รวม 15 ไอเทม สกินแคร์ เครื่องสำอางญี่ปุ่น ของฝากจากญี่ปุ่นที่ต้องหิ้วกลับไทย!

ถ้าถามว่านักเดินทางสายบิวตี้ไปญี่ปุ่นแล้วต้องซื้ออะไรกลับมา? คำตอบที่ได้ยินบ่อยกันสุดๆ คงหนีไม่พ้น “ซื้อสกินแคร์และเครื่องสำอางญี่ปุ่นสิ!” เพราะของเขาไม่ใช่แค่คุณภาพดีเท่านั้น แต่ยังราคาน่ารัก มีให้เลือกหลากหลาย แถมบางชิ้นหาซื้อยากในไทยอีกด้วย

วันนี้เราเลยรวม 15 ไอเทมเด็ดจากญี่ปุ่น ที่สายบิ้วตี้ต้องไม่พลาด! ใครกำลังวางแผนไปญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ เตรียมลิสต์นี้ไปพร้อมกระเป๋าว่างๆ ได้เลย เพราะคุณจะอยากเหมา กลับมาแน่นอน!

สกินแคร์ญี่ปุ่นแบรนด์แรก ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Elixir ที่อยู่ในเครือแบรนด์ดังอย่าง SHISEIDO ครองตำแหน่งยอดขายอันดับ 1 ในญี่ปุ่นมายาวนาน พร้อมรางวัลการันตีความนิยมอีกเพียบ บอกเลยว่าคุณภาพระดับพรีเมียมแต่ราคาจับต้องได้เมื่อซื้อที่ญี่ปุ่น 

จุดเด่นของ Elixir คือการเน้นดูแลผิวผู้หญิงวัย 30+ โดยเฉพาะกลุ่ม Anti-Aging ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวที่เริ่มอ่อนแอ ให้กลับมากระชับ ฉ่ำฟู และกระจ่างใสเหมือนได้ย้อนวัยอีกครั้ง แพคเกจจิ้งมีความหรูหรา เนื้อผลิตภัณฑ์แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายผิว ใครๆ ก็ต่างรีวิวว่า ได้ผิวเด้งฉ่ำวาวแบบสาวญี่ปุ่นแท้ๆ

💡ไอเทมแนะนำ: Elixir Design Time Serum และ Elixir Lifting Moisture Lotion

แบรนด์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยเห็นผ่านตากับชื่อเสียงของ "น้ำตบในตำนาน" อย่าง Hada Labo อีกหนึ่งไอเทมคลาสสิกที่ไม่มีใครไม่รู้จัก! Hada Labo จาก Rohto เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ความชุ่มชื้นแบบล้ำลึก โดยเฉพาะ Gokujyun Hyaluronic Acid Lotion ที่เคยขายได้มากกว่า 100 ล้านขวดทั่วโลก! ความพิเศษคือเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ และใช้ Super Hyaluronic Acid ที่ให้ความชุ่มชื้นได้มากกว่าปกติหลายเท่า ใช้แล้วผิวนุ่ม เด้ง ไม่แห้งตึง เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวแพ้ง่าย ใครคิดไม่ออกว่า ไปเที่ยวแล้วจะหาของฝากจากญี่ปุ่นเป็นอะไรดี

💡ไอเทมแนะนำ: Hada Labo Premium Hydrating Lotion (ขวดทอง) และ Gokujyun Light Lotion สำหรับผิวมัน

สำหรับใครที่เป็นสายสกินแคร์ญี่ปุ่น และชอบสัมผัสหรูหรา เนื้อเนียน ละเอียดและกลิ่นหอมละมุน Kanebo ตอบโจทย์แน่นอน! แบรนด์นี้มีทั้งสายเมคอัพและสกินแคร์ แต่ตัวท็อปของแบรนด์คือ Cream in Day & Night ที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลผิวอย่างสมบูรณ์ในสองช่วงเวลา ให้ผิวได้ฟื้นฟูในตอนกลางคืน และได้รับการปกป้องพร้อมบำรุงในตอนกลางวัน ให้ความรู้สึกเหมือนทำสปาผิวทุกวัน เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่หนักหน้า ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งถึงผิวธรรมดา และต้องการความเรียบเนียนตลอดทั้งวัน ตัว Day Cream ยังมีสารกันแดดอ่อนๆ ช่วยปกป้องผิวในขณะที่บำรุงไปพร้อมกัน ใช้คู่กันรับรองว่าผิวจะฟูนุ่มขึ้นภายในไม่กี่วัน!

💡ไอเทมแนะนำ: Kanebo Cream in Day SPF20 และ Cream in Night

หากพูดถึงสกินแคร์ญี่ปุ่นระดับตำนาน จะไม่พูดถึง SK-II ก็คงไม่ได้ ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังระดับโลก และสูตรลับจากธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ PITERA™  ส่วนผสมที่ได้จากการหมักยีสต์อย่างพิถีพิถัน อุดมไปด้วยวิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว

ไอเทมซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้ก็คือ Facial Treatment Essence หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “น้ำตบป้าเจี๊ยบ” ตำนานแห่งความเปล่งประกายที่ผู้หญิงทั่วโลกยอมรับ จุดเด่นคือช่วยปรับสมดุลผิว ลดจุดด่างดำ กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวเนียนใสในแบบที่รู้สึกได้จริง ยิ่งใช้ต่อเนื่องยิ่งเห็นผลชัด ราคาที่ญี่ปุ่นก็ถูกกว่าซื้อในไทยมาก เหมาะมากที่จะลงทุนซื้อกลับ

💡ไอเทมแนะนำ: SK-II Facial Treatment Essence (น้ำตบป้าเจี๊ยบ), SK-II R.N.A Power Cream

มาส์กแผ่นที่กลายเป็นขวัญใจของสาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยคอนเซ็ปต์ “Everyday Mask” ใช้ได้ทุกวันโดยไม่ระคายเคือง แผ่นมาส์กหนานุ่ม อุ้มเอสเซนส์ได้เยอะ ปรับสูตรมาให้เหมาะกับการใช้ระยะยาว ราคาก็เป็นมิตรสุดๆ แถมจุดเด่นคือแต่ละสูตรออกแบบให้เหมาะกับผิวที่หลากหลาย ตั้งแต่ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวบอบบาง ไปจนถึงผิวที่เริ่มมีริ้วรอย และบรรจุในแบบซองใหญ่สุดคุ้ม ใช้สะดวก พกพาง่าย จะใช้ก่อนแต่งหน้า หรือเป็นรูทีนก่อนนอนก็ได้หมด เป็นตัวเลือกยอดนิยมในร้านดรักสโตร์ทั่วญี่ปุ่นเลย! 

💡ไอเทมแนะนำ: Lululun Precious Red (ลดเลือนริ้วรอย), Lululun Blue (ผิวแห้ง), Lululun White (ผิวหมองคล้ำ)

แบรนด์ที่เป็นน้องใหม่ในเครือ KOSE แต่คุณภาพไม่แพ้รุ่นพี่เลยแม้แต่น้อย จุดเด่นอยู่ที่นวัตกรรมการบำรุงผิวที่ใช้ส่วนผสม Rice Power® No.11 ซึ่งสกัดจากข้าวญี่ปุ่นคุณภาพสูง ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวจากภายใน เติมความชุ่มชื้น และลดปัญหาผิวแห้งเสีย โดยเฉพาะไลน์ Moisture Serum ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในหมู่สาวญี่ปุ่น เพราะใช้แล้วผิวนุ่มฟูขึ้นจริงในไม่กี่วัน เป็นแบรนด์ที่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการกู้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ให้กลับมาแข็งแรง สดใสอีกครั้ง หรือมีปัญหาผิวลอกเป็นขุยจากสภาพอากา

💡ไอเทมแนะนำ: ONE by Kose Moisture Rice Power Serum และ ONE by Kose Serum Veil

ไอเทมลดรอยสิวอันดับต้นๆ ที่สาวญี่ปุ่นไว้วางใจ ด้วยพลังวิตามินซีบริสุทธิ์แบบเข้มข้นที่ช่วยจัดการปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อเซรั่มซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นซิตรัสอ่อน ๆ ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น ตัวดังของแบรนด์คือหลอดสีเงิน-เหลือง ซึ่งเป็นรุ่นดั้งเดิมที่ขายดีแบบถล่มทลายในญี่ปุ่น และยังมีรุ่นพัฒนาที่ช่วยลดจุดด่างดำได้ล้ำลึกกว่าเดิม ใครที่มีปัญหารอยสิว ใช้ตัวนี้เป็นประจำเห็นผลชัดแน่นอน

💡ไอเทมแนะนำ: Melano CC Intensive Anti-Spot Essence และ Melano CC Premium Brightening Essence

อีกหนึ่งแบรนด์เวชสำอางญี่ปุ่นที่เกิดมาเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ จุดเด่นของ Curel คือไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง พร้อมเทคโนโลยี Ceramide Care ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน เหมาะกับทุกวัยและทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงอากาศแห้ง ผิวลอกเป็นขุย หรือมีอาการระคายเคืองง่าย Curel จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงและสมดุลอีกครั้ง

💡ไอเทมแนะนำ: Curel Intensive Moisture Cream และ Curel Moisture Face Milk

ครีมถั่วเหลืองในตำนานจากแบรนด์ SANA คือขวัญใจสายบิวตี้ญี่ปุ่นมายาวนาน โดยเฉพาะไลน์ Nameraka Honpo ที่ใช้สารสกัดจากถั่วเหลืองเข้มข้น (Soy Isoflavone) ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ให้ผิวเนียนนุ่ม เด้ง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เนื้อครีมของเขามีความเข้มข้นกำลังดี เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันตั้งแต่น้ำตบ โลชั่น เซรั่ม ไปจนถึงครีมบำรุงแบบครบเซ็ต เหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ชัดเจนในราคาน่ารักๆ! 

💡ไอเทมแนะนำ: SANA Soy Milk Moisture Cream และ SANA Nameraka Honpo Lotion

ถ้าพูดถึงคลีนซิ่งของญี่ปุ่นที่เช็ดเครื่องสำอางสะอาดหมดจด Bifesta ต้องติดอันดับต้นๆ แน่นอน ด้วยนวัตกรรม Micellar Technology ที่สามารถดึงคราบเมคอัพและสิ่งสกปรกออกจากผิวได้อย่างล้ำลึก โดยไม่ทำให้ผิวแห้งหรือลอก มาพร้อมสูตรอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวรอบดวงตาที่บอบบาง นอกจากนี้ยังมีให้เลือกหลายสูตร เช่น สูตรเพิ่มความชุ่มชื้น สูตรควบคุมความมัน หรือสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย แถมยังไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่อุดตันผิว ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น สะอาดแบบไม่แห้งตึง เหมาะมากสำหรับคนแต่งหน้าทุกวัน

💡ไอเทมแนะนำ: Bifesta Eye & Lip Makeup Remover และ Bifesta Cleansing Lotion Moist

ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอาง ญี่ปุ่นที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงในทุกครั้งที่ใช้ ต้องยกให้ Jill Stuart Beauty เลย จุดเด่นที่สุดคือดีไซน์แพ็กเกจที่สวยหวานละมุนทุกชิ้นจนอยากพกติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา แต่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ดีงามไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นบลัชออน ลิปสติก หรืออายแชโดว์ ล้วนเน้นความเป็นธรรมชาติ สัมผัสเนียนนุ่ม และกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนหลงใหล สาวญี่ปุ่นจำนวนมากใช้ Jill Stuart เป็นเมคอัพประจำวัน เพราะได้ทั้งฟีลลิ่งและคุณภาพแบบครบเครื่อง

💡ไอเทมแนะนำ: Jill Stuart Jelly Eye Color N (อายแชโดว์เนื้อเจลวิ้งค์ ๆ), Jill Stuart Loose Blush

หนึ่งในแบรนด์ “ถูกและดี” ที่ครองใจสาวญี่ปุ่นทุกวัย ด้วยราคาที่เป็นมิตร แต่คุณภาพเกินเบอร์แบบไม่น่าเชื่อ Canmake โดดเด่นเรื่องเมคอัพที่ใช้งานง่าย สีสวยละมุน และติดทนนาน เหมาะกับทั้งมือใหม่หัดแต่งหน้า และสายแต่งเบาๆ ลุคธรรมชาติ ครีมบลัชของแบรนด์นี้คือที่สุดแห่งความปัง ติดทน แถมเกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ แป้งของเขาก็เนื้อบางเบา ไม่อุดตัน ใช้แล้วหน้าเนียนแบบไม่โบ๊ะเลยสักนิด

💡ไอเทมแนะนำ: Canmake Cream Cheek, Canmake Marshmallow Finish Powder

อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอาง ญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบง่าย ราคาสบายกระเป๋า แต่คุณภาพดีจนกลายเป็นขวัญใจสาวออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษา Cezanne โด่งดังมากเรื่องแป้งพัฟ เมคอัพเบส และไพร์เมอร์ที่ช่วยควบคุมความมัน และเบลอรูขุมขนได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่อยากแต่งหน้าให้ผิวดูเนียนใส ไม่หนักหน้า และไม่แพ้ง่าย เมคอัพทุกชิ้นของ Cezanne ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้แล้วผิวไม่ระคายเคือง

💡ไอเทมแนะนำ: Cezanne UV Clear Face Powder และ Cezanne Make Keep Base

Shu Uemura เป็นแบรนด์สกินแคร์ญี่ปุ่น ที่ก่อตั้งโดยเมคอัพอาร์ทิสต์ระดับตำนานของประเทศ เน้นความพิถีพิถันแบบงานศิลป์ ตัวดังของเขาคือ Cleansing Oil ที่ทั้งล้างเครื่องสำอางได้หมดจด และบำรุงผิวไปในตัว โดยไม่ทำให้ผิวแห้ง หรือรู้สึกตึงผิวหลังล้าง นอกจากนี้เมคอัพของเขาก็เน้นความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ทั้งลิปสติก พาเลตต์สีสันต่างๆ และคอลเลกชันลิมิเต็ดสุดปัง

💡ไอเทมแนะนำ: Shu Uemura Ultime8 Sublime Cleansing Oil และ Rouge Unlimited Lipstick

แม้จะเป็นแบรนด์เกาหลี แต่ในญี่ปุ่นตอนนี้ TIRTIR ฮิตสุดๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Cushion ที่ขายดีถล่มทลายจนหลายร้านต้องเติมสต๊อกกันแทบไม่ทัน จุดเด่นคือเนื้อบางเบา ปกปิดดี ให้ผิวดูโกลว์ฉ่ำแบบ Glass Skin แต่ไม่หนักหน้า ติดทนนานแม้ใส่แมสก์ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่อยากได้ลุคผิวใสแบบธรรมชาติ แต่ยังคุมมันได้ดี มีเฉดสีหลากหลายที่เข้าได้กับผิวสาวเอเชียโดยเฉพาะ

💡ไอเทมแนะนำ: TIRTIR Mask Fit Red Cushion และ TIRTIR My Glow Lip Oil

ถ้าใครเคยได้ไปญี่ปุ่น จะรู้เลยว่าการเดินเข้าร้านดรักสโตร์หรือห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นนั้น เหมือนเข้าสวรรค์ของคนรักสกินแคร์ เพราะ
 

• ● คุณภาพดี เชื่อถือได้: แบรนด์ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการพัฒนาและผลิตสินค้า สกินแคร์ทุกตัวต้องผ่านมาตรฐานเข้มงวด
• ● เหมาะกับผิวคนเอเชีย: เพราะสภาพผิวและภูมิอากาศใกล้เคียงกัน ทำให้สกินแคร์ญี่ปุ่นมักถูกจริตกับผิวคนไทยแบบไม่ต้องปรับสูตรให้ยุ่งยาก
• ● ราคาดีเมื่อซื้อที่ต้นทาง: เมื่อไปซื้อที่ญี่ปุ่นโดยตรง มักจะเจอโปรเด็ด ๆ และราคาน่ารักกว่าที่ไทย โดยเฉพาะสินค้าขนาดใหญ่ หรือแบบเซ็ต
• ● มีของลิมิเต็ดเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น: ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจพิเศษ หรือสูตรเฉพาะขายในประเทศ เห็นแล้วอดใจไม่ได้ต้องซื้อกลับ!

Matsumoto Kiyoshi – ดรักสโตร์ชื่อดังที่หาง่ายแทบทุกเมือง มีสินค้าเยอะ โปรดี และมีพนักงานพร้อมช่วยแนะนำ

Don Quijote (ดองกี้) – ร้านสารพัดของที่เปิด 24 ชั่วโมง แถมมีโซนสกินแคร์ให้เลือกแบบเยอะ เลือกกันจนมึน ไปเลย!

@Cosme Store – รวมของที่ติดอันดับจากเว็บรีวิวชื่อดังในญี่ปุ่น รับประกันว่าของที่นี่ “รีวิวแน่น ใช้ดีจริง”

LOFT / PLAZA / Tokyu Hands – ห้างสรรพสินค้าสายไลฟ์สไตล์ที่มีโซนบิวตี้น่าสนใจ รวมแบรนด์ฮิตและไอเทมแปลกใหม่ที่สายบิวตี้ต้องลอง

สำหรับนักเดินทางสายบิวตี้ ญี่ปุ่นคือแดนสวรรค์แห่งไอเทมความงาม ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ระดับตำนาน เครื่องสำอางน่ารักน่าใช้ หรือของลิมิเต็ดที่มีแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น ที่นี่มีครบทุกความต้องการ! ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดบำรุง หรือสายโปรผู้ช่ำชองเรื่องผิว ญี่ปุ่นก็มีไอเทมให้เลือกตรงใจทุกสภาพผิว ทุกวัย ทุกงบ แถมได้ราคาดีเพราะซื้อจากต้นทาง ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! จะไปช้อปที่โตเกียว โอซาก้า ฟุกุโอกะ หรือฮอกไกโด ก็ไม่มีพลาด เพราะร้านบิวตี้ดังๆ กระจายอยู่ทั่วทุกเมือง แค่มีลิสต์นี้ในมือ แล้ววางแผนการเดินทางดีๆ รับรองได้ของครบแบบจุใจ!  

อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบิน หาที่พักดีๆ  กิจกรรมสนุกๆ หรือ รถเช่า กับ Gother! ให้ทุกทริปญี่ปุ่นของคุณทั้งได้ สวย สนุก และสบาย ตั้งแต่เครื่องลงจนถึงวันกลับ!