check-mark-iconคัดลอกลิงก์ไปที่คลิปบอร์ดแล้ว

ดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ เดินทางยังไงดี? มี Shuttle Bus ฟรี พร้อมข้อควรรู้ก่อนเดินทาง

ดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ เดินทางยังไงดี? มี Shuttle Bus ฟรี พร้อมข้อควรรู้ก่อนเดินทาง

travel-story-1746597953_5b2cf2bb3cfe30d738b9-0

ใครที่กำลังจะเดินทางด้วยเครื่องบินเพื่อไปต่างประเทศ หากมีการเปลี่ยนเครื่องที่ต้องมาลงสนามบินดอนเมือง แล้วต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นการเดินทาง จาก ดอนเมือง ไป สุวรรณภูมิ หรือกลับกัน เมื่อเครื่องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วต้องเดินทางมาเปลี่ยนเครื่องอีกต่อหนึ่งที่สนามบินดอนเมือง ก็ต้องหาวิธีเดินทางเพื่อให้ไปถึงสนามบิน แล้วจึงไปเช็กอินจากนั้นถึงเดินเข้าเกทเพื่อไปรอไฟล์ทของตัวเองในเวลาต่อไป ซึ่งการเดินทางไปมาระหว่างสนามบินนั้นก็มีมากมายหลายวิธี แต่ทว่ามีอยู่หนึ่งวิธีที่จะสามารถเดินทางไปได้แบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าเสียจ่าย เพิ่มความสะดวกสบายในการย้ายสนามบินอยู่ Gother จะขอแนะนำวิธีที่สะดวกและไม่เสียค่าบริการ ซึ่งเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะมองข้ามหรือไม่รู้ให้ได้กระจ่างกันเองว่าเป็นวิธีใด

สำหรับใครที่อาจจะไม่รู้ในเรื่องของการเดินทางจากดอนเมือง ไป สุวรรณภูมิ เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่อง มีวิธีการเดินทางที่เรียกได้ว่า ง่ายแสนง่าย แถมยังไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกในการเดินทางจากทั้งสองสนามบินของประเทศไทยนี้นั้นก็ได้แก่ รถ shuttle bus ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ซึ่งการเดินทางด้วยวิธีนั้นจะมีไว้สำหรับผู้โดยสารที่ต้องเดินทางขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินดอนเมืองเพียงเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าหากไม่ได้มีการซื้อตั๋วหรือว่าแค่มาส่งมารับแล้วจะไม่สามารถใช้บริการได้นั่นเอง

รถ Shuttle Bus ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ วิธีเดินทางฟรีที่ง่ายที่สุด

travel-story-1746598008_cd6795881a192c794dca-0

รถ shuttle bus ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ นั้นเรียกได้ว่าเป็นวิธีเดินทางที่ง่าย พร้อมกับให้บริการแบบฟรี ๆ สำหรับเหล่าผู้คนที่ต้องการเปลี่ยนสายการบินระหว่างสนามบิน ซึ่งเป็นวิธีที่ใครหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง ซึ่งสำหรับการใช้บริการนั้นก็ง่ายเพียงนิดเดียวไม่ว่าจะเป็นการเดินทางจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ หรือจะเป็นการขึ้นรถจากสุวรรณภูมิไปดอนเมืองเองก็เช่นกัน โดยสิ่งของที่ต้องเตรียมเพื่อใช้บริการนั้นก็ง่ายแสนง่าย เป็นเอกสารที่ทุกคนจะต้องพกติดตัวไว้ระหว่างการเดินทางอยู่แล้ว และเมื่อต้องการใช้บริการรถ Shuttle Bus ก็เพียงแค่ยืนเอกสารเหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้นก็สามารถใช้บริการได้ทันที ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมก็ได้แก่ 

  • ตั๋วเครื่องบินหรือว่าบัตรโดยสาร (Ticket) ที่มีชื่อตรงตามบัตรประชาชน
  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • บัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) สำหรับการเดินทางออกจากสนามบินปลายทางในวันที่เดินทาง
และเมื่อนำเอกสารไปยื่นให้กับพนักงานเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถไปรอได้ที่ท่ารถ shuttle bus ของสนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิได้ทันที โดยท่ารถของทั้ง 2 สนามบิน ก็จะอยู่ตามจุดต่อไปนี้

 

ท่ารถ shuttle bus สนามบินดอนเมือง - สนามบินสุวรรณภูมิ

  • ขึ้นที่ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6 สนามบินดอนเมือง
  • ลงที่ ชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ประตู 5 สนามบินสุวรรณภูมิ
 

ท่ารถ shuttle bus สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินดอนเมือง

  • ขึ้นที่ ชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 3 สนามบินสุวรรณภูมิ
  • ลงที่ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 7 - 8 สนามบินดอนเมือง
 

เวลาในการให้บริการรถ Shuttle Bus

ซึ่งสำหรับเวลาในการให้บริการของรถ Shuttle Bus นั้นก็จะมีมาให้บริการกันตั้งแต่เวลา 05.00 - 24.00 น. ของทุกวัน โดยเที่ยวรถนั้นจะแบ่งเป็นรอบละ 30 นาที ตัวรถจะจอดรอรับผู้โดยสารประมาณ 15 นาทีก่อนที่จะออกเดินทาง และใช้เวลาในการเดินทางอยู่ที่ราว ๆ ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ซึ่งเวลาของการเดินทางนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพของจราจรอีกด้วย หากวันที่มีการจารจรติดขัดมาก ๆ ก็อาจจะใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
 

เดินทางระหว่างดอนเมือง-สุวรรณภูมิสามารถเดินทางแบบไหนได้บ้าง?

travel-story-1746598061_e6d086943247f0187b5c-0

นอกจากรถ Shuttle Bus แล้ว การเดินทาง จาก ดอนเมือง ไป สุวรรณภูมิหรือเดินทางจากสุวรรณภูมิไปดอนเมืองนั้นก็มีอีกหลากหลายวิธีที่จะทำให้สามารถเดินทางไปถึงได้เช่นกัน เพราะหากว่าจังหวะที่เครื่องบินของเรานั้นลงจอดในช่วงระยะเวลาที่รถ shuttle bus นั้นหยุดให้บริการ หรือเกิดเหตุรถ Shuttle Bus ขัดข้อง การเดินทางของเพื่อน ๆ ก็จะไม่ถูกสะดุดไปด้วย ดังนั้นแล้วควรวางแผนมองหาวิธีการเดินทางอื่น ๆ เผื่อเอาไว้บ้าง เพื่อในกรณีฉุกเฉินเราจะได้มีหนทางในการแก้ปัญหา และเดินทางไปขึ้นเครื่องต่อได้อย่างสบายใจ 

1. รถรับส่งสนามบินส่วนตัว

การเดินทางแบบแรกอย่าง รถรับส่งสนามบินส่วนตัว เป็นการใช้บริการรถที่มีการจองเอาไว้ผ่านทางแอปพลิเคชันท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยจะเป็นการจองรถประเภทต่าง ๆ ตามที่ต้องการให้ไปส่งตามจุดหมายที่กำหนดเอาไว้ โดยสามารถเลือกรถได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมกับราคาที่กำหนดด้วยระยะทาง สามารถขึ้นได้ทันทีเมื่อลงจากเครื่อง อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา นั่นจึงทำให้การเดินทางแบบนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ใครหลายคนต่างก็เลือกใช้งาน และมักจะจัดโปรโมชันเพื่อให้การเดินทางนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ช่วยประหยัดไปได้อีก

ข้อดี
  • มีความเป็นส่วนตัวสูงไม่มีคนอื่นเพราะเป็นรถที่จองแบบส่วนตัว
  • สามารถมารับมาส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ราคาที่สามารถกำหนดได้ พร้อมกับโปรโมชันส่วนลด
  • ไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลายาวนาน
  • มีรถหลากหลายประเภทให้เลือกใช้บริการ
  • มีความปลอดภัยสูง
  • หากไม่มีเงินสดสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตแทนได้

ข้อเสีย
  • หากไม่ทันช่วงโปรโมชันส่วนลดจะต้องจ่ายราคาเต็ม
  • ราคาของแต่ละแอปนั้นไม่เท่ากันหากอยากได้ราคาดีที่สุดต้องเปรียบเทียบหลายแอป
 

2. รถแท็กซี่ (Taxi) 

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีสุดคลาสสิกที่ทำกันมาอย่างยาวนานนั่นก็คือการใช้บริการ รถแท็กซี่ (Taxi) ที่จอดอยู่ภายในหรือบริเวณรอบ ๆ ของสนามบิน เพราะวิธีเป็นการเดินทางที่สะดวก สามารถพบเจอได้ง่าย สามารถไปถึงอีกสนามบินได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่แวะจุดไหน และยังมีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากไม่ต้องขึ้นร่วมกับใคร แต่ก็เปรียบได้กับการสุ่มโชค หากเจอกับแท็กซี่ที่บริการดีการเดินทางก็จะสบายตลอดเส้นทาง แต่หากไม่แล้ว การเดินทางนั้นก็อาจจะมีการอึดอัดเกิดขึ้นจนต้องขอให้ถึงที่หมายเร็ว ๆ

ข้อดี
  • สามารถถึงที่หมายได้อย่างสะดวกเนื่องจากไม่ต้องเปลี่ยนวิธีการเดินทาง
  • มีหลักแหล่งให้หาพบเจอได้มากมายทั้งในและนอกบริเวณของสนามบิน

ข้อเสีย  
  • ค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถควบคุมได้
  • การรอคิวที่ใช้เวลาค่อนข้างนานจนถึงนานมาก
  • อาจจะเจอปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารในรูปแบบต่าง ๆ
  • ไม่เหมาะสำหรับคนที่ขนสัมภาระที่ค่อนข้างเยอะ
 

3. รถไฟฟ้า SRT Red Line และ Airport Rail Link

สำหรับรถไฟฟ้านั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางการเดินทางที่สามารถหลบเลี่ยงรถติดได้อย่างเห็นผล เพราะไม่ว่าบนท้องถนนจะมีรถติดกันมากขนาดไหน แต่สำหรับรถไฟฟ้าก็ยังคงแล่นไปได้ต่อ ซึ่งสำหรับการเดินทาง จาก ดอนเมือง ไป สุวรรณภูมิ ด้วยการใช้วิธีนี้ก็ต้องวอร์มร่างกายกันให้พร้อมสักเล็กน้อย เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปถึงได้แบบต่อเดียว เพราะการเดินทาง จาก ดอนเมือง ไป สุวรรณภูมิ จะมีขั้นตอนตามนี้
  • ขึ้นไฟฟ้าสายสีแดงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
  • ลงสถานีกลางบางซื่อ แล้วก็เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) ไปที่สถานีเพชรบุรี
  • ออกจาก MRT และไปขึ้น Airport Rail Link สถานีมักกะสัน
  • เลือกสถานีสนามบินสุวรรณภูมิ และนั่งไปจนถึงสนามบิน

และในกรณีที่จะเดินทางด้วยรถจากสุวรรณภูมิไปดอนเมืองแบบนี้ก็แค่กลับเส้นทางกันเท่านั้น ก็จะถึงดอนเมืองแล้วตามนี้ได้เลย
  • นั่ง Airport Rail Link จากสุวรรณภูมิลงที่สถานีมักกะสัน
  • เปลี่ยนไปขึ้น MRT สถานีเพชรบุรี
  • มุ่งหน้าไปจนถึงสถานีสถานีกลางบางซื่อ
  • เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงโดยเลือกไปสถานีดอนเมือง

ก็ต้องขอบอกเลยว่า วิธีนี้แม้จะต้องเดินขึ้นลงเป็นว่าเล่นแต่ช่วยประหยัดทั้งในเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่ายลงไปได้ดีเลยทีเดียว

ข้อดี

  • สามารถช่วยประหยัดในเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่ายลงได้อย่างพอสมควร

ข้อเสีย
  • จะพบเจอกับความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วนฃ
  • ไม่สามารถเดินทางให้จบภายในครั้งเดียวต้องเปลี่ยนสถานีบ่อย ๆ
  • ไม่เหมาะกับการขนสัมภาระติดตัวไปเยอะ ๆ รวมถึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้วย
 

4. รถตู้

สำหรับการใช้บริการรถตู้จากดอนเมืองเพื่อไปสุวรรณภูมิ หรือจะเป็นการนั่งจากสุวรรณภูมิมาลงที่ดอนเมือง จะใช้บริการรถตู้สาย 555 ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกสบายในการเดินทางเพราะว่าต่อเดียวถึงไม่ยุ่งยาก อีกทั้งค่าใช้บริการหรือเงินที่ต้องจ่ายเพื่อซื้อตั๋วก็ถือว่ามีราคาที่ถูก ซึ่งสำหรับคิวปล่อยรถของทั้ง 2 สนามบินนั้นก็จะไม่เหมือนกัน โดยจะมีช่วงระยะเวลาดังต่อไปนี้

ท่ารถตู้สาย 555 ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ ขึ้นที่ อาคาร 1 ที่เป็นอาคารส่วนต่อขยายสำหรับกรุ๊ปทัวร์

ช่วงระยะเวลา 
  • จันทร์ถึงศุกร์ช่วงเช้า 05.00 - 09.00 น. ช่วงเย็น 16.00 - 18.10 น.
  • เสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ช่วงเช้า 06.00 - 07.10 น. ช่วงเย็นคันสุดท้ายออกเวลา 17.30 น.


ท่ารถตู้สาย 555 สุวรรณภูมิ - ดอนเมือง ขึ้นที่ บริเวณศูนย์ขนส่งสาธารณะ
  • ช่วงระยะเวลา 06.00 - 21.00 น.

  ข้อดี
  • สามารถเดินทางไปถึงอีกสนามบินได้ภายในต่อเดียว
  • ราคาตั๋วสำหรับเดินทางค่อนข้างที่จะถูก

ข้อเสีย
  • เวลาการปล่อยรถมีความไม่แน่นอนสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ท่ารถ
  • ไม่เหมาะกับคนที่ต้องขนสัมภาระไปเยอะหรือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
  • ไม่มีความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง
 

5. รถประจำทางหรือรถเมล์

และสำหรับวิธีสุดท้ายในการเดินไปมาระหว่างสองสนามบินนี้ก็คือการนั่งรถประจำทาง หรือที่เรียกกันติดปากว่ารถเมล์นั่นเอง ซึ่งสำหรับการนั่งรถบัสจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิหรือนั่งรถบัสจากสุวรรณภูมิไปดอนเมืองสายของรถเมล์ที่จะให้บริการนั้นก็ได้แก่ สาย 554 (รังสิต - รามอินทรา - สุวรรณภูมิ) ซึ่งจะวิ่งเส้นทางเดิมตลอดทั้งไปและกลับ เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่มีความโดดเด่นในเรื่องของค่าตั๋วที่ถูกที่สุดในตจำนวนการเดินทางทั้งหมดที่ต้องเสียค่าบริการ ซึ่งหากใครที่ไม่เร่งรีบ อยากใช้วิถีสโลว์ไลฟ์ ก็ต้องบอกเลยว่า การเดินทางด้วยรถเมล์นี้ตอบโจทย์ในจุดนี้มาก ๆ เลยทีเดียว ใครอยากสัมผัสกับบรรยากาศของการจราจรบนท้องถนนโดยไม่หวั่นต่อเรื่องเวลา ต้องลองเลย

ข้อดี
  • ราคาประหยัดที่สุดในการเดินทางที่ต้องเสียค่าบริการ
  • ถึงจุดหมายภายในต่อเดียวไม่ต้องเปลี่ยนการเดินทาง

ข้อเสีย
  • กินเวลาการเดินทางมากที่สุดในการเดินทางทั้งหมด
  • ใช้ระยะเวลาในการรอขึ้นรถค่อนข้างที่จะนาน
  • ไม่เหมาะกับคนที่ต้องขนสัมภาระไปเยอะหรือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
  • มีโอกาสที่จะต้องเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน

ก็เรียกได้ว่าเห็นข้อเปรียบเทียบกันไปเลยแบบจะ ๆ ว่าแต่ละการเดินทางนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ซึ่งหากใครที่ไม่ซีเรียสในการจ่ายค่าบริการแล้วละก็ สามารถลองการเดินทางแบบต่าง ๆ เหล่านี้กันได้เลย แต่หากอยากได้การเดินทางไปถึงแบบต่อเดียว และยังไม่ต้องเสียเงินสักบาท การเลือกเดินทางด้วย รถ shuttle bus ที่ทางสนามบินจัดเตรียมเอาไว้ให้นั้นก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
 

ข้อแนะนำควรรู้ เมื่อต้องเดินทางระหว่างสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

travel-story-1746598254_21c033d698f0c1297527-0

  สุดท้ายนี้เรามาสรุปรวมกันอีกครั้งกับการเดินทาง จาก ดอนเมือง ไป สุวรรณภูมิ หรือจะกลับเป็นการเดินทางจากสุวรรณภูมิมาที่ดอนเมืองด้วย รถ shuttle bus นั้นมีอะไรที่ควรจดจำและควรรู้เอาไว้สำหรับการเตรียมตัวที่จะเดินทางไว้สำหรับเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งหากเกิดข้อผิดพลาดนั้นจะได้แก้ไขได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที การเดินทางจะได้ไม่มีสะดุด ราบรื่นถึงที่หมายได้ตามกำหนดการ  

ใช้เวลากี่นาที ควรเผื่อเวลาเดินทางเท่าไหร่

  สำหรับในเรื่องของเวลาของการเดินทางด้วยรถ shuttle bus ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ หรือ รถบัสจากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง จะใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด

 
  • ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง 
  จะเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในช่วงเวลาที่กำลังเดินทางอยู่ ซึ่งหากจะให้ดีนั้นการเผื่อเวลาเดินทางสำหรับการเปลี่ยนเครื่องที่กำลังดีและไม่จวนตัวจนเกินไปจะอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงกำลังดี ซึ่งจะเป็นการเผื่อเวลาไว้สำหรับเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้แก้ไข ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้อย่างทันท่วงที

 

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเปลี่ยนสนามบิน

  เมื่อเรามีการเตรียมตัวก่อนที่จะเปลี่ยนสนามบินแล้วจะทำให้การจัดการตัวเองเมื่อลงมาจากสนามบินทำได้สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วมากกว่าเดิม ช่วยให้การเดินทางนั้นผ่านไปได้อย่างฉลุย และไม่เกิดปัญหาที่ทำให้การเดินทางนั้นล่าช้า เพราะฉะนั้นแล้วมาดูสิ่งที่ต้องเตรียมเอาไว้ ก่อนที่จะทำการขึ้น รถ shuttle bus เพื่อเปลี่ยนสนามบินกันเลย

 
  • ตั๋วเครื่องบินหรือบัตรโดยสาร (Ticket)
  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • บัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass)
  • จำจุดขึ้นรถ shuttle bus แล้วเดินตามป้ายหรือถามจากพนักงานบริการเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ถูกต้อง
  • จุดขึ้นรถของดอนเมือง : อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 1 ประตู 6
  • จุดขึ้นรถของสุวรรณภูมิ : ชานชาลาอาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 3
  • ระยะเวลาของรถ shuttle bus จะมาทุก ๆ 30 นาที ต่อ 1 รอบ และรอรับเพียงแค่ 15 นาที
  เมื่อเตรียมเอกสารและจำจุดขึ้นรถรวมถึงระยะเวลาของรอบรถแล้ว การเดินทางเปลี่ยนสนามบินก็จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นให้กังวลใจว่าจะขึ้นไฟล์ทต่อไปไม่ทันอย่างแน่นอน

 

ข้อควรระวังในช่วงเวลารถติดหรือช่วงวันหยุด

  ในส่วนของข้อควรระวังในช่วงเวลาที่เร่งด่วน หรือวันหยุดที่อาจจะเกิดปัญหาจราจรรถติดแล้วนั้น ไม่ควรที่จะชะล่าใจไปถึงสนามบินแบบไม่เผื่อเวลา เพราะหากว่าเจอปัญหาขึ้นมาจริง ๆ แล้ว การตกไฟล์ท หรือตกเที่ยวบินนั้นก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นหากเรารู้แล้วว่าจะมีแพลนในการเดินทางช่วงของวันที่รถหรือการจราจรจะต้องติดขึ้นอย่างแน่นอนนั้น ก็ควรตรวจสอบสิ่งของที่จะเตรียมนำไปด้วยให้เสร็จสรรพตั้งแต่คืนก่อนเดินทาง และเมื่อถึงวันเดินทางควรไปให้เร็วมากยิ่งขึ้น เผื่อเวลาในการเดินทางประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ปัญหาการจราจรติดขัดก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป
 

travel-story-1746598331_4f78ada3c411deda0116-0

  ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการใช้รถ shuttle bus เดินทางจาก ดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ หรือใช้บริการรถ shuttle bus เพื่อเดินทางจากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง จะเห็นได้ว่าเป็นการเดินทางเปลี่ยนเครื่องที่สะดวกจากการเดินทางเพียงแค่ต่อเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนการเดินทางต่าง ๆ ให้วุ่นวาย พร้อมกับมีรอบบริการที่เรียกได้ว่าแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญคือ ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเดินทางเปลี่ยนสถานบินได้อย่างสบายใจ    ดังนั้นแล้วเพื่อน ๆ ที่ต้องเปลี่ยนสนามบินก็จะได้หมดปัญหาในเรื่องของความกังวลว่าจะเดินทางด้วยวิธีไหนดี หรือกังวลในเรื่องของระยะเวลาว่าถ้าหากเรียกรถแล้วจะสามารถไปถึงทันเวลาที่ต้องเช็กอินหรือไม่ รวมไปถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายที่บางการเดินทางนั้น แม้จะสะดวกรวดเร็วแต่กลับมีค่าใช้จ่ายที่เกินกำหนดควบคุม เพียงแค่นำตั๋วเดินทางและบัตรขึ้นเครื่องไปยื่นให้กับพนักงาน ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็จะถูกได้รับการแก้ไขด้วยรถ shuttle bus ในทันที และสำหรับใครที่อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมนั้นก็สามารถติดต่อไปได้ที่ AOT Contact Center เบอร์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
 

ผู้เขียน

logo

Gother

แหล่งรวมเรื่องราวท่องเที่ยว ที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย

logo

Gother

07 พ.ค. 2025

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ