเบียบกระเป๋าใหม่หลังจากการตรวจเสร็จ! ซึ่งบางครั้งอาจกินเวลาไปอีกพอสมควรและทำให้การเดินทางช้าลงได้
การใช้เวลาเดินทางมาถึงสนามบิน

ถ้ามาจากโตเกียว การเดินทางไปสนามบินนาริตะอาจใช้เวลานานถึง 1.5 - 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับวิธีการเดินทางที่เลือก แต่ถ้ารถไฟดีเลย์ ขึ้นลงผิดสถานี หรือถ้ารถติด ก็อาจทำให้ถึงสนามบินช้ากว่าที่คิดได้! แถมถ้าคุณต้องคืน Pocket WiFi หรือทำ Tax Refund ก็ควรเผื่อเวลาเพิ่มอีก 30 - 60 นาที เพื่อจะได้ไม่ต้องเร่งรีบมากเกินไปในช่วงที่ใกล้ถึงเวลาเครื่องออก
แจกวิธีเดินทางไปสนามบินนาริตะ
Keisei Skyliner | 40 นาที


Keisei Skyliner เป็นวิธีเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดที่พาผู้โดยสารจาก Ueno ไปยังสนามบินนาริตะ Terminal 2・3 ได้ในเวลาเพียง 41 นาทีเท่านั้น! รถไฟขบวนนี้สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าและมีปลั๊กไฟส่วนตัวที่สามารถเชื่อมกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ได้ง่ายๆ ระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ยังมีที่เก็บสัมภาระให้ด้วย
ราคาก็ขึ้นอยู่กับสถานีที่คุณขึ้น (สามารถใช้ PASMO หรือ SUICA ได้) แถมถ้าแตะบัตรผ่านประตูตรวจบัตรก็จะได้ราคาถูกลงด้วย
เหมาะสำหรับ: คนที่พักในย่าน Ueno, Akihabara, Shinjuku, หรือ Ikebukuro เพราะเดินทางไปสนามบินได้ทั้งเร็วและสะดวกสุดๆ
เดินทางไป/ออก จากสนามบินนาริตะ | ราคาต่อเที่ยว |
นิปโปริ อูเอโนะ |
2,470 เยน |
อากิฮาบาระ โตเกียว |
2,630 เยน (JR Yamanote Line ¥160 + Skyliner) |
ชินากาวะ ชินจูกุ |
2,670 เยน (JR Yamanote Line ¥200 + Skyliner) |
อิเคะบุคุโระ | 2,640 เยน (JR Yamanote Line ¥170 + Skyliner) |
โอมิยะ | 2,940 เยน (JR Utsunomiya Line ¥470 + Skyliner) |
จองตั๋วล่วงหน้าคุ้มกว่าที่ Gother! ❤️
https://www.gother.com/th-th/experiences//japan/tokyo/narita-airport-express-keisei-skyliner-one-way-ticket
Narita Express (N’EX) | 50-60 นาที

Narita Express (N'EX) คือรถไฟด่วนที่วิ่งตรงจากสถานีต่างๆ อย่าง Tokyo, Shinagawa, Shibuya, Shinjuku, Yokohama และ Ofuna มุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะโดยตรง สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ มีช่องเก็บสัมภาระ และมี WiFi ให้ใช้งานระหว่างทาง! ราคาตั๋วจะแตกต่างกันไปตามสถานีที่ขึ้น และคุณสามารถใช้ตั๋วรถไฟร่วมกับบัตรเดินทางเหล่านี้ได้
• ใช้บัตร Suica หรือ Pasmo สำหรับค่าโดยสารพื้นฐาน และซื้อตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ Narita Express (N'EX) แยกต่างหาก
• ถ้าคุณมี JR Pass ก็สามารถขึ้น Narita Express (N'EX) ได้ฟรี รวมถึงจองที่นั่งล่วงหน้าด้วย
เหมาะสำหรับ: นักเดินทางที่มีสัมภาระเยอะและต้องการเดินทางแบบสบายๆ ไปสนามบินนาริตะ
เดินทางไป/ออก จากสนามบินนาริตะ | ขบวนธรรมดา (Ordinary Car) | เฟิร์สคลาส (Green Car) |
โตเกียว | 3,070 เยน | 3,840 เยน |
ชินากาวะ ชิบูย่า ชินจูกุ |
3,250 เยน | 4,020 เยน |
โยโกฮาม่า | 4,370 เยน | 6,640 เยน |
โอฟุนะ | 4,700 เยน | 6,970 เยน |
Keisei Access Express | 65-70 นาที

Keisei Access Express เป็นรถไฟธรรมดาที่วิ่งจาก Asakusa, Ueno, หรือ Tokyo ไปสนามบินนาริตะ ใช้เวลา 65-70 นาที ราคาก็เริ่มต้นที่ 910 เยน จากสถานี Shin Kamagaya ไปจนถึง 1,520 เยน จากสถานี Shinagawa
เหมาะสำหรับ: คนที่งบน้อย แต่ยังมีเวลาเดินทางก่อนบินเยอะ เพราะรถไฟขบวนนี้ประหยัดกว่าตัว Skyliner และเร็วกว่ารถไฟธรรมดาที่ต้องจอดทุกสถานี แต่ต้องระวังตรงที่ ไม่มีที่นั่งจองล่วงหน้า และต้องดูแลสัมภาระของตัวเองระหว่างเดินทาง
แท็กซี่ / รถเช่า | 60-90 นาที

การเดินทางด้วย แท็กซี่ หรือ รถเช่า อาจจะมีราคาสูง แต่สะดวกสุดๆ เพราะคุณไม่ต้องลากกระเป๋าไปสถานี เพียงแค่เรียกรถมารับที่หน้าที่พักได้เลย! ค่าแท็กซี่จากโตเกียวไปสนามบินนาริตะเริ่มต้นประมาณ 25,000 เยน ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
เหมาะสำหรับ: คนที่มีกระเป๋าใบใหญ่ หรือกลุ่มเพื่อนที่สามารถแชร์ค่ารถกันได้ เพราะการเดินทางแบบนี้จะช่วยให้คุณถึงสนามบินได้เร็วและสะดวกมากๆ แบบไม่ยุ่งยาก
🚗💨 สำหรับคนที่อยากขับรถเที่ยวญี่ปุ่นเอง Gother มีรถเช่าให้เลือกหลากหลายรุ่น! รับรถที่สนามบินแล้วส่งคืนที่จุดเดิม สะดวกแถมราคาดี จองรถเช่าล่วงหน้า ได้เลยที่ Gother!
รถบัสสนามบิน | 70-90 นาที

Airport Limousine Bus เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายสุดๆ เพราะมีเจ้าหน้าที่จัดเก็บสัมภาระให้ใต้ท้องรถ ไม่ต้องเหนื่อยแบกกระเป๋าขึ้นรถบัสเอง! เมื่อจองตั๋วสำเร็จ ระบบจะล็อกที่นั่งให้ทันที คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่นั่ง ไปถึง สนามบินหรือสถานีปลายทางอย่างแน่นอน
มีรถบัสให้ขึ้นหลายจุดรอบโตเกียว นั่งหนึ่งชั่วโมงนิดๆ เหมาะกับคนที่ไม่อยากลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ รถบัสทุกคันมีห้องน้ำให้บริการ และยังมี Wifi ฟรี ให้คุณใช้งานระหว่างทางได้อีกด้วย นับเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัวมากๆ
ประเภท | ผู้ใหญ่ | เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) |
ราคาต่อเที่ยว | 3,100 เยน | 1,550 เยน |
แหล่งข้อมูล: https://www.limousinebus.co.jp/guide/en/
TYO-NRT Airport Bus มีจุดขึ้นจากสถานีหลักๆ หลายจุดในเมือง เช่น Tokyo, Ginza, และ Shinonome Aeon-mae ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงดึก โดยไม่มีระบบจองที่นั่งล่วงหน้า ถ้ารถบัสเต็มก็ต้องรอรอบถัดไป ส่วนสัมภาระจะจำกัด 1 คนต่อ 1 ใบ ขนาดไม่เกิน 158 ซม. อย่างไรก็ตาม บางคันอาจไม่มีห้องน้ำบนรถ ดังนั้นแนะนำให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนขึ้นรถเพื่อความสะดวกระหว่างการเดินทาง
ช่วงเวลา | ผู้ใหญ่ | เด็ก / เด็กประถม | เด็กเล็ก / ทารก (อายุไม่เกิน 1 ปี) |
เวลาปกติ | 1,500 เยน | 750 เยน | • ฟรี หากนั่งกับผู้ใหญ่ • 750 เยน หากแยกที่นั่ง |
เวลาเช้าตรู่ / กลางคืน | 3,000 เยน | 1,500 เยน | • ฟรี หากนั่งกับผู้ใหญ่ • 1,500 เยน หากแยกที่นั่ง |
แหล่งข้อมูล: https://tyo-nrt.com/en/notes
สรุปง่ายๆ ถ้าไม่อยากตกเครื่องที่นาริตะ!

• เช็กเวลาไฟลท์ให้เป๊ะ! – เช็กอินไฟลท์ของคุณว่าต้องไปที่ เทอร์มินัลไหน (T1 / T2 / T3)
• ส่งกระเป๋าไปที่สถานีล่วงหน้า – ใช้บริการรับส่งกระเป๋าจากโรงแรมไปสนามบิน (Airport Baggage Service)
• เตรียมเอกสารให้พร้อม – พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน เอกสาร Tax Refund และเอกสารอื่นๆ

• ซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้า – ถ้าใช้ Narita Express / Skyliner แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ไทย แล้วนำ QR Code ที่ได้ไปสแกนรับตั๋วจริงได้เลยที่เคาน์เตอร์รถไฟที่สนามบิน
• เช็กสภาพอากาศและเผื่อเวลาเดินทาง – หากหิมะหรือฝนตกหนัก อาจทำให้การเดินทางล่าช้าได้
• พักที่โรงแรมใกล้ๆ – ถ้าคุณต้องขึ้นเครื่องแต่เช้า ลอง จองโรงแรมใกล้สนามบินนาริตะ ในคืนสุดท้ายก่อนกลับบ้าน เพื่อประหยัดเวลาเดินทาง
ถึงแม้ว่าการเดินทางไปสนามบินนาริตะจะมีหลายวิธี แต่ถ้าเผื่อเวลามากพอ คุณจะไปถึงสนามบินได้แบบชิลๆ ไม่ต้องลนลาน แถมเผลอๆ มีเวลาช้อป Duty Free ต่อได้อีกเป็นชั่วโมง! ดังนั้น จองตั๋วเครื่องบินไปโตเกียว กับ Gother แล้ว อย่าลืมเตรียมแผนการเดินทางให้ดี เพื่อให้ทั้งขาไปและขากลับราบรื่นไม่มีสะดุด เที่ยวสบายใจตลอดทริป!