เดินป่าหน้าฝนไปไหนดี? รวมเส้นทางเดินป่าในไทย สำหรับมือใหม่-มือโปร

หลายคนอาจโบกมือลากับการเดินทางป่าในช่วงหน้าฝน ด้วยเหตุผลที่ไม่ชอบความเฉอะแฉะ และความยากลำบากในการเดินทางป่า แต่เราอยากจะบอกเพื่อน ๆ ว่าในช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ และยังซ่อนเสน่ห์อันน่าหลงใหลไว้มากมาย รอให้คนรักธรรมชาติมาสัมผัสกับบรรยากาศชุ่มฉ่ำสบายของสายฝน สายน้ำลำธาร ต้นไม้ใบหญ้า อากาศบริสุทธิ์ กลิ่นไอดินหอม ๆ และเสียงแห่งธรรมชาติจากการเดินป่า ใครที่อยากจะลองเปิดประสบการณ์ในการเดินป่า หน้าฝน ห้ามพลาดบทความนี้เลย! เพราะวันนี้ Gother อยากจะมาแชร์เส้นทางป่าง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ เส้นทางเดินป่าที่มีความท้าทายขึ้นมาอีกสักนิด สำหรับสายลุย และเส้นทางเดินป่าชมทะเลหมอกหน้าฝน พร้อมเคล็ดลับในการเดินทางช่วงหน้าฝนยังไงให้ปลอดภัยและสนุก ถ้าพร้อมแล้วลุยกันเลย Go Go!!!
 

เมืองไทยมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามและหลากหลาย เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับตั้งแต่เส้นทางง่าย ๆ สำหรับนักเดินป่ามือใหม่ ไปจนถึงเส้นทางที่มีความท้าทาย สำหรับคนมีประสบการณ์ในการเดินป่า เอาล่ะ! สำหรับมือใหม่ที่อยากจะเปิดประสบการณ์ในการเดินป่า หน้าฝน แต่ไม่รู้ว่าจะเดินป่าหน้าฝนไปไหนดี? วันนี้ Gother มีเส้นทางในการเดินทางป่าง่าย ๆ แล้วยังได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม มีเส้นทางไหนบ้าง มาดูกัน

1. เส้นทางเดินป่า น้ำตกกองแก้ว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เดินป่าหน้าฝนไปไหนดี สำหรับมือใหม่ ที่มีเส้นทางเดินป่าง่าย ๆ ใช้เวลาในการเดินไม่นาน แนะนำให้มาเดินทางป่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกองแก้ว อีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าระยะสั้นในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเดินป่า ด้วยเส้นทางในการเดินทางที่ไม่ยากใช้เวลาเดินทางในการเที่ยว สำรวจ และถ่ายรูป จากจุดที่เข้าไปถึงจุดทางออก ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 - 45 นาที สามารถเดินเข้าไปเอง โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ และตลอดเส้นทางในการเดินป่า เพื่อน ๆ ก็จะได้ชมพรรณไม้หลากหลายชนิด ทั้งไม้ใหญ่ ไม้พื้นล่าง และเฟิร์น ซึ่งจุดเด่นของเส้นทางนี้คือสะพานแขวนที่ทอดข้ามลำธาร แวะมาชมวิวและถ่ายรูปสวย ๆ ปลายทางจะได้พบกับน้ำตกขนาดเล็กที่ไหลลดหลั่นลงมาตามโขดหิน มีความสวยงามและร่มรื่น เหมาะสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติสบาย ๆ

• ข้อดี: ระยะทางที่สั้น และมีระดับความยากที่ไม่สูง ทำให้เส้นทางนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ และใช้เวลาในการเดินไม่นาน ทำให้มีเวลาเหลือไปเที่ยวต่อได้อีก
• ข้อควรระวัง: ควรเดินตามเส้นทางที่กำหนด และระมัดระวังในการเดินบนสะพานแขวน และให้ระวังลื่น โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตก ควรเดินด้วยความระมัดระวัง
• จุดเริ่มต้น: สะพานแขวนด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
• จุดสิ้นสุด: สะพานแขวนหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ทำการอุทยานฯ
• ระยะทาง: 1.2 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 30 - 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

2. เส้นทางเดินป่า 200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นเส้นทางใหม่ที่อุทยานเพื่อฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองประเทศ รวมถึงยังเป็นเส้นทางที่ปรากฏร่องรอยความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ร่วมกันแล้ว ยังเป็นเส้นทางที่ได้รับการดูแลและวางมาตรฐานของอุทยานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา โดยตลอดเส้นทางในการเดินป่าเพื่อน ๆ ยังจะได้พบธรรมชาติที่สวยงามของระบบนิเวศของป่าไม้นานาพรรณ เช่น ป่าดงดิบแล้ง ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้ากว้าง สัตว์ป่าที่พบบ่อยระหว่างเส้นทาง เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว ชะนี นกเงือก เป็นต้น สำหรับใครที่จะมาเดินทางป่าในเส้นทางนี้จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วย

• ข้อดี: เส้นทางนี้เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับประสบการณ์ ยังมีเส้นทางที่ไม่ยาวมากนัก และเป็นเส้นทางใหม่จึงทำให้คนไม่พลุกพล่าน
• ข้อควรระวัง: แม้จะเป็นเส้นทางที่เดินง่ายแต่บางช่วงบางพื้นที่อาจจะมีรากไม้ โขดหิน หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบ ควรจะเดินด้วยความระมัดระวัง
• จุดเริ่มต้น: สันอ่างเก็บน้ำสายศร
• จุดสิ้นสุด: ท้ายอ่างเก็บน้ำสายศร
• ระยะทาง: 2 กิโลเมตร และมีเส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
• ระยะเวลา: 1.30 ชั่วโมง

3. เส้นทางเดินป่า น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

ชวนมือใหม่มาเดินป่าหน้าฝน กันที่น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดกาญจนบุรี และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ โดยจะมีระยะทางยาวประมาณ 2,200 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีจุดเป็นสายน้ำขนาดใหญ่และมีความสวยงามแตกต่างกัน ไป ซึ่งน้ำตกแต่ละชั้นจะมีชื่อ ดังนี้ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา และชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ความพิเศษของชั้นที่ 7 คือ เมื่อน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียร หรือที่เรียกว่า “ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของ “อุทยานแห่งชาติเอราวัณ” ในระหว่างการเดินป่าถ้าเหนื่อย ๆ ก็สามารถแวะเล่นน้ำตกได้ในบางชั้นอีกด้วย

• ข้อดี: การได้ชมความสวยงามของน้ำตกเอราวัณแต่ละชั้น ที่มีสีสันและรูปร่างแตกต่างกันไป
• ข้อควรระวัง: ระวังลื่น โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตก ควรเดินด้วยความระมัดระวัง
• จุดเริ่มต้น: ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สู่ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง
• จุดสิ้นสุด: น้ำตกชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ
• ระยะทาง: 1.5 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง

4. เส้นทางเดินป่า ภูสอยดาว อุตรดิตถ์

ถ้าพูดถึงเส้นทางในการ เดินป่า หน้าฝน ที่ไหนน่าสนใจบ้าง ภูสอยดาว ต้องติดอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในลิสต์เดินป่าหน้าฝนของนักเดินป่าหลาย ๆ คน เพราะช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่สวยที่สุดของภูสอยดาวเลย และที่บอกว่าเป็นช่วงที่สวยเพราะ “ดอกหงอนนาค” จะแตกออกจากเมล็ด พากันแปลงร่างเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาเต็มลานสนสามใบ กลายเป็นทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีดอกสร้อยสุวรรณาและดอกหญ้ารากหอม แล้วมีหมอกจาง ๆ เป็นฉากหลัง มาพร้อมอากาศที่เย็นสบาย โดยเส้นทางในการเดินทางป่าก็มีความหลากหลาย ทั้งเนินเขา ป่าสน และทุ่งดอกไม้ เมื่อเดินป่าก็จะพบกับเนินเขาทั้งหมด 5 เนิน ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่ไม่ยากนัก มือใหม่สามารถเดินทางได้ แต่ก็อาจใช้เวลาในการเดินป่านานสักหน่อย

• ข้อดี: ได้สัมผัสความงามของทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสัน มีทั้งดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูฝน
• ข้อควรระวัง: เส้นทางเดินป่าขึ้นภูสอยดาวมีความลาดชันและต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกล เตรียมความพร้อมให้ดี
• จุดเริ่มต้น: บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
• จุดสิ้นสุด: บริเวณลานสนภูสอยดาว
• ระยะทาง: 6.5 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 6 ชั่วโมง

5. เส้นทางเดินป่า ภูวัว เมืองบึงกาฬ

หน้าฝนนี้ชวนเพื่อน ๆ มาเดินป่าเปลี่ยนบรรยากาศมาเยือนดินแดนอีสานกันที่ อุทยานแห่งชาติภูวัว จังหวัดบึงกาฬ อีกหนึ่ง Unseen Paradise ของภาคอีสาน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าดงดิบ น้ำตกที่สวยงาม หน้าผาสูงชัน และถ้ำลึกลับ โดยเส้นทางเดินป่าภูวัว มีชื่อเสียงเรื่องความใหญ่และความสวยงามของน้ำตก โดยตลอดเส้นทางก็จะได้เจอกับทุ่งดอกไม้ดินที่มาเฉพาะในช่วงหน้าในเท่านั้น ความพิเศษของการเดินทางป่าเส้นทางนี้คือจะมีอ่างจากุชชี่ธรรมชาติกลางป่าใหญ่ สามารถมานั่งแช่น้ำท่ามกลางธรรมชาติได้เลย

• ข้อดี: สัมผัสความเขียวชอุ่ม ร่มรื่น และความหลากหลายทางชีวภาพของป่าดงดิบ และพบกับน้ำตกที่สวยงาม
• ข้อควรระวัง: เส้นทางเดินป่าค่อนข้างร้อนและมีความลื่น ทำให้ต้องเดินอย่างระมัดระวัง
• จุดเริ่มต้น: หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภว.1 (น้ำตกชะแนน)
• จุดสิ้นสุด: ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่เลือก มีทั้งน้ำตกชะแนน, น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกถ้ำฝุ่น และจุดชมวิวต่าง ๆ
• ระยะทาง: เส้นทางสู่น้ำตกชะแนน 2 - 3 กิโลเมตร / เส้นทางสู่น้ำตกเจ็ดสี (จากอ่างเก็บน้ำภูวัว) 5 - 7 กิโลเมตร / เส้นทางสู่น้ำตกถ้ำฝุ่น (จากอ่างเก็บน้ำภูวัว) 8 - 10 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 1.5 - 3 ชั่วโมง / 3 - 5 ชั่วโมง / 5 - 7 ชั่วโมง (ตามลำดับระยะทาง)

อัปเลเวลเพิ่มความท้าทาย ในการเดินป่า หน้าฝน ขึ้นมากันอีกสักหน่อย สำหรับคนที่ชอบเดินป่าแบบธรรมชาติสายลุย เรามีเส้นทางในการเดินป่าที่มีความท้าทาย มาแนะนำให้สำหรับคนอยากลองสักครั้งในชีวิต! มีเส้นทางเดินป่าที่ไหนบ้าง เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกเดินป่ากันเลย

6. เส้นทางเดินป่า อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย

ภูกระดึง อีกหนึ่งเส้นทางที่มือใหม่อยากจะพิชิต แต่ด้วยเส้นทางที่มีทั้งความยากและความง่าย เราจึงยกให้เป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีความท้าทายขึ้นนิดสำหรับสายลุย ถ้าคุณเป็นคนรักการเดินทางป่า ต้องไม่พลาดที่จะมาพิชิตภูกระดึง และหลายคนคงจะเคยได้ยินคำที่ว่า “อยากพิสูจน์รักแท้ ให้เดินขึ้นภูกระดึงด้วยกัน” ด้วยเส้นทางในการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูกระดึงมีระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นช่วง ได้แก่ สู่ซำแฮก เป็นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างชันมาก ต่อมาที่ สู่ซำบอน ทางขึ้นเขาสลับกับทางราบ เดินมาสู่ซำกกกอก ทางราบสลับขึ้นเนินเล็กน้อย แล้วเดินมาสู่ซำเมย จะเป็นทางราบสลับขึ้นเนินเล็กน้อย เดินมาสู่หลังแป เป็นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างชันสุด ๆ แล้วเดินมา สู่ที่ราบวังกวาง บอกเลยว่าเหนื่อยสุด ๆ แต่โชคดีที่นี่ยังมีลูกหาบกระเป๋าของเราขึ้นไปให้ได้

• ข้อดี: ได้ชมทัศนียภาพอันสวยงาม และยังได้เป็นการการทดสอบความอดทนและความแข็งแกร่ง
• ข้อควรระวัง: ควรเผื่อเวลาในการเดินทาง เพราะถ้ามืดแล้วจะเดินลำบากและอันตรายด้วย
• จุดเริ่มต้น: บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
• จุดสิ้นสุด: บริเวณที่ราบด้านบน (วังกวาง)
• ระยะทาง: 9 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 4.5 - 7 ชั่วโมง (สำหรับเดินขึ้นอย่างเดียว)

7. เส้นทางเดินป่า สายรุ้งละอองดาว จังหวัดระนอง

อีกหนึ่งเส้นทางสุดฮิต สำหรับการเดินป่า หน้าฝน ต้องที่นี่เลย สายรุ้งละอองดาว จังหวัดระนอง ครบทุกรสแห่งการผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นการลุยน้ำ เดินป่า นอนเปลริมน้ำ นอนแช่น้ำ และจะเดินฝ่าดงทาก เพื่อทดสอบพละกำลังและยังท้าทายความสามารถของตัวเองอีกด้วย เพราะความท้าทายในการเดินป่าครั้งนี้ ต้องต่อสู้กับการเดินขึ้นเขาสูงชัน แล้วยังต้องลุยน้ำ ซึ่งบางจุดน้ำสูงเกือบถึงเอวเลยเพื่อข้ามไปในป่าลึกทำให้เป็นอะไรที่เหนื่อยสุด ๆ แถมน้ำบางจุดที่ต้องข้ามยังกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ด้วยระยะทางในเดินไปกลับกว่า 16 กิโลเมตร และจุดไฮไลท์ที่จะทำให้ชื่นใจหายเหนื่อยเลยคือได้เห็น น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่า ซึ่งอาจจะมีละอองน้ำฟุ้งกระจายคล้ายสายรุ้งสมชื่อเลย เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่ท้าทายสุด ๆ และต้องอาศัยความรู้ทักษะในการเอาตัวรอด ใครอยากประลองความท้าทายนี้ แนะนำให้เตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้การเดินป่าหน้าฝนของสนุกสนานและเต็มอิ่มครบอรรถรสมากขึ้น

• ข้อดี: ได้ท้าทายตัวเอง และยังได้ฝึกเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบที่หาเรียนไม่ได้จากตำราเล่มไหน
• ข้อควรระวัง: สภาพเส้นทางที่อาจลื่นและเฉอะแฉะ และอาจจะมีสัตว์หรือแมลงต่าง ๆ จึงต้องระวัง
• จุดเริ่มต้น: บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี (ที่ทำการอุทยานฯ)
• จุดสิ้นสุด: บริเวณน้ำตกสายรุ้งละอองดาว
• ระยะทาง: 16 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: ต้องตั้งแคมป์ค้างคืนในป่า

8. เส้นทางเดินป่า ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

ใครสายธรรมชาติชื่นชอบการปีนเขาเดินป่าและชื่นชอบความท้าทาย ต้องได้ลองเดินมาป่ากันที่ ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าที่อยู่ในลิสต์ของนักเดินป่า ด้วยความสูงของยอดเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย วิวทิวทัศน์สวยงามบวกกับธรรมชาติที่ชวนน่าหลงใหล จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักผจญภัยสายธรรมชาติที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง! และเส้นทางในการเดินป่าขึ้นดอยเชียวดาว จัดอยู่ในระดับปานกลางจนถึงยากเลย ด้วยความชันและต้องมีการปีนป่ายในบางช่วง จึงทำให้ต้องใช้กำลังขาและหัวใจพอสมควร ปัจจุบันจะมีเส้นทางการเดินทางอยู่ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางปางวัว - อ่างสลุง จะมีระยะทางประมาณ 6.5 กม. ทางมีความชันอยู่หลายช่วงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการเดินป่า และเส้นทางเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง ระยะทางประมาณ 8.5 กม. ต้องนั่งรถไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก เป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความหลากหลายของสภาพป่า และมีจุดพักแรมที่สะดวกสบาย สามารถเลือกได้ตามความท้าทายของตัวเองเลย

• ข้อดี: ชมทะเลหมอกยามเช้า ชมดอกไม้ป่าหายาก และมองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามของเทือกเขาสลับซับซ้อน
• ข้อควรระวัง: ระมัดระวังสัตว์ป่าที่อาจพบเจอ และคนที่จะเดินป่าควรมีสุขภาพที่แข็งแรง เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการเดินทาง
• จุดเริ่มต้น: หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก หรือ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่แมะ
• จุดสิ้นสุด: บริเวณยอดดอยหลวงเชียงดาว
• ระยะทาง: เส้นทางหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก ระยะทาง 14-16 กิโลเมตร และเส้นทางหน่วยจัดการต้นน้ำแม่แมะ ระยะ 18-20 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: ต้องตั้งแคมป์ค้างคืนในป่า

9. เส้นทางเดินป่า น้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู จังหวัดตาก

น้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู จังหวัดตาก อีกหนึ่งเส้นทางที่ท้าทายหัวใจและพละกำลังขาของเพื่อน ๆ เลย ด้วยเส้นทางการเดินป่าที่เอาเรื่องสุด ๆ ทั้งสภาพอากาศที่ชื้นแฉะ พื้นดินเปียก ยิ่งถ้าเดินป่าแล้วต้องเจอฝนตก บอกเลยว่างานนี้ต้องมีจมโคลน มีลื่นไถลกันบ้างล่ะ แถมบางช่วงยังต้องลุยแม่น้ำลำธารเพื่อที่จะไปให้ถึงน้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู โดยเส้นทางเดินป่าน้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู เป็นเส้นทางเดินป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ที่อยู่ใกล้กับยอดเขาดอยมะม่วงสามหมื่น ติดกับเขตรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา และไฮไลท์ของเส้นทางการเดินป่าที่นี่เลยคือ น้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในป่าลึก โอบล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม และมีรูปร่างคล้ายรูปหัวใจ ยิ่งถ้ามาเดินป่าหน้าฝนก็จะมีสายน้ำมากมายที่หลั่งไหลพรั่งพรูลงมาจากตาน้ำบนยอดเขา และความท้าทายคือการเดินทางกว่าจะมาถึงที่นี่ ต้องนั่งรถผ่านโค้งกว่า 1,219 โค้ง และต้องเดินเท้าเข้าป่าเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร ผ่านทั้งลำธาร ทางรกชัฏ และผาสูง บอกเลยถ้าใจไม่สู้ก็อาจจะมาไม่ถึง น้ำตกปิตุ๊โกร ทีลอซู จังหวัดตาก

• ข้อดี: ชมความสวยงามของน้ำตกปิตุ๊โกร และความสวยงามของน้ำตกทีลอซู
• ข้อควรระวัง: ควรจะต้องศึกษาข้อมูลเส้นทาง เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และเตรียมร่างกายให้พร้อมลุย
• จุดเริ่มต้น: บริเวณใกล้เคียงหมู่บ้านอุ้มผาง
• จุดสิ้นสุด: บริเวณน้ำตกทีลอซู ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
• ระยะทาง: แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 (ปิตุ๊โกร) ระยะทางประมาณ 8-12 กิโลเมตร / ช่วงที่ 2 (ทีลอซู) จะมีระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน

10. เส้นทางเดินป่า ลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี

ใครสายลุยชอบเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์สนุกๆ ชอบความท้าทายในการเดินทาง ถ้าอย่างนั้นเตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วมาเดินป่า หน้าฝน กันที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรีกันเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทาง และชอบศึกษาธรรมชาติ ชอบสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว Unseen สวยๆ ของประเทศไทย ต้องไม่พลาดที่มาเดินป่าเที่ยวกันที่นี่! ลำคลองงูอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทย และยังเป็นแหล่งผจญภัยสุดท้าทาย โดยเส้นทางการเดินป่าลำคลองงูก็มักเป็นการผสมผสานระหว่างการเดินป่าเลาะเลียบไปตามลำน้ำและการล่องแก่งด้วยแพยางหรือเรือคายัค สิ่งที่โดดเด่นในการเดินป่าคือการได้เข้าไปสำรวจถ้ำเสาหิน ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีเสาหินงอกหินย้อยสูงตระหง่าน ซึ่งเส้นทางการเดินป่าและล่องแก่ง ลำคลองงู มีด้วยกัน 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงแรกเดินป่าเลาะลำคลอง ช่วงที่ 2 ล่องแก่งในลำคลอง และช่วงที่ 3 สำรวจถ้ำเสาหิน ตลอดระหว่างการเดินป่านั้นจะมีทั้งเดิน ปีนป่ายในบางจุด ล่องแก่งด้วยแพยาง หรือเรือคายัคตามกระแสน้ำ เป็นเส้นทางที่ท้าทายสุด ๆ ใครสายลุยชอบเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์สนุกๆ ชอบความท้าทายในการเดินทาง ถ้าอย่างนั้นเตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วมาเดินป่า หน้าฝน กันที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรีกันเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทาง และชอบศึกษาธรรมชาติ ชอบสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว Unseen สวยๆ ของประเทศไทย ต้องไม่พลาดที่มาเดินป่าเที่ยวกันที่นี่! ลำคลองงูอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทย และยังเป็นแหล่งผจญภัยสุดท้าทาย โดยเส้นทางการเดินป่าลำคลองงูก็มักเป็นการผสมผสานระหว่างการเดินป่าเลาะเลียบไปตามลำน้ำและการล่องแก่งด้วยแพยางหรือเรือคายัค สิ่งที่โดดเด่นในการเดินป่าคือการได้เข้าไปสำรวจถ้ำเสาหิน ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีเสาหินงอกหินย้อยสูงตระหง่าน ซึ่งเส้นทางการเดินป่าและล่องแก่ง ลำคลองงู มีด้วยกัน 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงแรกเดินป่าเลาะลำคลอง ช่วงที่ 2 ล่องแก่งในลำคลอง และช่วงที่ 3 สำรวจถ้ำเสาหิน ตลอดระหว่างการเดินป่านั้นจะมีทั้งเดิน ปีนป่ายในบางจุด ล่องแก่งด้วยแพยาง หรือเรือคายัคตามกระแสน้ำ เป็นเส้นทางที่ท้าทายสุด ๆ ข้อดี: ได้ทั้งเดินป่า ล่องแก่ง และสำรวจถ้ำในทริปเดียว คุ้มมาก ๆ ข้อควรระวัง: ควรระมัดระวังสัตว์ป่าและแมลงมีพิษต่างๆ ที่อาจพบเจอ และเตรียมร่างกายให้พร้อมลุย จุดเริ่มต้น: หน่วยพิทักษ์ป่า หรือจุดที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จุดสิ้นสุด: บริเวณจุดเริ่มต้น เพราะเป็นการเดินทางไปและเดินกลับ ระยะทาง: 10 - 15 กิโลเมตร และมีเส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม ระยะเวลา: 1 วัน หรืออาจจะค้างคืน

• ข้อดี: ได้ทั้งเดินป่า ล่องแก่ง และสำรวจถ้ำในทริปเดียว คุ้มมาก ๆ
• ข้อควรระวัง: ควรระมัดระวังสัตว์ป่าและแมลงมีพิษต่างๆ ที่อาจพบเจอ และเตรียมร่างกายให้พร้อมลุย
• จุดเริ่มต้น: หน่วยพิทักษ์ป่า หรือจุดที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
• จุดสิ้นสุด: บริเวณจุดเริ่มต้น เพราะเป็นการเดินทางไปและเดินกลับ
• ระยะทาง: 10 - 15 กิโลเมตร และมีเส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
• ระยะเวลา: 1 วัน หรืออาจจะค้างคืน

การเดินป่าชมทะเลหมอกในช่วงหน้าฝน ถือเป็นเสน่ห์และความท้าทายอย่างหนึ่งที่แตกต่างไปจากการเดินป่าในฤดูอื่น ๆ แม้ว่าการเดินป่า หน้าฝนที่จะต้องเผชิญกับฝนและความชื้น แต่ความเขียวขจีของผืนป่าที่สดชื่น จะทำให้คุณได้เห็นทะเลหมอกที่สวยงามหลังฝนตก บอกเลยว่าเดินเหนื่อยแค่ไหนแต่พอได้เห็นทะเลหมอกสวยงาม หายเหนื่อยในทันทีเลย ซึ่ง Gother จะมาแจกพิกัด 3 เส้นทางเดินป่าชมทะเลหมอกหน้าฝน มาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ
 

11. เส้นทางเดินป่า ดอยหว่าวาโจ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ดอยหว่าวาโจ ตั้งตระหง่านอยู่ในอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าที่น่ามาเดินป่าในช่วงหน้าฝน ที่ซ่อนความสวยงามของธรรมชาติ ซึ่งการเดินป่าขึ้นสู่ดอยหว่าวาโจนี้จะเป็นการผจญภัยที่ผสมผสานความท้าทายของการเดินป่า ด้วยเส้นทางเดินจะเดินบนสันเขา ซึ่งมีลักษณะคล้ายเขาช้างเผือกมีลงเนินลาดบางส่วนขึ้นเนินบางส่วน ซึ่งเส้นทางส่วนใหญ่มีความชันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงใกล้ถึงยอดดอยทำให้ต้องใช้กำลังขาเยอะหน่อย แม้ว่าจะเหนื่อยแต่ระหว่างทางยังได้ชื่นชมธรรมชาติ ชมดอกไม้เมืองเหนือนานาชนิด สลับกับวิวสันเขา หรือไม่ก็วิวทะเลหมอกปกคลุมเทือกเขา มองทางไหนก็เห็นวิวสวยเกินบรรยาย

• ข้อดี: ชมทะเลหมอกยามเช้า มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อน และความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์
• ข้อควรระวัง: ควรเดินป่าเป็นกลุ่ม และควรมีผู้นำทางท้องถิ่นที่มีประสบการณ์
• จุดเริ่มต้น: หมู่บ้านชาวลาหู่ ในอำเภอแม่สะเรียง
• จุดสิ้นสุด: บริเวณยอดดอยหว่าวาโจ
• ระยะทาง: 10 - 15 กิโลเมตร
• ระยะเวลา: 1 วันเต็ม หรือ 2 วัน 1 คืน

12. เส้นทางเดินป่า อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

สายรักธรรมชาติชื่นชอบการเดินป่าเป็นชีวิตจิตใจ ต้องไม่ควรพลาดกับการมาเดินป่ากันที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ที่ได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่ปกคลุมยอดเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ และได้สัมผัสอากาศเย็นสบาย สำหรับการเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านั้น สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลายทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 จากอำเภอนครไทย - อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เส้นทางที่ 2 จากอำเภอด่านซ้าย - เส้นทางอำเภอนครไทย - อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และเส้นทางที่ 3 จากจังหวัดเพชรบูรณ์ - บ้านน้ำก้อ - ภูทับเบิก – อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ถ้าใครเพิ่งเคยเดินป่าครั้งแรก แนะนำให้ขึ้น-ลงทางอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เพราะด้านอำเภอหล่มเก่า ทางขึ้นเขาค่อนข้างชันไม่เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์น้อยในการขับรถขึ้น-ลงเขา ใครอยากจะหาที่เที่ยวเดินป่าชมธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ลองไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า น่าจะถูกใจสายเที่ยวครบจบทั้งลุยและสายชิลล์

• ข้อดี: สูดอากาศบริสุทธิ์ภายใต้ร่มเงาของป่าสน ชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขา และชมน้ำตกที่สวยงาม
• ข้อควรระวัง: ด้วยเส้นทางที่อาจจะมีความชันเยอะพอสมควร จึงควรเตรียมร่างกายให้พร้อมลุย
• จุดเริ่มต้น: บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือ บริเวณใกล้เคียงที่ทำการอุทยานฯ
• จุดสิ้นสุด: ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก เช่น ผาชูธง, ภราดร
• ระยะทาง: 1.2 กิโลเมตร และมีเส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
• ระยะเวลา: เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานหินแตก - ผาชูธง ระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร / เส้นทางเดินป่าสู่น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ระยะทางประมาณ 6-8 กิโลเมตร

13. เส้นทางเดินป่า ดอยหลวงตาก จังหวัดตาก

ดอยหลวงตาก อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย-ไม้กลายเป็นหิน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชอบเดินป่า ซึ่งมีเส้นทางในการเดินป่าระยะทางไปกลับประมาณ 22 กิโลเมตร 
ลักษณะเส้นทางมีทั้งทางราบสลับลาดชัน มีทั้งทางเดินเลียบลำธาร ปีนป่ายหิน มือใหม่เดินได้สบาย สามารถมาเดินป่าได้ตลอดทั้งปีเลย ตอนเช้าจะมีหมอกอ่อน ๆ ปกคลุม อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยตลอดเส้นทางของการเดินป่าเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสกับธรรมชาติสวยงามมีทั้งแม่น้ำลำธาร ป่าโปร่ง ป่าสน ทุ่งหญ้า หน้าผาหิน และป่ากล้วยดิบชื้น ซึ่งการเดินป่าได้ทั้งแบบไป-กลับ (Day Trip) หรือค้างคืน 1 คืน นอนกางเต็นท์ ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ามาชมทะเลหมอกสวย ๆ ที่นี่จะเปิดให้เดินขึ้นดอยหลวงตากเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น และต้องมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปด้วย

• ข้อดี: ชมวิวทิวทัศนสวยงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนและผืนป่าอันกว้างใหญ่จากจุดชมวิวบนยอดดอย
• ข้อควรระวัง: เส้นทางที่มีความชันเยอะพอสมควร ทำให้เดินยากหน่อย จึงควรเตรียมร่างกายให้พร้อมลุย
• จุดเริ่มต้น: บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่า
• จุดสิ้นสุด: ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก เช่น น้ำตกผาแดง, บริเวณยอดดอยหลวงตาก
• ระยะทาง: 1.2 กิโลเมตร และมีเส้นทางเดินทางเดียว วนกลับมาที่เดิม
• ระยะเวลา: เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาแดง ระยะทางประมาณ 4-6 กิโลเมตร / เส้นทางสู่ยอดดอยหลวงตาก ระยะทางประมาณ 8-12 กิโลเมตร

ช่วงหน้าฝน เป็นอีกช่วงหนึ่งที่คนนิยมไปเที่ยวชมธรรมชาติ โดยเฉพาะการเดินป่า เพราะช่วงหน้าฝนถือว่าเป็นช่วงที่บรรยากาศสวย มีต้นไม้ ดอกไม้มากมาย แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงในการเดินป่าพอสมควร ดังนั้น จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางป่า ซึ่งนอกจากจะต้องเตรียมความฟิตร่างกายให้แข็งแรงพร้อมลุยในการเดินป่าแล้ว ยังต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า หมวก ร่มหรือเสื้อกันฝน ถุงพลาสติก ไฟฉาย ยารักษาโรค อุปกรณ์ปฐมพยาบาล ถุงกันทาก หรือถุงเท้ากันทาก Power Bank ถ้าเป็นทริปที่นอนค้างคืนควรจะต้องมีเต็นท์ ถุงนอน มาด้วย

เป็นยังไงกันบ้างกับทั้ง 13 เส้นทางในการเดินป่า หน้าฝน ที่เราได้คัดเลือกมาแนะนำให้เพื่อน ๆ มีทั้งเส้นทางง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเดินป่า และเส้นทางที่มีความยากท้าทายให้กับคนที่ชื่นชอบการเดินป่า ใครอยากจะออกไปสัมผัสธรรมชาติในมุมใหม่ ๆ เสพความเขียวขจีเข้าปอด ก็ลองจัดทริปเดินป่าตามเส้นทางที่เราแนะนำกันได้เลย แต่ว่าอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม และในการเดินป่าหน้าฝน ควรต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษกันด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเดินป่า เมื่อสนุกสนานดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว Gother ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุก ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การล่องแก่ง เล่นเซิร์ฟบอร์ด พารามอเตอร์ ดำน้ำ และอื่น ๆ รวมถึงยังมีที่พักหลากหลายประเภทในจังหวัดต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย สามารถเข้ามาจองที่พักในราคาสุดพิเศษ สบายกระเป๋า มีเงินเที่ยวต่อได้อย่างสบายใจ