พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ฤดูไหนสวยสุด เรารวมจุดไฮไลต์ไว้ให้แล้ว!

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กลายเป็นเรื่องยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางไปที่ญี่ปุ่น เพื่อรับชมวิวทิวทัศน์ความสวยงามที่ธรรมชาตินั้นรังสรรค์ออกมาให้รับชมกับปรากฏการณ์ใบไม้ที่เปลี่ยนสี ที่จะสร้างความงดงามให้กับการพบเจอจนเกิดเป็นความประทับใจ รับรองว่าเมื่อได้เห็นในครั้งแรก จะต้องอยากกลับมาซ้ำอีกรอบอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหากใครที่เคยสัมผัสด้วยตัวเองไปแล้วอยากกลับไปเยือนอีกครั้งแต่ไม่มั่นใจว่าจะตรงกับช่วงเวลาเดิมหรือไม่ Gother จะมาแนะนำกับ ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ที่จะพาให้ทุกคนนั้นไปเจอกับช่วงเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับการมอง ใบไม้เปลี่ยนสี และพร้อมกับมาแนะนำจุดชมหรือสถานที่สำคัญ สำหรับการรับชมที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั้งหลายนั้นเลือกจะเดินทางไปเช็คอินกัน

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ฤดูไหนสวย อยากเห็นความงามต้องได้เห็น แนะนำช่วงเวลา และจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีทั่วประเทศญี่ปุ่น เช็กเลยเที่ยวช่วงไหนดี? การชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวในแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นฮอกไกโดในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง หรือคันไซในช่วงพีคของเดือนพฤศจิกายน จุดชมวิวอย่างอาราชิยามะ เมืองเกียวโต หรือสวนโคโยในโตเกียว ล้วนเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อถึงฤดูกาลนี้ การได้เดินท่ามกลางธรรมชาติที่แต่งแต้มด้วยสีสันของใบเมเปิ้ลและใบแปะก๊วย คือประสบการณ์ของการ ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ทั้งสวยสะกดใจและน่าจดจำอย่างยิ่ง
 

สำหรับช่วงเวลาของการที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นนั้นก็เริ่มเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเหล่าต้นไม้ที่เติบโตทั้งหลายนั้นจะเริ่มทำการผลัดสีใบจากที่เคยเป็นสีเขียวขจีทั่วทั้งต้น ก็เริ่มจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นแดงบ้าง ส้มบ้าง หรือแม้แต่สีเหลืองเองก็ด้วย หลังจากนั้นใบไม้ที่พลันเปลี่ยนสีจะเริ่มร่วงโรยลงสู่พื้นดิน กลายเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะโรแมนติก และยังเป็นการต้อนรับลมหนาวของฤดูหนาวที่กำลังจะเข้ามาทักทายอีกด้วย ซึ่งช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับการ ชมใบไม้เปลี่ยนสี เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานที่ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว แต่ละพื้นที่ของเมืองชื่อดังต่าง ๆ นั้นจะมีช่วงเวลาที่เริ่มร่วงหล่นลงมานั้นแตกต่างกันไป ซึ่งจะเริ่มเกิดขึ้นที่ทางเหนือของประเทศก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาทางใต้ไปเรื่อย ๆ จนครบทั่วทั้งประเทศ ใครที่วางแผน ชมใบไม้เปลี่ยนสี ควรตรวจสอบช่วงเวลาของแต่ละภูมิภาคให้ดี เพื่อไม่ให้พลาดความงดงามในช่วงพีคของปี ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนที่เก้าอย่างกันยายน ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยคุณสามารถวางแผนทริป ชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้จากไกด์ด้านล่างนี้

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีแต่ละเมืองสำคัญ 

• ฮอกไกโด เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
• โทโฮคุ เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม
• โตเกียว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม
• คันโต เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม
• คันไซ เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน
• เกียวโต เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน
• คิวชู เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม

ก่อนจะออกเดินทางเพื่อไปรับชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 นั้นเหล่านักท่องเที่ยวทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนที่เดินทางไปมาหลายครั้งแล้ว หรือเป็นคนที่พึ่งจะเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องเตรียมตัวก่อนจะออกเดินทางไปรับชมกับมนต์มหัศจรรย์ของธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ก่อนจะได้เดินทางนั้นเกิดอุปสรรคจนต้องอดออกไปเห็น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น และได้เดินทางไปถึงที่หมายได้ตามแพลนที่ได้วางเอาไว้ ก็ต้องเตรียมตัวกันให้พร้อมเสียก่อน
 

สิ่งสำคัญต่าง ๆ ที่ควรเตรียม

• Passport (หนังสือเดินทาง) ซึ่งต้องมีอายุเล่มไม่น้อยกว่า 6 เดือน
• ตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ ใช้สำหรับกำหนดวันและเวลาที่จะอยู่ในประเทศนี้
• บัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตน
• บัตรเครดิต เพื่อเอาไว้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้จ่ายแบบออนไลน์ได้ แต่ทางที่มีควรมีเงินสดพกติดตัวเพื่อนำไปแลกเป็นสกุลเงินเยน (Yen) ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
• เอกสารจองที่พัก สำหรับการยื่นให้กับทางที่พักเมื่อไปถึง หรือจะใช้ Email ยืนยันที่ทางที่พักส่งมาก็ได้เช่นกัน

• การแต่งกาย เสื้อผ้าที่เลือกใส่นั้นควรมีเนื้อผ้าที่จะสามารถสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายอย่างพวกเสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ต สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตน้ำหนักเบา อาจจะมีผ้าพันคอกับถุงมือสำหรับกันลมหนาว รวมไปถึงกางเกงขายาวอย่างยีนส์หรือลูกฟูก และรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าบูทสำหรับการเดินในระยะทางไกล ๆ
• กล้อง แน่นอนว่าหากได้ไปเที่ยวในช่วงนี้ การบันทึกภาพเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำนั้นก็เรียกได้ว่าเป็นของจำเป็นอย่างสุด ๆ หรือหากใช้สมาร์ทโฟนในการบันทึกภาพ ก็อย่าลืมพกเอาแบตสำรองหรือว่าเครื่องสำรองไฟไปด้วย เพื่อให้มีแบตเตอรี่ใช้เพียงพอตลอดทั้งวัน
• สิ่งของสำหรับกันฝน เพราะว่าฤดูใบไม้ร่วงของทางญี่ปุ่นนั้น อาจจะมีฝนตกลงมาปรอย ๆ ได้ในบางพื้นที่ เพราะฉะนั้นการเตรียมเอาร่ม หรือเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วยนั้น จะช่วยทำให้การเดินรับชมนั้นไม่ถูกขัดจังหวะ รวมไปถึงอาจได้ความรู้สึกที่แตกต่างกับช่วงที่ฝนไม่ตกอีกด้วย

เมื่อเตรียมตัวกันเรียบร้อย พร้อมกับดูวันเดือนปีสำหรับการพยากรณ์ ใบไม้เปลี่ยนสีที่จะเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะออกเดินทางเพื่อไปพบเจอเข้ากับบรรยากาศสุดโรแมนติกกันแบบจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้สีแดง ส้ม หรือแม้แต่สีเหลือง ก็ต้องมีจุดหรือสถานที่สำหรับดู เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ของการรับชมใบไม้ที่จะฝังความประทับใจนั้นลงไปภายในความทรงจำ ซึ่ง Gother นั้นก็ได้รวบรวมเอา 10 จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ที่เป็นถึงสถานที่ไฮไลท์สำคัญทั่วประเทศของญี่ปุ่น เพื่อที่คุณนั้นจะได้จุดที่สามารถรับชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีและใบไม้ร่วงนี้ได้กันแบบฟิน ๆ ตลอดทั้งวัน
 

ทะเลสาบคาวากุจิโกะจังหวัดยามานาชิ

แน่นอนว่ามาญี่ปุ่นทั้งที จะพลาดจุดสำคัญอย่างภูเขาไฟฟูจิไปได้อย่างไง เพราะฉะนั้นการเลือกจุดดูใบไม้เปลี่ยนสีก็คงต้องนึกถึง ทะเลสาบคาวากุจิโกะ เ็นสถานที่แรก ๆ เพราะว่าหากเลือกจุดนี้เป็นจุดรับชม จะได้ทั้งทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งเด่นตระหง่านเป็นฉากหลัง แสงอาทิตย์ที่ส่องระยิบระยับอยู่เหนือทะเลสาบ พร้อมกับใบไม้หลากหลายสีสันที่กำลังร่วงหล่นลงมา ก็เป็นวิวที่โรแมนติกไม่เบา และในพื้นที่ใกล้ ๆ กันนั้นยังมี อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร ที่เป็นถนนเลียบคลองสายเล็ก ๆ เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นที่กำลังผลัดใบ เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่ไปกันเลยทีเดียว

 

เมืองนิกโกจังหวัดโทจิงิ

ยกมาให้กันแบบเหมาเมือง เพราะว่านิกโก เมืองในจังหวัดโทจิงิ เต็มไปด้วยแหล่งดูใบไม้เปลี่ยนสีชั้นยอด ที่จะสร้างประสบการณ์ในการรับชมให้กับคุณได้แบบตื่นตาตื่นใจ ทั้งการดูวิวเมือง วิวน้ำตก หรือวิวสูง ก็สามารถเดินทางเก็บให้ครบ ๆ โดยสถานที่แนะนำของเมืองนี้ก็ได้แก่ สะพานไม้สีแดงชินเคียว, ถนนอิโรฮาซากะ, กระเช้าอะเคจิไดระ และน้ำตกเคงอน และอย่าพลาดกับเส้นทางคันมันกาฟุจิ ที่มีพระพุทธวางเรียงกันมากถึง 70 รูป ท่ามกลางป่าไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีใบ บอกเลยว่าสวยงามอย่างลงตัว หรือจะเป็นสถานที่อื่น ๆ ที่มีอีกเพียบ รับรองว่าแค่เที่ยวในเมืองที่เดียว ก็คุ้มค่าตั๋วสำหรับการเดินทางมาตามพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นแล้ว
 

สวนเมจิจิงงู ไกเอ็น โตเกียว

  หากว่าใครที่เดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นแล้วมีเป้าหมายว่าต้องการจะปักหลักอยู่ในเมืองหลวงอย่างโตเกียวแล้วอยากจะรับชมใบไม้เปลี่ยนสี ก็ต้องไม่พลาดที่จะเดินทางไปยัง สวนเมจิจิงงู ไกเอ็น ซึ่งเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยที่กำลังผลัดใบสีเขียว กลายเป็นใบสีเหลืองอย่างตระการตา เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวงแห่งนี้กันเลยทีเดียว และนอกจากการได้รับชมแล้ว ยังสามารถนำอาหารว่างและเครื่องดื่มมานั่งปิกนิก เป็นการพักผ่อนหย่อนใจที่เหล่าชาวโตเกียวนั้นชื่นชอบที่จะทำกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้

 

คามิโคจิจังหวัดนากาโนะ

คามิโคจิในจังหวัดนากาโนะ อีกหนึ่งจุดชมวิวของใบไม้เปลี่ยนที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาสูงใหญ่ตั้งตระหง่าน โดยนจุดนี้ก็คือ เทือกเขาเจแปนแอลป์พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ สูงประมาณ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากจะมีฉากหลังเป็นเทือกเขาแล้ว พร้อมกับสะพานที่มีทางเดินค่อนข้างไกลพอสมควร ช่วยยืดระยะเวลาในการได้รับชมความมหัศจรรย์ที่แสนสวยงามของธรรมชาติ ที่มีทั้งต้นไม้ ลำธาร หลอมรวมกันออกมาเป็นวิวที่สุดจะอลังการงานสร้าง ตระการตาอย่างแน่นอน

 

อุทยานแห่งชาติไดเซสึซังจังหวัดฮอกไกโด

สำหรับใครที่อยากรับชมการเปลี่ยนสีของใบไม้ก่อนใคร อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง จังหวัดฮอกไกโด คือจุดแลนด์มาร์คที่คุณต้องไปเช็กอิน สามารถรับชมวิวได้จากมุมสูงด้วยกระเช้าลอยฟ้าที่จะพาคุณขึ้นไปสู่ยอดเขา มองเห็นวิวของต้นไม้มากมายที่ถูกแต้มแต้มสีสันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว สีแดง สีเหลืองและสีส้ม จนเมื่อรถกระเช้ามาถึงจุดหมาย การเดินป่าลงไปก็จะมอบประสบการณ์ในการท่องเที่ยวรวมถึงชมวิวให้เราได้สัมผัสกันอีกแบบ รับรองได้เลยว่าจะจดจำความประทับใจนี้ไปอีกแสนนาน

 

หมู่บ้านโออุจิจูคุจังหวัดฟุกุชิมะ

  หมู่บ้านโออุจิจูคุของจังหวัดฟุกุชิมะ หมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งธรรมชาติมีบ้านอยู่ประมาณ 50 หลัง เต็มไปด้วยกลิ่นอายและบรรยากาศของยุคเอโดะ พร้อมกับวิถีชีวิตเก่าแก่ของคนญี่ปุ่นที่จะสร้างความขลังให้กับการได้เข้ามาเยี่ยมชม ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติมากมาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยียนเพื่อรับชมใบไม้ที่เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม และไม่เพียงแค่ฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น แต่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวในทุกฤดู เนื่องจากจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกันอีกด้วย

 

วัดคิโยมิซุ จังหวัดเกียวโต

วัดคิโยมิซุ วัดอันโด่งดังและเปรียบได้กับแลนด์มาร์คของเกียวโตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการรับชมใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยความสวยงามสมค่ากับการถูกยกให้กลายเป็นมรดกโลกแบบสุด ๆ ซึ่งสามารถรับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะยืนอยู่ส่วนไหนของวัดก็ตาม แต่หากจะรับชมเหล่าใบไม้หลากสีสันได้สวยที่สุดนั้น ขอแนะนำให้ไปยืนชมที่ด้านบนโถงของอาคารไม้ ที่มีขนาดใหญ่ และมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 13 เมตร จะเห็นทั้งใบไม้ที่เปลี่ยนสีและวิวเมืองเกียวโตได้อย่างเต็มตา

 

ปราสาทโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้าจังหวัดโอซาก้า อีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวอันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ที่ยังคงสภาพเอาไว้ได้อย่างสวยงาม ปราสาทใจกลางเมืองแห่งนี้พร้อมจะมอบประสบการณ์ในการรับชมใบไม้เปลี่ยนสีที่บริเวณสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่รอบ ๆ ของตัวปราสาทไม่ว่าจะเป็นใบไม้สีสันมากมาย รวมไปถึงต้นแปะก๊วยสีเหลืองอร่าม ให้คุณได้รับชมอย่างสวยงามท่ามกลางตึกสูงของเมืองใหญ่ได้เป็นอย่างดี มุมสำหรับถ่ายรูปเช็คอินมีเพียบ ไม่ว่าจะมาในช่วงเช้า บ่ายหรือแม้แต่ตอนเย็น ก็จะได้รับชมวิวที่เรียกได้ว่าสุดแสนจะโรแมนติก 
 

สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยูเมะ จังหวัดโออิตะ

หากต้องการเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีอย่างเพลิดเพลินทาง Gother ขอส่ง สะพานแขวนโคโคโนเอะจากจังหวัดยูเมะโออิตะ ให้เข้ามาอยู่ในลิสต์สถานที่ดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ที่ต้องไป จุดเด่นของที่นี่นั้นก็ได้แก่ สะพานแขวนที่มีความยาว 375 เมตร และความสูง 173 เมตร ส่งผลให้สะพานแขวนแห่งนี้เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในประเทศ ตัวสะพานนั้นจะพาดผ่านช่องเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมายไกลสุดลูกหูลูกตา เพราะฉะนั้นจึงสามารถรับชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างระรานตา จะมองไปทางไหนก็พบเจอแต่ความสวยงาม รับรองได้เลยว่าที่แห่งนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งที่ที่คุณจะต้องประทับใจ
 

เมืองโอบาระ จังหวัดไอจิ

เมืองโอบาระจังหวัดไอจิ คือสถานที่ที่จะทำให้คุณนั้นได้พบเจอการเปลี่ยนสีของใบไม้และดอกซากุระไปพร้อม ๆ กัน เรียกได้ว่านี่คือจุดแข็งและจุดขายของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ โดยดอกซากุระของเมืองนี้เป็นสายพันธุ์ ชิกิซากุระ (Shikizakura) มีลักษณะเป็นดอกเล็ก ๆ จะบานปีละ 2 ครั้ง ทำให้มีความพิเศษกว่าสายพันธ์อื่นที่มีอยู่ทั่วญี่ปุ่น ทำให้การเดินทางมาที่เมืองนี้ เรียกได้ว่าเป็นกำไรที่เกินคุ้ม เพราะนอกจากจะได้รับชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ยังได้รับชมดอกซากุระที่กำลังเบิ่งบาน เพราะฉะนั้นใครที่ชื่นชอบดอกไม้สีชมพูสายพันธ์นี้ ที่มาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิไม่ทัน ที่นี่พร้อมทดแทนให้คุณอย่างน่าประทับใจ  

และทั้งหมดก็คือ พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ที่ทาง Gother นั้นนำมาฝากกับทุกคนที่อยากเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศช่วงใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี จากสีเขียวกลายเป็นสีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีส้ม และสีเหลือง พร้อมกับร่วงหล่นมาสู่พื้นดินจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามและน่าอัศจรรย์ เพราะการได้มาเที่ยวชมในช่วงแบบนี้นั้นก็จะเป็นการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่ง ช่วยสร้างความประทับใจในความสวยงามของพื้นที่ รวมไปถึงได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกในทุกช่วงเวลาของวัน ไม่ว่าจะเที่ยวในช่วงเช้า ช่วงสาย หรือแม้แต่ช่วงค่ำเองก็ตาม  

เพราะฉะนั้นแล้วใครที่อยากจะลองเดินทางไปรับชมบรรยากาศแห่งความสวยงามที่มาพร้อมกับลมเย็น ๆ และมีฝนตกปรอย ๆ ช่วยให้การเดินเที่ยวชมนั้นสามารถทำได้อย่างเพลิดเพลินไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนจนเหงื่อแตก แล้วจะเที่ยวได้ไม่สนุก ก็ต้องจัดเตรียมสิ่งของให้เรียบร้อย พร้อมกับจัดตารางเวลาให้เหมาะเจาะ ที่จะเดินทางไปแล้วรับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในทันที ก็อย่าได้รอช้า รีบเข้ามาจับจองตั๋วเครื่องบินมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นกับ Gother ได้ที่ https://www.gother.com/th-th/flights/japan ซึ่งได้รวบรวมเอาสายการบินชื่อดังมากมายที่จะพาทุกคนนั้นไปเที่ยวถึงญี่ปุ่น ในราคาที่สุดแสนจะพิเศษ รับรองได้ว่าการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ของคุณจะมีแต่ความความประทับใจตั้งแต่จองตั๋ว เดินทางไปญี่ปุ่น และกลับมาถึงเมืองไทยอย่างแน่นอน