check-mark-iconคัดลอกลิงก์ไปที่คลิปบอร์ดแล้ว

เที่ยวโตเกียวใช้บัตรเดินทางแบบไหนดี? Tokyo Subway เทียบกับ JR Pass สรุปให้ครบ ใช้ยังไงให้คุ้ม!

เที่ยวโตเกียวใช้บัตรเดินทางแบบไหนดี? Tokyo Subway เทียบกับ JR Pass สรุปให้ครบ ใช้ยังไงให้คุ้ม!

travel-story-1744772773_fcabf9451544b7b18bf3-0

การเที่ยวโตเกียวในฝันของใครหลายคน อาจเริ่มต้นด้วยภาพของชิบูย่าที่คนข้ามถนนกันพรึ่บพรั่บ ศาลเจ้าสีแดงสดในอาซากุสะ ห้างแฟชั่นใจกลางชินจูกุ หรือสวนอุเอโนะที่เต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง แต่จะเที่ยวให้ครบ สนุก และคุ้มค่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การเลือกบัตรเดินทางที่เหมาะกับแพลนของคุณ

หลายคนอาจสับสนระหว่าง Tokyo Subway Ticket กับ JR Pass ใช้ต่างกันยังไง? แบบไหนคุ้มกว่ากัน? วันนี้เราจะสรุปทุกคำตอบให้เพื่อนๆ เลือกได้อย่างมั่นใจ และเที่ยวโตเกียวได้อย่างเต็มอิ่มในสไตล์ที่คุณชอบ!

บัตรโดยสารยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในโตเกียว

โตเกียวเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งที่ครอบคลุมและซับซ้อนที่สุดเมืองหนึ่งในโลก มีผู้ให้บริการหลายเจ้าและอาจทำให้เพื่อนๆ สับสนได้ แต่บัตรโดยสารยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักเลือกใช้มีสองประเภทหลักๆ ได้แก่:
 

  • 𝟭. Tokyo Subway Ticket (หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า "Tokyo Metro & Toei Subway Common Pass")
  • 𝟮. JR Pass (Japan Rail Pass)

แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกบัตรที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับแผนการเดินทาง งบประมาณ และสถานที่ที่เพื่อนๆ ต้องการไปในทริป

ก่อนที่เราจะเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของแต่ละบัตร มาทำความรู้จักกับระบบรถไฟในโตเกียวกันก่อนดีกว่า!

โตเกียวมีระบบรถไฟที่ดำเนินการโดยบริษัทหลายแห่ง ได้แก่:
 
  • ● Tokyo Metro: บริษัทรถไฟใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว (9 สาย)
  • ● Toei Subway: รถไฟใต้ดินที่ดำเนินการโดยรัฐบาลมหานครโตเกียว (4 สาย)
  • JR East (Japan Railways): รถไฟสายหลักที่ดำเนินการโดยรัฐ รวมถึงสาย Yamanote Line ที่มีชื่อเสียง
  • ● สายรถไฟเอกชน: เช่น Keio, Odakyu, Tokyu และ Seibu

บัตรโดยสาร Tokyo Subway Ticket

travel-story-1744772793_aba6c4401b5c4d372177-0

Tokyo Subway Ticket หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า "Tokyo Metro & Toei Subway Common Ticket" คือบัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ให้คุณเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวในระบบรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro และ Toei Subway รวม 13 สาย ภายในระยะเวลาที่กำหนด
 

ประเภทของ Tokyo Subway Ticket


Tokyo Subway Ticket มีให้เลือก 3 แบบตามระยะเวลาการใช้งาน

1. Tokyo Subway Ticket 24 ชั่วโมง
  • ระยะเวลา: ใช้ได้ 24 ชั่วโมงติดต่อกัน นับจากเวลาที่ใช้งานครั้งแรก
  • เหมาะสำหรับ: การเที่ยวในโตเกียว 1 วันเต็ม หรือนักท่องเที่ยวที่มีเวลาในโตเกียวจำกัด

2. Tokyo Subway Ticket 48 ชั่วโมง

  • ● ระยะเวลา: ใช้ได้ 48 ชั่วโมงติดต่อกัน นับจากเวลาที่ใช้งานครั้งแรก
  • ● เหมาะสำหรับ: การเที่ยวในโตเกียว 2 วันติดต่อกัน

3. Tokyo Subway Ticket 72 ชั่วโมง

  • ● ระยะเวลา: ใช้ได้ 72 ชั่วโมงติดต่อกัน นับจากเวลาที่ใช้งานครั้งแรก
  • ● เหมาะสำหรับ: การเที่ยวในโตเกียว 3 วันติดต่อกัน

ข้อดีของ Tokyo Subway Ticket

  • ประหยัด: คุ้มค่ามากหากใช้รถไฟใต้ดินบ่อยๆ (ประมาณ 3-4 เที่ยวต่อวันก็คุ้มแล้ว)
  • ● สะดวก: ไม่ต้องซื้อตั๋วทุกครั้งที่เดินทาง เพียงรูดบัตรที่ประตูอัตโนมัติ
  • ● ครอบคลุม: สามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมส่วนใหญ่ในโตเกียวได้
  • ● ยืดหยุ่น: มีให้เลือกหลายระยะเวลาตามความเหมาะสมของทริป

ข้อจำกัดของ Tokyo Subway Ticket

  • ● ใช้ได้เฉพาะรถไฟใต้ดิน: ไม่สามารถใช้กับรถไฟ JR หรือรถไฟสายเอกชนอื่นๆ
  • ● ไม่ครอบคลุมรถบัส: ต้องซื้อตั๋วรถบัสแยกต่างหาก
  • ไม่รวมที่นั่งพิเศษ: ไม่สามารถใช้กับรถไฟด่วนพิเศษที่ต้องจองที่นั่ง

สถานที่ซื้อ Tokyo Subway Ticket

  • ● ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ
  • ● สถานีรถไฟใต้ดินหลักในโตเกียว เช่น Shinjuku, Ginza, Shibuya
  • ● ร้านสะดวกซื้อบางแห่ง 
  • ซื้อ Tokyo Subway 24 / 48 / 72-Hour กับ Gother 

สายรถไฟที่ใช้ Tokyo Subway Ticket ได้

Tokyo Subway Ticket ใช้ได้กับรถไฟใต้ดิน 13 สายจาก 2 บริษัท คือ Tokyo Metro (9 สาย) และ Toei Subway (4 สาย) มาดูรายละเอียดของแต่ละสายกันดีกว่า
 

สายรถไฟของ Tokyo Metro (9 สาย)

  • 1. สาย Ginza (G) - สีส้ม: เป็นสายรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ผ่านสถานที่สำคัญเช่น Asakusa (วัดเซนโซจิ), Ueno (สวนอุเอโนะ), Ginza (ย่านช้อปปิ้งหรู) และ Shibuya (แยกชิบูย่า)
  • 2. สาย Marunouchi (M) - สีแดง: เชื่อมต่อ Tokyo Station กับย่าน Shinjuku, Ikebukuro และสถานที่ท่องเที่ยวเช่น Tokyo Dome
  • 3. สาย Hibiya (H) - สีเงิน: ผ่านย่าน Ginza, Roppongi (ย่านบันเทิงยามค่ำคืน) และสวน Ueno
  • 4. สาย Tozai (T) - สีฟ้าอ่อน: เชื่อมต่อฝั่งตะวันออกและตะวันตกของโตเกียว ผ่าน Nihombashi (ย่านการเงิน) และ Otemachi
  • 5. สาย Chiyoda (C) - สีเขียว: เชื่อมต่อสวน Yoyogi, ศาลเจ้า Meiji และย่าน Harajuku (แหล่งแฟชั่นวัยรุ่น)
  • 6. สาย Yurakucho (Y) - สีทอง: ผ่านย่านธุรกิจ Yurakucho และย่านบันเทิง Ikebukuro
  • 7. สาย Hanzomon (Z) - สีม่วง: ผ่านพระราชวังอิมพีเรียลและย่านช้อปปิ้ง Omotesando
  • 8. สาย Namboku (N) - สีเขียวมรกต: เชื่อมเหนือ-ใต้ของโตเกียว ผ่าน Korakuen (โตเกียวดิสนีย์แลนด์) และ Azabu-juban
  • 9. สาย Fukutoshin (F) - สีน้ำตาล: เชื่อม Ikebukuro, Shinjuku และ Shibuya ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งและบันเทิงหลักของโตเกียว

สายรถไฟของ Toei Subway (4 สาย)

  • 1. สาย Asakusa (A) - สีชมพู: เชื่อมย่าน Asakusa กับสวนสัตว์ Ueno และตลาดปลา Toyosu (ที่ย้ายมาจากตลาด Tsukiji เดิม)
  • 2. สาย Mita (I) - สีน้ำเงิน: ผ่านมหาวิทยาลัย Waseda, ย่าน Sugamo และ Shibakoen (โตเกียวทาวเวอร์)
  • 3. สาย Shinjuku (S) - สีเขียวอ่อน: เชื่อม Shinjuku กับ Kudanshita (พระราชวังอิมพีเรียล) และสวน Shinjuku Gyoen
  • 4. สาย Oedo (E) - สีแดงอมม่วง: เป็นวงแหวนรอบเมืองชั้นในที่ผ่านสถานที่สำคัญเช่น Tokyo Tower, Roppongi Hills และตลาด Tsukiji

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เข้าถึงได้ด้วย Tokyo Subway Ticket

  • ● Asakusa (วัดเซนโซจิ): สาย Ginza หรือ Asakusa
  • Ueno (สวนอุเอโนะ, พิพิธภัณฑ์): สาย Ginza, Hibiya
  • Shibuya (แยกชิบูย่า, รูปปั้นฮาจิโกะ): สาย Ginza, Fukutoshin, Hanzomon
  • Shinjuku (ย่านช้อปปิ้ง, ตึกรัฐบาลโตเกียว): สาย Marunouchi, Shinjuku, Oedo
  • Harajuku (ถนนทาเคชิตะ, ศาลเจ้าเมจิ): สาย Chiyoda, Fukutoshin
  • ● Ginza (ย่านช้อปปิ้งหรู): สาย Ginza, Hibiya, Marunouchi
  • ● Roppongi (ย่านบันเทิงยามค่ำคืน): สาย Hibiya, Oedo
  • ● โตเกียวทาวเวอร์: สาย Mita, Oedo

บัตรโดยสาร JR Pass

travel-story-1744772809_62a400842b79adf386ba-0

Japan Rail Pass หรือ JR Pass คือบัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่น ให้คุณเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวบนรถไฟของ Japan Railways (JR) เกือบทุกสายทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงรถไฟชินคันเซ็น (รถไฟความเร็วสูง) บางขบวนด้วย
 

ประเภทของ JR Pass


JR Pass มีให้เลือกตามระยะเวลาการใช้งาน 3 แบบ

1. JR Pass 7 วัน
  • ระยะเวลา: ใช้ได้ 7 วันติดต่อกัน นับจากวันที่กำหนดเมื่อแลกบัตร
  • เหมาะสำหรับ: ทริปที่มีการเดินทางระหว่างเมืองหลักๆ ประมาณ 2-3 เมือง เช่น โตเกียว-เกียวโต-โอซาก้า

2. JR Pass 14 วัน

  • ระยะเวลา: ใช้ได้ 14 วันติดต่อกัน
  • เหมาะสำหรับ: ทริปที่มีการเดินทางท่องเที่ยวหลายเมืองทั่วญี่ปุ่น หรือท่องเที่ยวแบบเดินทางไปกลับระหว่างภูมิภาคหลายครั้ง

3. JR Pass 21 วัน

  • ● ระยะเวลา: ใช้ได้ 21 วันติดต่อกัน
  • ● เหมาะสำหรับ: ทริประยะยาวที่ต้องการเดินทางครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ฮอกไกโดทางเหนือไปจนถึงคิวชูทางใต้

แต่ละประเภทยังแบ่งเป็น 2 ชั้นโดยสาร:
  • ● ชั้นธรรมดา (Ordinary): ที่นั่งธรรมดา 2+2 ที่นั่งต่อแถว
  • ● ชั้นกรีนคาร์ (Green Car): ที่นั่งระดับเฟิร์สคลาส กว้างและสะดวกสบายกว่า (ราคาสูงกว่าประมาณ 30%)

ข้อดีของการใช้ JR Pass ในโตเกียว

  • ● เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลัก: สาย Yamanote ผ่านสถานีหลักและย่านท่องเที่ยวยอดนิยมเกือบทั้งหมด
  • ● เดินทางสู่สนามบิน: สามารถใช้กับรถไฟ Narita Express (N'EX) ไปยังสนามบินนาริตะ และสาย Tokyo Monorail ไปยังสนามบินฮาเนดะ
  • ● ทัวร์รอบเมือง: สาย Yamanote เป็นเหมือน "รถบัสทัวร์" รอบเมืองที่คุณสามารถนั่งชมวิวโตเกียวได้
  • ● เดินทางไปยังสถานที่รอบๆ โตเกียว: เช่น โยโกฮาม่า, คามาคุระ หรือแม้แต่ภูเขาไฟฟูจิ (ผ่านสถานี Otsuki)

ข้อจำกัดของการใช้ JR Pass ในโตเกียว

  • ● ไม่ครอบคลุมรถไฟใต้ดิน: ไม่สามารถใช้กับระบบรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro และ Toei Subway
  • ● ไม่ครอบคลุมรถไฟสายเอกชน: เช่น Keio, Odakyu, Tokyu
  • ● ราคาสูง: หากใช้เฉพาะในโตเกียวอาจไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร
  • ● ความถี่น้อยกว่ารถไฟใต้ดิน: ในบางเส้นทาง

สถานที่ซื้อและวิธีแลก JR Pass

1. ซื้อก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น

  • ● ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Japan Railways
  • ● ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย
  • ซื้อ JR Pass กับ Gother

2. แลกบัตรเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น
  • ● ที่ศูนย์แลก JR Pass ในสนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ
  • ● ที่สถานีรถไฟ JR หลักในโตเกียว เช่น Tokyo, Shinjuku, Shibuya
  • ● ต้องแสดงพาสปอร์ตและเอกสารการจองเมื่อทำการแลกบัตร

สายรถไฟที่ใช้ JR Pass ได้

แม้ว่า JR Pass จะออกแบบมาสำหรับการเดินทางระยะไกลระหว่างเมือง แต่คุณสามารถใช้เดินทางในโตเกียวได้เช่นกัน ผ่านสายรถไฟ JR ในเมือง ได้แก่:
 

  • ● สาย Yamanote: เส้นทางวงกลมที่ล้อมรอบพื้นที่ใจกลางโตเกียว ผ่านสถานีหลักและย่านท่องเที่ยวสำคัญเกือบทั้งหมด เช่น Tokyo, Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro, Ueno และ Akihabara
  • ● สาย Chuo-Sobu: เชื่อมตะวันออกและตะวันตกของโตเกียว ผ่าน Tokyo, Akihabara, Ochanomizu และ Shinjuku
  • ● สาย Keihin-Tohoku: เชื่อมเหนือ-ใต้ของโตเกียว ผ่าน Ueno, Akihabara, Tokyo และ Shinagawa
  • ● รถไฟชานเมืองสาย JR อื่นๆ: เช่น สาย Saikyo, Shonan-Shinjuku, Joban และ Keiyo

travel-story-1744772819_b9cdda751ab8e063debb-0

เปรียบเทียบ Tokyo Subway Ticket VS JR Pass แบบเข้าใจง่าย

 

รายการเปรียบเทียบ Tokyo Subway Ticket JR Pass
ใช้ในโตเกียว ✅ ครอบคลุมทุกย่าน ✅ (เฉพาะสาย JR)
ใช้รถไฟใต้ดิน ✅ Tokyo Metro + Toei ❌ ไม่ครอบคลุม
ใช้ JR ได้ไหม ❌ ไม่ได้ ✅ ใช้ได้ทุกสายของ JR
ใช้กับชินคังเซ็น ❌ ไม่ได้ ✅ (บางประเภทของ JR Pass)
เดินทางออกนอกเมือง ❌ ไม่ครอบคลุม ✅ ครอบคลุมหลายเมืองรอบโตเกียว
ความคุ้มค่า ✅ คุ้มมากถ้าเที่ยวในเมือง ✅ คุ้มเมื่อเดินทางไกล

การเลือกบัตรเดินทางที่ใช่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นของเพื่อนๆ “คุ้มค่า ง่าย สนุก” ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อปปิ้ง สายคาเฟ่ สายธรรมชาติ หรือสายมู เดินทางสักการะศาลเจ้า เลือกบัตรให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ แล้วออกไปเปิดโลกโตเกียวในแบบของคุณกันเลย!

และทริปโตเกียวรอบนี้อย่าลืม! จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก กิจกรรมเด็ด ตั๋วเข้าสถานที่ดังๆ และบัตรเดินทางล่วงหน้าผ่าน Gother รับรองว่าเที่ยวได้สบาย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่ญี่ปุ่นแน่นอน!

ผู้เขียน

logo

Gother

แหล่งรวมเรื่องราวท่องเที่ยว ที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย

logo

Gother

11 เม.ย. 2025

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ