เทศกาลงานไฟญี่ปุ่น 2025 Illumination สวยที่สุด คริสต์มาส-ปีใหม่

หน้าหนาวปีนี้ใครมีแพลนไปญี่ปุ่น บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะทุกเมืองกำลังจะเนรมิตไฟประดับสวย ๆ ให้ถ่ายรูปกันจนเมมเต็ม รอบนี้เราจะ พาเที่ยวเทศกาลไฟญี่ปุ่น 2025 รวมงาน Winter Illumination Japan และงานไฟประดับสวยที่สุดช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ บรรยากาศโรแมนติก จุดถ่ายรูปยอดฮิตห้ามพลาด ใครชอบเดินเล่นท่ามกลางไฟระยิบระยับ หรืออยากได้รูปคู่สวย ๆ บทความนี้รวมครบทั้งวันจัดงาน ไฮไลท์ และทิปส์เล็ก ๆ ที่จะช่วยให้ทริปสนุกขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
เทศกาลไฟญี่ปุ่น เริ่มจากไหน ทำไมถึงกลายเป็นที่เที่ยวดัง?
เทศกาลไฟญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่การประดับไฟสวย ๆ แต่คือการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิม นวัตกรรมสมัยใหม่ และความรู้สึกของผู้คน ชาวญี่ปุ่นผูกพันกับแสงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งการชื่นชมแสงจันทร์ โคมไฟอันดง (Andon) และโคมโชจิน (Chochin) จนถึงยุคเมจิที่ไฟฟ้าเริ่มเข้ามาใช้ในห้างร้าน เช่น เมจิยะในกินซ่า ซึ่งนำหลอดไฟฟ้ามาประดับตกแต่งและสร้างความตื่นตา ถือเป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดงานประดับไฟยุคใหม่
ต้นแบบของเทศกาลไฟในฐานะอีเวนต์ท่องเที่ยวเริ่มชัดเจนที่งาน Sapporo White Illumination ปี 1981 ที่ซัปโปโร ฮอกไกโด จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เมืองต่าง ๆ จัดตาม ความนิยมพุ่งสูงขึ้นเมื่อมีการคิดค้นหลอดไฟ LED สีน้ำเงินที่ช่วยให้สร้างแสงสีได้หลากหลายและประหยัดพลังงาน ประกอบกับวัฒนธรรมคริสต์มาสอีฟที่กลายเป็นวันโรแมนติกของคู่รัก และเหตุการณ์ Kobe Luminarie หลังแผ่นดินไหวปี 1995 ที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกและมอบกำลังใจ ทำให้เทศกาลไฟญี่ปุ่นมีทั้งความงดงาม ความหมาย และความหวัง จนกลายเป็นไฮไลท์ของฤดูหนาวที่คนทั่วโลกหลงรัก
10 อันดับเทศกาลไฟญี่ปุ่นสุดฮิต อัปเดตล่าสุด 2025–2026
รวบรวม 10 อันดับเทศกาลไฟญี่ปุ่นที่สวยที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดจากทั่วประเทศมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกปักหมุดกัน แต่มีข้อแนะนำสำคัญคือ ช่วงเวลาจัดงานของปี 2025-2026 ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงกำหนดการเบื้องต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ดังนั้นก่อนวางแผนเดินทาง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละงานอีกครั้งเพื่อความแน่นอน เพื่อให้เพื่อนๆ เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้ทำตารางสรุปไฮไลท์ของแต่ละงานมาให้ดูกันก่อน
ชื่องานเทศกาล | จังหวัด | ไฮไลท์ | ช่วงเวลาจัดงาน |
---|---|---|---|
Nabana no Sato Illumination | มิเอะ (Mie) | อุโมงค์ไฟสุดอลังการและสวนดอกไม้เรืองแสง | กลาง ต.ค. - ต้น มิ.ย. |
Shirakawago Winter Light-Up | กิฟุ (Gifu) | หมู่บ้านมรดกโลกท่ามกลางหิมะ (ต้องจอง) | ม.ค. - ก.พ. (4 วันเท่านั้น) |
Sapporo White Illumination | ฮอกไกโด (Hokkaido) | งานประดับไฟฤดูหนาวแห่งแรกของญี่ปุ่น | พ.ย. - มี.ค. |
Ashikaga Flower Fantasy | โทจิงิ (Tochigi) | สวนดอกไม้และวิสทีเรียเรืองแสง | กลาง ต.ค. - กลาง ก.พ. |
Tokyo Mega Illumination | โตเกียว (Tokyo) | งานประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวในสนามม้า | ต้น พ.ย. - กลาง ม.ค. |
Kobe Luminarie | เฮียวโงะ (Hyogo) | แสงไฟแห่งความหวังและรำลึกสไตล์อิตาลี | ปลาย ม.ค. - ต้น ก.พ. |
Sagamiko Illumillion | คานางาวะ (Kanagawa) | เครื่องเล่นและแสงไฟ 6 ล้านดวง | ต้น พ.ย. - ต้น พ.ค. |
Osaka Festival of the Lights | โอซาก้า (Osaka) | แสงสีทั่วเมืองโอซาก้าตลอดทั้งปี | ตลอดปี (ไฮไลท์ พ.ย. - ธ.ค.) |
Roppongi Hills Christmas | โตเกียว (Tokyo) | ไฟประดับสุดชิคพร้อมวิวโตเกียวทาวเวอร์ | พ.ย. - ธ.ค. |
Shibuya Blue Cave | โตเกียว (Tokyo) | อุโมงค์ถ้ำสีน้ำเงินใจกลางชิบูย่า | ธ.ค. |
งานไฟประดับ Nabana no Sato Winter Illumination จังหวัดมิเอะ

หากพูดถึงงานไฟที่ยิ่งใหญ่และจัดยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น ต้องยกให้งานไฟประดับ Nabana no Sato Winter Illumination จังหวัดมิเอะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความอลังการของดวงไฟกว่า 5.8 ล้านดวง และระยะเวลาจัดงานที่ยาวนานตั้งแต่ กลาง ต.ค. ถึงต้น มิ.ย. ปีถัดไป ทำให้วางแผนเที่ยวได้ยืดหยุ่นสุด ๆ
📍 สถานที่: สวน Nabana no Sato เมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: กลางเดือนตุลาคม 2025 – ต้นเดือนมิถุนายน 2026
🎟️ ค่าเข้าชม: ประมาณ 2,300 เยน (รวมคูปองเงินสด 1,000 เยน ใช้จ่ายในสวน ร้านอาหาร/ร้านค้า)
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- Tunnel of Light (อุโมงค์ไฟ): ซิกเนเจอร์สีทองความยาวกว่า 200 เมตร เหมือนเดินผ่านอุโมงค์แห่งดวงดาว จุดถ่ายรูปยอดนิยม
- Main Theme Area: ลานโชว์หลักที่เปลี่ยนธีมทุกปี ใช้เทคโนโลยี LED สร้างภาพทิวทัศน์อลังการ เช่น ธรรมชาติ น้ำตก หรือแสงเหนือ
- River of Light: การประดับไฟบนผืนน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แสงสะท้อนระยิบระยับสวยจับใจ
- โซนอื่น ๆ: สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ Begonia Garden (กว่า 12,000 สายพันธุ์), จุดแช่เท้าออนเซ็นฟรี, หอชมวิว Fuji Island 360°
การเดินทาง
- รถบัสจากสถานี Nagoya ประมาณ 30–50 นาที
- หรือนั่งรถไฟไปสถานี Nagashima แล้วต่อ Shuttle Bus ของงาน
เคล็ดลับ
- มาในวันธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนหนาแน่น
- ช่วง คริสต์มาส ต้องจองตั๋วล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีจำหน่ายหน้าทางเข้า
อยากเที่ยวให้สุด ชมเทศกาลไฟให้คุ้ม จองที่พักใกล้ ๆ เมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ ไว้เลย สะดวกกว่าเยอะ 👇🏻
เทศกาล Shirakawago Winter Light-Up จังหวัดกิฟุ

นี่คืองานเทศกาลไฟที่มีมนต์ขลังและพิเศษที่สุดในญี่ปุ่น Shirakawago Winter Light-Up ซึ่งจัดขึ้นเพียงปีละ 4 วันเท่านั้น! หมู่บ้านมรดกโลกทรงกัสโซ่ (Gassho-zukuri) ที่ถูกหิมะปกคลุม และส่องสว่างด้วยแสงไฟนวลยามค่ำคืน ทำให้ที่นี่ดูราวกับโลกในเทพนิยาย แต่ความพิเศษนี้ก็มาพร้อมกับความเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะการเข้าชมต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
📍 สถานที่: หมู่บ้านโอกิมาจิ ชิราคาวาโกะ จังหวัดกิฟุ
🗓️ วันจัดงาน (ปี 2026): 12 ม.ค., 18 ม.ค., 25 ม.ค., และ 1 ก.พ.
⏰ เวลาเปิดไฟ: 17:30 – 19:30 น.
🎟️ ค่าเข้าชม: แตกต่างตามประเภทการจอง
ไฮไลท์สำคัญ
- ความงดงามหาที่เปรียบไม่ได้ของหมู่บ้านโบราณท่ามกลางหิมะและแสงไฟ
- ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝัน
วิธีเข้าชม (ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น)
- ระบบจับสลาก: สำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืนในหมู่บ้าน เปิดให้ลงทะเบียนช่วงเดือนตุลาคมปีก่อนหน้า
- บริษัททัวร์: เช่น Nohi Bus ที่มีแพ็กเกจทัวร์ชมไฟโดยเฉพาะ มักจะเปิดจองราวเดือนกันยายน–ตุลาคม
- จองออนไลน์: ผ่านเว็บไซต์ทางการ https://shirakawa-go.gr.jp/en ซึ่งมักเต็มภายในไม่กี่นาทีหลังเปิดจอง
เคล็ดลับ
- ไม่สามารถ Walk-in หรือใช้รถบัสสาธารณะทั่วไปได้ รถบัสเที่ยวสุดท้ายออกก่อนเวลาเปิดไฟ
- เตรียมรับอากาศหนาวจัด อุณหภูมิอาจติดลบถึง -10°C ควรมีเสื้อผ้ากันหนาวครบชุด รองเท้าไม่ลื่นและกันน้ำ และอุปกรณ์กันหนาวเต็มรูปแบบ
อย่าลืมจองที่พักหมู่บ้านโอกิมาจิกันล่วงหน้า ก่อนไปดูเทศกาลไฟประดับกันด้วยนะ!
เทศกาล Sapporo White Illumination จังหวัดฮอกไกโด

พาเพื่อนๆ ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของงานประดับไฟญี่ปุ่น กับ Sapporo White Illumination ที่จังหวัดฮอกไกโด งานนี้ถือเป็นผู้บุกเบิกที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1981 และยังคงครองใจนักท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศเมืองซัปโปโรที่ถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟหลากสีสันตัดกับหิมะสีขาวโพลน คือภาพที่โรแมนติกและคลาสสิกอย่างแท้จริง
📍 สถานที่: เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด (สวนโอโดริ, ถนน Ekimae-dori, ถนน Minami Ichijo-dori)
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ปลายเดือนพฤศจิกายน 2024 – กลางเดือนมีนาคม 2025
⏰ เวลาเปิดไฟ: 16:30 – 22:00 น. (23–25 ธ.ค. ขยายถึงเที่ยงคืน)
🎟️ ค่าเข้าชม: ฟรี
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- สวนโอโดริ (Odori Park): พื้นที่จัดแสดงหลัก แบ่งออกเป็นบล็อก 1–6 แต่ละบล็อกมีธีมไฟและงานประติมากรรมแสงสีต่างกัน เช่น ต้นคริสต์มาสยักษ์ น้ำพุเรืองแสง
- ตลาดคริสต์มาสสไตล์เยอรมัน (Munich Christmas Market): เพลิดเพลินกับบรรยากาศยุโรปแท้ ๆ มีไส้กรอกเยอรมัน ไวน์ร้อน (Mulled Wine) และของขวัญน่ารัก ๆ
- ถนน Ekimae-dori และ Minami Ichijo-dori: สองข้างทางประดับไฟบนต้นไม้สวยงาม ยาวสุดลูกตา เหมาะแก่การเดินเล่นในคืนหิมะ
การเดินทาง
- สถานที่จัดงานอยู่ใจกลางเมือง เดินจากสถานี JR Sapporo หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Odori ได้สะดวก
เคล็ดลับ
- หากวางแผนไปงาน Sapporo Snow Festival ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็ยังชมงานประดับไฟได้บางพื้นที่ เช่น ถนน Minami Ichijo-dori ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
ใครชอบบรรยากาศแฟนตาซีต้องมา Sapporo White Illumination จองที่พักก่อนพลาดบรรยากาศดีๆ
เทศกาล Ashikaga Flower Fantasy จังหวัดโทจิงิ

ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาเทศกาลไฟที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีแสงสีได้อย่างลงตัว ราวกับงานศิลปะชิ้นเอก ต้องมาที่ Ashikaga Flower Fantasy จังหวัดโทจิงิ งานนี้ได้รับการยอมรับและคว้ารางวัลสุดยอดงานประดับไฟญี่ปุ่นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สวนดอกไม้ขนาดมหึมาจะถูกเนรมิตให้กลายเป็น สวนดอกไม้เรืองแสง ด้วยดวงไฟกว่า 5 ล้านดวง สร้างสรรค์เป็นเรื่องราวและภาพที่น่าประทับใจ
📍 สถานที่: สวนดอกไม้ Ashikaga Flower Park จังหวัดโทจิงิ
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: กลางเดือนตุลาคม 2025 – กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2026
🎟️ ค่าเข้าชม: ประมาณ 1,000 – 1,400 เยน (ราคาแตกต่างตามช่วง)
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- The Miracle Wisteria (วิสทีเรียมหัศจรรย์): การจำลองต้นวิสทีเรียยักษ์ด้วยแสงไฟ เล่าเรื่องราววงจรชีวิตของดอกไม้ตั้งแต่ผลิบานจนร่วงโรย
- ธีมตามฤดูกาล: 3 ธีมหลักตลอดงาน ได้แก่ “แสงสีและดอกไม้” (ฤดูใบไม้ร่วง), “คริสต์มาสแฟนตาซี”, และ “แสงสีปีใหม่กับโบตั๋นฤดูหนาว”
- Flower Castle (ปราสาทดอกไม้): ปราสาทที่ประดับไฟวิจิตรตระการตา จุดถ่ายรูปยอดนิยม
- Rose Garden of Light (สวนกุหลาบเรืองแสง): กำแพงไฟรูปกุหลาบยาวกว่า 120 เมตร บรรยากาศสุดโรแมนติก
การเดินทาง
- เดินทางจากโตเกียวสะดวก นั่งรถไฟมาลงที่ Ashikaga Flower Park Station สถานีอยู่ติดกับสวนเลย
เคล็ดลับ
- ไม่ได้มีแค่วิสทีเรีย ยังมีการจำลองดอกไม้อื่น ๆ ด้วยไฟ เช่น ดอกบัวลอยบนผิวน้ำ หรือกุหลาบเปลี่ยนสีได้ ทำให้การเดินชมสวนเต็มไปด้วยรายละเอียดน่าค้นหา
ใครอยากชมไฟประดับท่ามกลางสวนดอกไม้ ต้องมาเทศกาลไฟ Ashikaga Flower Fantasy จองที่พักไว้ล่วงหน้าเลย
เทศกาล Tokyo Mega Illumination กรุงโตเกียว

เตรียมพบกับความยิ่งใหญ่สมชื่อกับ Tokyo Mega Illumination เทศกาลไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ความพิเศษของงานนี้คือการจัดขึ้นใน สนามแข่งม้าโออิ (Oi Racecourse) สถานที่ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างแสงสีสุดไฮเทค ความสวยงามของธรรมชาติ และความน่ารักของเหล่าม้าตัวจริง
📍 สถานที่: สนามแข่งม้าโออิ (Oi Racecourse) เขตชินากาวะ กรุงโตเกียว
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ต้นเดือนพฤศจิกายน 2025 – กลางเดือนมกราคม 2026
⚠️ ข้อควรระวัง: งานจะปิดในวันที่มีการแข่งขันม้า ต้องตรวจสอบตารางเวลาจากเว็บไซต์ทางการก่อนเดินทาง
🎟️ ค่าเข้าชม: ประมาณ 1,500 เยน
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- ธีมการเดินทางข้ามเวลา: สัมผัสญี่ปุ่นในยุคต่าง ๆ ตั้งแต่เอโดะ เมจิ ไทโช จนถึงโชวะ ที่ถูกจำลองขึ้นด้วยแสงไฟสุดตระการตา
- การแสดงแสงสีเสียง: โชว์น้ำพุสีรุ้งขนาดใหญ่, การแสดงแสงออโรร่าเหนือทุ่งหญ้า, และอุโมงค์ไฟอินเทอร์แอคทีฟยาวกว่า 100 เมตร
- พบกับน้องม้าตัวจริง: จุดเด่นไม่เหมือนใคร ได้ถ่ายรูปกับม้าแคระสุดน่ารัก กิจกรรมที่ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- ทุ่งดอกไม้และนาข้าวจำลอง: เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้และนาข้าวขั้นบันไดจากแสงไฟ LED ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกลางกรุงโตเกียว
การเดินทาง
- สะดวกสุด ๆ เพียง 2 นาทีจากสถานี Oi Kebajo Mae บนรถไฟสาย Tokyo Monorail
เคล็ดลับ
- งานนี้ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 1 งานเทศกาลไฟที่ต้องไปชม ของญี่ปุ่นถึง 3 ปีซ้อน การันตีความยิ่งใหญ่และสวยงามคุ้มค่ากับการมาเยือน
จองโรงแรมในโตเกียววันนี้ แล้วไปฟินกับงานเทศกาลไฟสุดอลังที่ Tokyo Mega Illumination กันเลย!
เทศกาล Kobe Luminarie จังหวัดเฮียวโงะ

Kobe Luminarie ไม่ใช่แค่เทศกาลไฟธรรมดา แต่เป็นงานที่เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งและจิตวิญญาณ เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1995 เพื่อรำลึกถึงเหยื่อจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิน-อาวาจิ และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและการฟื้นฟูเมืองโกเบ บรรยากาศของงานจึงเต็มไปด้วยความสงบ งดงาม และน่าประทับใจมากกว่าความรื่นเริงทั่วไป
📍 สถานที่: ใจกลางเมืองโกเบ บริเวณสวน Higashi Yuenchi และย่านเมืองเก่า Former Foreign Settlement
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ปลายเดือนมกราคม – ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026
🎟️ ค่าเข้าชม: พื้นที่ส่วนใหญ่เข้าชมฟรี แต่บางโซน เช่น Meriken Park อาจมีค่าใช้จ่าย
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- สถาปัตยกรรมแสงไฟสไตล์อิตาลี: ซุ้มประตูและอุโมงค์แสงไฟที่ออกแบบโดยศิลปินชาวอิตาลี โดยดวงไฟชุดแรกเป็นของขวัญจากรัฐบาลอิตาลีเพื่อส่งกำลังใจ ทำให้งานนี้มีเอกลักษณ์งดงามเหมือนสถาปัตยกรรมยุโรปโบราณ
- เส้นทางแห่งแสง: งานจัดกระจายตามจุดต่าง ๆ ในเมือง สร้างเป็นเส้นทางให้ผู้คนได้เดินชมไฟไปพร้อมกับซึมซับบรรยากาศเมืองโกเบ
- ความหมายอันลึกซึ้ง: การมาเยือนงานนี้เปรียบเหมือนการร่วมรำลึกและส่งต่อความหวัง เป็นประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกว่าการชมไฟทั่วไป
การเดินทาง
- เดินทางสะดวกจากสถานีรถไฟ Motomachi หรือ Sannomiya
เคล็ดลับ
- ธีมงานล่าสุดคือ “30 ปีแห่งแสงสว่าง ความหวังอันเป็นนิรันดร์” ตอกย้ำถึงความสำคัญของงานในฐานะสัญลักษณ์แห่งความหวังที่จะส่องสว่างให้เมืองโกเบตลอดไป
วางแผนทริปเฮียวโงะง่ายๆ จองโรงแรมไว้แล้วไปฟินกับเทศกาลไฟ Kobe Luminarie เมืองเฮียวโงะ กันเลย
เทศกาล Sagamiko Illumillion จังหวัดคานางาวะ

สำหรับเพื่อนๆ ที่รักทั้งความสวยงามของแสงไฟและความตื่นเต้นของเครื่องเล่น ต้องห้ามพลาด Sagamiko Illumillion จังหวัดคานางาวะ งานนี้คือการผสมผสานระหว่างเทศกาลไฟสุดอลังการที่ใช้ดวงไฟมากถึง 6 ล้านดวง กับสวนสนุกขนาดใหญ่ ทำให้เป็นที่เที่ยวที่ถูกใจทั้งครอบครัว
📍 สถานที่: สวนสนุก Sagamiko Resort Pleasure Forest จังหวัดคานางาวะ
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ต้นเดือนพฤศจิกายน 2025 – ต้นเดือนพฤษภาคม 2026
🎟️ ค่าเข้าชม: มีทั้งบัตรเฉพาะโซนอิลลูมิเนชั่น และบัตรรวมเครื่องเล่น
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- แสงไฟ 6 ล้านดวง: หนึ่งในงานประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในคันโต ประดับทั่วเนินเขา งดงามตระการตา
- เครื่องเล่นท่ามกลางแสงไฟ: สนุกกับชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไฟเหาะ พร้อมชมวิวไฟจากมุมสูง
- ลิฟต์และกระเช้าชมวิว: พาเพื่อนๆ ขึ้นยอดเขาเพื่อชมภาพรวมสวนสนุกที่สว่างไสว
- การแสดงแสงสีเสียง: ตื่นตาตื่นใจไปกับโชว์ไฟประกอบดนตรี เช่น น้ำพุเรืองแสง และม่านไฟยักษ์
- ตัวละครน่ารัก: บางปีร่วมมือกับ San-X เช่น Rilakkuma สร้างสีสันพิเศษ
การเดินทาง
- นั่งรถไฟลงที่สถานี Sagamiko แล้วต่อรถบัสท้องถิ่นมายังสวนสนุก
เคล็ดลับ
- ใกล้โตเกียว วางแผนไปเช้าเย็นกลับได้สบาย กลางวันเล่นเครื่องเล่น กลางคืนชมไฟอลังการ
เทศกาล Osaka Festival of the Lights จังหวัดโอซาก้า

โอซาก้า เมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้ในยามค่ำคืนฤดูหนาวก็ยังสว่างไสวไปด้วย Osaka Festival of the Lights หรือที่คนไทยมักเรียกกันว่า เทศกาลไฟโอซาก้า ความพิเศษของงานนี้คือการจัดกระจายทั่วทั้งเมือง โดยมีไฮไลท์หลักที่ถนนมิโดสุจิ (Midosuji) และย่านนากาโนะชิมะ ซึ่งช่วยเปลี่ยนโอซาก้าให้กลายเป็นมหานครแห่งแสงสีที่ยิ่งใหญ่อลังการ
📍 สถานที่: ทั่วเมืองโอซาก้า โดยมีจุดหลักคือ ถนน Midosuji และย่านนากาโนะชิมะ
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ตลอดทั้งปี (ช่วงพีคที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม)
🎟️ ค่าเข้าชม: ส่วนใหญ่เข้าชมฟรี
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- Midosuji Illumination: ถนนสายหลักยาวกว่า 4 กม. ประดับไฟบนต้นแปะก๊วยสองข้างทาง กลายเป็นหนึ่งในถนนประดับไฟที่ยาวที่สุดในโลก
- OSAKA Hikari-Renaissance: งานไฟและศิลปะดิจิทัลที่ย่านนากาโนะชิมะ พร้อมการแสดง Projection Mapping บนอาคารประวัติศาสตร์ เช่น หอประชุมกลางโอซาก้า
- Osaka Castle Illuminage: บางปีจัดที่ปราสาทโอซาก้า ใช้ธีมประวัติศาสตร์ยุคซามูไร ได้บรรยากาศแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น
- ความสนุกสไตล์โอซาก้า: ไฟประดับรูปสัญลักษณ์เมือง เช่น ทาโกะยากิ หรือป้ายกูลิโกะในแบบแสงสี เพิ่มความเฮฮาและสีสัน
การเดินทาง
- เดินทางง่ายด้วยรถไฟใต้ดิน สามารถลงได้หลายสถานี เช่น Umeda, Yodoyabashi, Shinsaibashi, หรือ Namba
เคล็ดลับ
- เนื่องจากงานจัดกระจายหลายจุด ควรวางแผนเส้นทางเดิน เช่น เริ่มจากย่านอุเมดะ แล้วค่อย ๆ เดินลงมาตามถนนมิโดสุจิจนถึงนัมบะ เพื่อเก็บครบทุกไฮไลท์
เทศกาล Roppongi Hills Christmas กรุงโตเกียว

สำหรับสายชิคที่ชอบความทันสมัยและบรรยากาศหรูหรา ต้องไม่พลาด Roppongi Hills Christmas หนึ่งในงานประดับไฟญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีสไตล์ใจกลางย่านรปปงงิ จุดเด่นคือการประดับไฟบนถนนเคยากิซากะ (Keyakizaka) ซึ่งมีฉากหลังเป็นโตเกียวทาวเวอร์สีแดงส้มสุดโดดเด่น ทำให้เป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปที่โรแมนติกและสวยที่สุดในโตเกียว
📍 สถานที่: ย่าน Roppongi Hills โดยเฉพาะถนน Keyakizaka กรุงโตเกียว
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: กลางเดือนพฤศจิกายน – 25 ธันวาคม 2025
⏰ เวลาเปิดไฟ: 17:00 – 23:00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม: ฟรี
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- ถนนเคยากิซากะ (Keyakizaka Street): ถนนยาว 400 เมตรที่ต้นไม้สองข้างทางถูกประดับด้วยไฟ LED กว่า 800,000 ดวง ในโทน SNOW & BLUE สวยงามและอบอุ่น
- วิวโตเกียวทาวเวอร์: มุมถ่ายรูปยอดฮิตจากสะพานลอยกลางถนน ที่มองเห็นไฟประดับคู่กับโตเกียวทาวเวอร์ได้สมบูรณ์แบบ
- สวนโมริ (Mohri Garden): สวนใจกลางรปปงงิฮิลส์ที่ถูกประดับไฟตามธีมต่าง ๆ เพิ่มความโรแมนติก
- ตลาดคริสต์มาส: ตลาดคริสต์มาสสไตล์เยอรมันขนาดย่อม ให้เพื่อน ๆ ได้เดินเล่น ชิมอาหาร และซื้อของที่ระลึก
การเดินทาง
- เดินทางสะดวกมาก ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Roppongi
เคล็ดลับ
- หลังชมไฟ สามารถเที่ยวต่อในย่านรปปงงิได้เลย เพราะมีทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารหรู และพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมาย
เทศกาล Shibuya Blue Cave กรุงโตเกียว

เปลี่ยนบรรยากาศจากแสงสีทองอร่าม มาสู่ความลึกลับน่าค้นหาของ Shibuya Blue Cave หรือ “ถ้ำสีน้ำเงินแห่งชิบูย่า” เทศกาลไฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการใช้แสงไฟ LED สีน้ำเงินเพียงสีเดียว เนรมิตถนนทั้งสายให้กลายเป็นอุโมงค์แสงสุดลึกลับ งดงามราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าจดจำ
📍 สถานที่: ถนนจากสวน Yoyogi Park ไปยังย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ประมาณต้นเดือนธันวาคม – 25 ธันวาคม
🎟️ ค่าเข้าชม: ฟรี
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- อุโมงค์แสงสีน้ำเงิน: ระยะทางกว่า 800 เมตร ต้นไม้สองข้างทางประดับด้วยไฟ LED สีน้ำเงินเข้มจำนวนมหาศาล แสงสะท้อนบนพื้นถนนเหมือนกำลังเดินในถ้ำใต้ทะเล
- บรรยากาศสุดล้ำ: การใช้สีเดียวสร้างความสงบและน่าค้นหา แตกต่างจากงานอื่นที่ใช้ไฟหลากสีสัน
- ทำเลใจกลางเมือง: ตั้งอยู่ในย่านชิบูย่า ชมไฟเสร็จแล้วสามารถช้อปปิ้งหรือหาของอร่อยกินต่อได้ทันที
การเดินทาง
- เดินเพียงไม่กี่นาทีจากสถานี Shibuya หรือ Yoyogi Koen
เคล็ดลับ
- ถนนค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะวันหยุด แนะนำให้มาในวันธรรมดา หรือหากมาวันหยุดควรเผื่อเวลาและระวังทรัพย์สินของตัวเอง
เทศกาล Yomiuriland Jewellumination กรุงโตเกียว
เตรียมแว่นตากันแดดไว้ให้ดี เพราะเพื่อนๆ กำลังจะก้าวเข้าสู่ Yomiuriland Jewellumination หนึ่งในเทศกาลไฟที่เจิดจรัสที่สุดในโตเกียว ความพิเศษของงานนี้คือคอนเซ็ปต์ Jewellumination หรือการประดับไฟที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของอัญมณีล้ำค่า ออกแบบโดยนักออกแบบแสงชื่อดังระดับโลก ทำให้สวนสนุกทั้งแห่งเปล่งประกายราวกับกล่องเครื่องประดับมหึมา
📍 สถานที่: สวนสนุก Yomiuriland กรุงโตเกียว
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ปลายเดือนตุลาคม 2025 – ต้นเดือนเมษายน 2026 (งานยาวหลายเดือน)
🎟️ ค่าเข้าชม: ประมาณ 5,800 เยน (ตั๋ววัน เข้าสวนสนุกได้ทั้งหมด)
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- แสงสีอัญมณี: ใช้ไฟกว่า 4 ล้านดวงในโทนสีของอัญมณี 24 ชนิด เช่น ทับทิม ไพลิน มรกต สร้างสีสันสดใสและสวยงาม
- เครื่องเล่นและแสงไฟ: เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นต่างๆ เช่น ชิงช้าสวรรค์และรถไฟเหาะ ไปพร้อมกับชมวิวไฟจากมุมสูง
- การแสดงน้ำพุ: น้ำพุประกอบดนตรีและแสงสีสุดอลังการ เป็นโชว์ที่ไม่ควรพลาด
- อุโมงค์แห่งความรัก (Love Tunnel): อุโมงค์ไฟยาว 180 เมตร แสดงคำว่า “รัก” ในหลายภาษา จุดถ่ายรูปโรแมนติกสำหรับคู่รัก
การเดินทาง
- นั่งรถไฟลงที่สถานี Keio-yomiuri-land แล้วต่อกระเช้าหรือรถบัสเพื่อเข้าสวนสนุก
เคล็ดลับ
- ซื้อตั๋วแบบ Night Pass เข้าหลัง 16:00 น. ราคาถูกกว่าตั๋วเต็มวัน เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจมาชมไฟโดยเฉพาะ
ใครแพลนเที่ยวโตเกียวปลายปี แนะนำจองที่พักใกล้ Yomiuriland เพื่อฟินกับแสงไฟอัญมณีกว่า 4 ล้านดวงได้แบบจุใจ
งานเทศกาลหิมะ Otaru Snow Light Path จังหวัดฮอกไกโด
ปิดท้ายลิสต์ด้วยเทศกาลไฟที่แตกต่างและมีเสน่ห์ที่สุด Otaru Snow Light Path หรือ “งานเทศกาลหิมะที่เมืองโอตะรุ” งานนี้ไม่ได้ใช้ดวงไฟ LED นับล้านดวง แต่ใช้ แสงเทียน ที่ชาวเมืองและอาสาสมัครช่วยกันประดิษฐ์อย่างเรียบง่าย งานเทศกาลฤดูหนาวที่จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ได้บรรยากาศที่อบอุ่น สงบ และโรแมนติก ท่ามกลางเมืองท่าเก่าแก่ที่ปกคลุมด้วยหิมะ
📍 สถานที่: เมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด (คลองโอตารุ และทางรถไฟสายเก่าเทมิยะ Temiyasen)
🗓️ ช่วงเวลาจัดงาน: ประมาณวันที่ 8 – 15 กุมภาพันธ์ 2025 (มักจัดช่วงเดียวกับ Sapporo Snow Festival)
⏰ เวลาเปิดไฟ: 17:00 – 21:00 น.
🎟️ ค่าเข้าชม: ฟรี
ไฮไลท์ห้ามพลาด
- คลองโอตารุ (Unga Kaijo): เทียนไขในทุ่นแก้วลอยเต็มคลอง ตัดกับแสงตะเกียงและโคมไฟหิมะริมทางเดิน โรแมนติกสุด ๆ โกดังเก่าริมคลองที่ดัดแปลงเป็นร้านค้า/ร้านอาหารช่วยเสริมบรรยากาศคลาสสิก
- ทางรถไฟสายเก่าเทมิยะ (Temiyasen Kaijo): ทางรถไฟที่เลิกใช้ถูกแปลงเป็นลานศิลป์หิมะ มีประติมากรรมหิมะ โคมเทียน อุโมงค์หิมะ และกระท่อมหิมะ (Kamakura) ให้แวะเข้าไปนั่ง
- จิตวิญญาณของชุมชน: ชาวเมืองช่วยกันทำโคมและจุดเทียนหน้าบ้าน/หน้าร้าน ทำให้ทั้งเมืองสว่างไสวด้วยแสงเทียนอันอบอุ่น
- นั่งรถไฟ JR จากสถานี Sapporo ไป Otaru ประมาณ 40 นาที จากนั้นเดินต่อ 10–15 นาทีถึงพื้นที่จัดงาน
- บรรยากาศเน้นความสงบและจิตวิญญาณมากกว่าความยิ่งใหญ่เชิงการค้า เหมาะกับผู้ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายและมองหาประสบการณ์ที่ต่างออกไป
- ค่อย ๆ เดินชมแสงเทียนท่ามกลางหิมะโปรย เป็นช่วงเวลาที่จะอยู่ในความทรงจำยาวนาน
อย่าลืม จองที่พักใกล้ๆ สถานที่จัดงาน Otaru Snow Light Path ไว้เลย รับรองสะดวกกว่าเยอะ
เคล็ดลับเที่ยวเทศกาลไฟญี่ปุ่นให้สนุก
- การแต่งกายคือสิ่งสำคัญที่สุด: ฤดูหนาวของญี่ปุ่น โดยเฉพาะตอนกลางคืน อากาศหนาวเย็นมาก ควรแต่งตัวแบบ Layering (เสื้อฮีทเทค + เสื้อไหมพรม/ฟลีซ + โค้ทหรือเสื้อขนเป็ด) พร้อมหมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ และรองเท้าบูทกันน้ำ/กันลื่น เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีหิมะตกหนัก เช่น ฮอกไกโดหรือชิราคาวาโกะ
- ตรวจสอบข้อมูลก่อนเดินทาง: กำหนดการจัดงานอาจเปลี่ยนแปลงได้จากสภาพอากาศหรือปัจจัยอื่น ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละงานเสมอ เพื่อไม่ให้ไปเสียเที่ยว
- วางแผนการเดินทางและที่พักล่วงหน้า: เทศกาลไฟยอดนิยมดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่พักใกล้เคียงมักเต็มเร็วและราคาแพงขึ้น ควรจองล่วงหน้า โดยเฉพาะงานที่ต้องจองเท่านั้น เช่น Shirakawago Light-Up
- ใช้บริการขนส่งสาธารณะ: รถไฟและรถบัสเป็นวิธีเดินทางที่สะดวกที่สุด เพราะที่จอดรถมักมีจำกัดและหายากมากในช่วงเทศกาล
- ไปถึงก่อนเวลาและเลือกวันธรรมดา: การไปวันธรรมดาจะช่วยเลี่ยงฝูงชนหนาแน่นในวันหยุด และหากไปถึงก่อนเวลาเปิดไฟเล็กน้อย จะได้เดินสำรวจและหามุมถ่ายรูปสวยๆ ก่อนที่คนจะเยอะ
- เตรียมกล้องและแบตเตอรี่สำรอง: การถ่ายภาพไฟยามค่ำคืนท้าทายมาก ควรมีกล้องหรือสมาร์ทโฟนที่มี Night Mode พร้อมพกพาวเวอร์แบงก์ เพราะอากาศหนาวทำให้แบตหมดเร็วกว่าปกติ
เทศกาลไฟญี่ปุ่น เป็นมากกว่าแค่การประดับไฟสวยงาม แต่มันคือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความโรแมนติก และความอบอุ่นที่สามารถปัดเป่าความหนาวเย็นของฤดูหนาวให้หายไปได้ ไม่ว่าเพื่อนๆ จะชอบความยิ่งใหญ่อลังการของ Nabana no Sato, ความงดงามสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Shirakawago, บรรยากาศคลาสสิกของ Sapporo White Illumination, ความหมายอันลึกซึ้งของ Kobe Luminarie หรือความสงบเรียบง่ายของ Otaru Snow Light Path ญี่ปุ่นก็มีเทศกาลไฟที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์รอให้ทุกคนไปสัมผัส
เพื่อให้ทริปชมเทศกาลไฟของเพื่อนๆ ราบรื่นและสมบูรณ์แบบที่สุด Gother พร้อมช่วยวางแผนการเดินทาง ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น ในราคาพิเศษ, จองที่พักในญี่ปุ่นที่ใกล้จุดจัดงานสวยๆ ไปจนถึงการทำกิจกรรมที่น่าสนใจในญี่ปุ่น เพื่อเติมเต็มทริปได้อย่างครบวงจร หวังว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ได้ออกไปสร้างความทรงจำอันสว่างไสวในฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นกัน
ดูเทศกาลไฟแล้วอินสุด ๆ แต่บอกเลยว่านี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ญี่ปุ่นยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเพียบ ห้ามพลาด!