ที่นั่งบนเครื่องบินมีกี่ชั้น ต่างกันยังไง แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง
Gother
25 เม.ย. 2025
ใครเคยนั่งรถแล้วหลับไปตื่นมารถยังไม่ขยับบ้าง? ถ้าเบื่อการเดินทางที่กินเวลาจนหมดแรง ลองเปลี่ยนมาใช้เครื่องบินดู แล้วจะรู้ว่า “การซื้อเวลา” มันคุ้มขนาดไหน บนฟ้าไม่มีไฟแดง ไม่มีรถติด ไม่มีเสียงบีบแตรให้ปวดหัว มีแค่วิวสวย ๆ เมฆลอยไปช้า ๆ กับบริการดี ๆ จากสจ๊วตและแอร์โฮสเตส ที่พร้อมเสิร์ฟรอยยิ้ม อาหาร และความสบายตลอดทริป จะเดินทางใกล้หรือไกล ข้ามจังหวัดหรือข้ามทวีป แค่ขึ้นเครื่องก็ถึงไว ไม่ต้องปวดหลังนั่งรถนาน ๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัย ไม่ต้องลุ้นถนนพัง ฝนตก หรือรถเสียกลางทาง ใครมีแพลนเที่ยว แพลนทำงาน หรือแค่ไม่อยากเสียเวลาบนท้องถนน ลองบินดูสักครั้ง แล้วจะหลงรักความเร็วที่มาพร้อมกับความสบาย
และสำหรับสำหรับคนที่พึ่งจะได้เดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกนั้นก็อาจจะมีข้อสงสัยในเรื่องของที่นั่งบนเครื่องบิน มีกี่แบบ โดยแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และหลายคนก่อนจะขึ้นเครื่องคงต้องเคยได้ยินคำว่า First class กับ Business class ผ่านหูกันมาบ้างแล้ว ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดความสงสัยว่าทั้งสองคำนี้มีความหมายว่ายังไงสำหรับที่นั่งบนเครื่องบิน และจะมีความแตกต่างกันขนาดไหน เลือกอย่างไหนจะดีกว่ากัน ทาง Gother นั้นจะพาทุกคนที่กำลังจะได้เดินทางโดยเครื่องบิน ไปรู้จักกันอย่างครบถ้วนทั้ง ที่นั่งบนเครื่องบิน มีกี่ชั้น รวมไปถึงการคลายข้อสงสัยอย่าง ที่นั่ง first class กับ business class ต่างกันยังไง รับรองว่าครบถ้วน อ่านจบแล้วจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย
ที่นั่งบนเครื่องบินมีกี่ชั้น? รู้จักแต่ละคลาสก่อนเลือกให้ตรงใจ
มาเริ่มต้นกันในเรื่องของที่นั่งบนเครื่องบิน มีกี่ชั้น เพื่อทำความรู้จักกับชั้นต่าง ๆ ของที่นั่งบนเครื่องบินกันอย่างครบถ้วน เพื่อจะได้รู้จักทุกชั้นกันแบบละเอียด ทำให้การเลือกซื้อตั๋วและที่นั่งนั้นสามารถเลือกได้ตรงใจมากที่สุด ทำให้การเดินทางในเที่ยวบินนี้ได้รับทั้งความสบาย รวมถึงวางแผนการใช้เงินสำหรับการซื้อตั๋วที่จะทำได้อย่างสบายกระเป๋า โดยสำหรับที่นั่งของเครื่องบินทั้งบนนั้นก็จะแบ่งออกเป็น 4 แบบ หรือเรียกว่า 4 ชั้น ดังนี้
- ที่นั่งชั้น Economy Class
- ที่นั่งชั้น Premium Economy Class
- ที่นั่งชั้น Business Class
- ที่นั่งชั้น First Class
ที่นั่งชั้นประหยัด (Economy Class)
เริ่มต้นกันที่ Economy Class (Y Class) หรือที่เรียกกันว่า ชั้นประหยัด เป็นที่นั่งในราคาที่ถูกที่สุดในบรรดาชั้นนั่งทั้งหมด รวมถึงมีจำนวนที่นั่งมากที่สุดบนเครื่องบิน โดยชั้นประหยัดนี้จะถูกตั้งเอาไว้ที่โซนส่วนกลางไปจนถึงส่วนท้ายของเครื่องบิน ซึ่งเก้าอี้ของชั้นประหยัดนี้จะไม่สามารถทำการปรับนอนราบได้ ทำได้เพียงแค่เอนหลังลงได้เล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งตัวเก้าอี้นั้นก็มีพื้นที่จำกัด ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแบบมาตรฐานทั่วไป ส่วนน้ำหนักของกระเป๋าสัมภาระนั้นจะจำกัดอยู่ราว ๆ 20 กิโลกรัม ซึ่งหากจะพกสัมภาระไปมากกว่านี้จะต้องทำการซื้อเพิ่มเติม และยังแบ่งออกได้อีก 2 แบบได้แก่ ชั้นประหยัด (Economy Class) และ ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ (Economy Class Discounted)
รหัสบนตั๋วของที่นั่งชั้น Economy Class
- S (Economy Class) ชั้นประหยัด
- Y (Economy Class) ชั้นประหยัด
- B (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- II (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- K (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- L (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- M (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- T (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- Q (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- V (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
- X (Economy Class Discounted) ชั้นประหยัดลดราคาพิเศษ
ที่นั่งชั้น Economy Class เหมาะสำหรับใคร
- บุคคลทั่วไปที่จะเดินทางภายในหรือนอกประเทศในเวลาที่ไม่เกิน 6 ชั่วโมง
ที่นั่งชั้นพรีเมียม (Premium Economy Class)
ที่นั่งชั้น Premium Economy Class (W Class) เป็นที่นั่งแบบชั้นประหยัดพรีเมียม เป็นชั้นที่เรียกได้ว่าเหมือนกับชั้นประหยัด แต่ว่าได้รับการอัปเกรดขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบายในการนั่ง ทำให้มีราคาเพิ่มขึ้นแพงกว่าชั้นประหยัดทั่วไป เพราะว่าตัวเบาะที่นั่งของชั้นนี้จะมีเนื้อที่และความกว้างขวางเพิ่มมากขึ้น แต่จะยังคงไว้ในเรื่องของการที่ไม่สามารถปรับนอนราบได้ ทำได้แค่เอนหลังเท่านั้น พร้อมกับให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแบบมาตรฐานทั่วไป และน้ำหนักของสัมภาระก็ยังคงจำกัดอยู่ที่ราว ๆ 20 กิโลกรัม หากอยากได้น้ำหนักมากกว่านั้นต้องซื้อเพิ่มเช่นกัน ซึ่งสำหรับที่นั่งชั้น Premium Economy Class นี้จะสามารถซื้อได้ในกรณีที่เป็นเส้นทางระยะไกล (Long Haul Flight) โดยต้องใช้เวลาบินมากกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป อย่างเที่ยวบินที่จะต้องบินไปยุโรปหรืออเมริกา นั่นเอง
รหัสบนตั๋วของที่นั่งชั้น Premium Economy Class
- W (Economy Class Premium) ชั้นประหยัดบริการพิเศษ
ที่นั่งชั้น Premium Economy Class เหมาะสำหรับใคร
- บุคคลทั่วไปที่จะเดินทางภายในหรือนอกประเทศโดยใช้เวลาตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป
ที่นั่งชั้นธุรกิจ (Business Class)
ต่อกันด้วย ที่นั่งชั้น Business Class (C Class) ซึ่งมีชื่อเรียกภาษาไทยว่า ชั้นธุรกิจ ถ้าพูดถึงในเรื่องของราคาแล้ว บอกได้คำเดียวว่า แรงกว่าที่นั่งชั้น Economy Class และ Premium Economy Class แต่คุ้มค่าในการจ่ายเพิ่มอย่างแน่นอน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วที่นั่งชั้นธุรกิจนี้จะอยู่ต่อจากที่นั่งชั้นหนึ่ง และอยู่ด้านหน้าของที่นั่งชั้นประหยัด ซึ่งบางสายการบินนั้นก็อาจจะมีให้บริการในส่วนของชั้นบนและชั้นล่างอีกด้วย ซึ่งขนาดของที่นั่งก็เรียกได้ว่าสามารถทำการนั่งและปรับเอนนอนได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวว่าจะเบียดคนอื่นรวมไปถึงการบริการที่จะเพิ่มเติมความพิเศษมากยิ่งขึ้น และในเรื่องของอาหารกับเครื่องดื่มก็ยังได้รับการอัปเกรดให้พิเศษเพิ่มยิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนการพกพากระเป๋าสัมภาระก็จะขยายน้ำหนักขึ้นไปเป็น 30 กิโลกรัมต่อคน โดยในชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น 3 แบบได้แก่ ชั้นธุรกิจ (Business Class), ชั้นธุรกิจราคาพิเศษ (Business Class Discounted) และชั้นธุรกิจบริการพิเศษ (Business Class Premium)
รหัสบนตั๋วของที่นั่งชั้น Business Class
- C (Business Class) ชั้นธุรกิจ
- D (Business Class Discounted) ชั้นธุรกิจราคาพิเศษ
- I (Business Class Discounted) ชั้นธุรกิจราคาพิเศษ
- J (Business Class Premium) ชั้นธุรกิจบริการพิเศษ
ที่นั่งชั้น Business Class เหมาะสำหรับใคร
- บุคคลทั่วไปที่จะเดินทางภายในหรือนอกประเทศ
- บุคคลรายได้สูงที่จะเดินทางภายในหรือนอกประเทศ
- นักธุรกิจที่จะเดินทางภายในหรือนอกประเทศ
ที่นั่งชั้นหนึ่ง (First Class)
สุดท้ายกับ ที่นั่งบนเครื่องบิน ชั้น First Class (F Class) สุดยอดของประสบการณ์ในการนั่งเครื่อง ที่เรียกได้ว่าหรูหราพรีเมี่ยมที่สุด สะดวกสบายและผ่อนคลายมากที่สุด พร้อมกับการขนสัมภาระได้มากถึง 40 กิโลกรัมต่อคน ซึ่งก็แลกมากับค่าใช้จ่ายที่เรียกได้ว่าแพงกว่าชั้นอื่น ๆ เรียกได้ว่าหลายเท่า โดยชั้น First Class ส่วนมากจะอยู่หลังห้องนักบิน มีพื้นที่กว้างขวางพร้อมกับความเป็นส่วนตัวที่สูงมาก สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบเนื่องจากจะไม่ถูกใครรบกวนทั้งสิ้น ซึ่งในชั้นนี้จะได้รับการบริการที่ดีเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับ อาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพสูงเลือกได้หลากหลายเมนู รวมถึงแชมเปญที่สามารถสั่งได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีความบันเทิงอย่างครบครัน รวมไปถึงการรับสิทธิพิเศษอื่น ๆ ก่อนขึ้นเครื่องอีกมากมาย ซึ่งสำหรับการเลือกใช้บริการชั้นหนึ่งนี้ก็ด้วยกัน 4 แบบ คือ ชั้นหนึ่ง (First Class), ชั้นหนึ่งราคาพิเศษ (First Class Discounted), ชั้นหนึ่งบริการพิเศษ (First Class Premium) และเครื่องบินประเภทความเร็วเหนือเสียง (Supersonic)
รหัสบนตั๋วของที่นั่งชั้น First Class
- F (First Class) ชั้นหนึ่ง
- A (First Class Discounted) ชั้นหนึ่งราคาพิเศษ
- P (First Class Premium) ชั้นหนึ่งบริการพิเศษ
- R (Supersonic) เครื่องบินประเภทความเร็วเหนือเสียง
ที่นั่งชั้น First Class เหมาะสำหรับใคร
- บุคคลทั่วไปที่จะเดินทางไปนอกประเทศ
- บุคคลรายได้สูงที่จะเดินทางไปนอกประเทศ
- นักธุรกิจหรือผู้บริหารระดับสูงที่จะเดินทางไปนอกประเทศ
ซึ่งที่นั่ง first class กับ business class ต่างกันยังไง สำหรับหลายคนที่ยังคงสงสัยอยู่ Gother ก็จะมาตอบแบบเป็นข้อ ๆ ไปเลยว่านอกจากเรื่องของราคาที่ทางชั้น First Class นั้นแพงกว่าหลายเท่าแล้ว ยังมีอะไรที่ทำให้แตกต่างจากชั้น Business Class เพื่อให้สามารถแยกความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน โดยสามารถดูความแตกต่างได้จากตารางด้านล่างนี้เลย
| ที่นั่งชั้น First Class | ที่นั่งชั้น Business Class | |
|---|---|---|
| ที่นั่ง | กว้างขวาง สามารถปรับเอนนอนได้เกือบราบ มีประตูกั้นที่นั่งสำหรับความเป็นพื้นที่ส่วนตัวมากที่สุด | กว้างขวาง สามารถปรับเอนนอนได้เกือบราบ และมีพื้นที่ส่วนตัว |
| การบริการ | พนักงานบริการส่วนตัวคอยดูแลตลอดการเดินทาง | พนักงานบริการดูแลตลอดการเดินทาง |
| อาหารและเครื่องดื่ม | อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายระดับโรงแรม 5 ดาว มีแชมเปญ | อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายระดับภัตตาคาร |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องน้ำส่วนตัว ห้องอาบน้ำ ห้องประชุมขนาดเล็ก เลานจ์แบบหรูก่อนขึ้นเครื่อง นวดและสปา 1 ชั่วโมง | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องน้ำส่วนตัว ห้องประชุมขนาดเล็ก เลานจ์ก่อนขึ้นเครื่อง นวด 30 นาที |
| ความบันเทิง | ระบบความบันเทิงส่วนตัวทันสมัยแบบดีที่สุด | ระบบความบันเทิงส่วนตัวทันสมัย |
| น้ำหนักของสัมภาระ | 40 กิโลกรัม | 30 กิโลกรัม |
| เครื่องบินประเภทความเร็วเหนือเสียง | มี | ไม่มี |
ทุกสายการบินมี First Class ไหม?
สำหรับที่นั่งบนเครื่องบิน ชั้น First Class นั้นมีให้บริการในทุกสายการบินหรือไม่นั้น ก็ต้องตอบแบบตรง ๆ เลยว่า ไม่ ยิ่งเป็นสายการบินภายในประเทศแล้วนั้นจะมีสูงสุดแค่ Business Class ซึ่งหากใครที่อยากจะลองสัมผัสกับ First Class สักครั้งนั้นก็คงต้องลองให้ได้รู้กันไปเลย ซึ่งในปี 2024 ที่ผ่านมานั้นทาง SKYTRAX World Airline Awards ก็ได้มีการจัดอันดับสายการบิน First Class ที่ดีที่สุดในโลก 20 อันดับเอาไว้ จะมีสายการบินไหนบ้าง ไปดูกัน
สายการบิน First Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2024 โดย SKYTRAX World Airline Awards
| อันดับ | สายการบิน |
|---|---|
| 1 | Singapore Airlines |
| 2 | Air France |
| 3 | Emirates |
| 4 | Swiss International Air Lines |
| 5 | ANA All Nippon Airways |
| 6 | Lufthansa |
| 7 | Japan Airlines |
| 8 | Saudia |
| 9 | Cathay Pacific Airways |
| 10 | Etihad Airways |
| 11 | Qatar Airways |
| 12 | British Airways |
| 13 | Qantas Airways |
| 14 | Oman Air |
| 15 | STARLUX Airlines |
| 16 | Thai Airways |
| 17 | Garuda Indonesia |
| 18 | Korean Air |
| 19 | China Eastern Airlines |
| 20 | Kuwait Airways |
ดูการจัดอันดับอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: worldairlineawards.com
ซึ่งแต่ละแห่งนั้นต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ตามเอกลักษณ์ของแต่ละสายการบิน แต่แน่นอนว่าในเรื่องของความหรูหรา สะดวกสบาย และการเดินทางในระดับที่พิเศษที่สุดตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องจนไปถึงลงจากเครื่อง จะทำให้คุณนั้นประทับใจจนไม่สามารถลืมได้ลงกันเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับค่าตั๋วนั้นก็มีตั้งแต่หลักหมื่นจนไปถึงหลักล้าน ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาของราคาตั๋วในสายการบินนั้นอีกด้วย ซึ่งสามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดเพื่อให้ได้ความแน่นอน ตามสายการบินที่คุณเลือกจะขึ้นได้เลย
เลือกที่นั่งบนเครื่องบินยังไงให้คุ้มและนั่งได้สบายที่สุด
เมื่อรู้แล้วว่าที่นั่งบนเครื่องบิน มีกี่ชั้น และแต่ละชั้นนั้นแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนถึงจะเหมาะกับคุณมากที่สุด ลำดับต่อมาที่ Gother นั้นจะมาแนะนำก็คือ การเลือกที่นั่งของชั้นต่าง ๆ ให้คุ้มค่า พร้อมกับนั่งได้สบายอย่างที่สุด โดยจะเป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเลือกที่นั่งในเครื่องบินทั่ว ๆ ไป เพื่อจะทำให้ตลอดการเดินทางของคุณนั้นสามารถนั่งได้อย่างสะดวก และถึงที่หมายได้อย่างสบายใจ ซึ่งสำหรับข้อควรรู้ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงการเลือกที่นั่งนั้นก็จำเป็นที่จะต้องรู้เบื้องต้นก่อนสัก 2 - 3 อย่างได้แก่
- หมายเลขไฟลต์รวมถึงสายการบิน เนื่องจากแต่ละสายการบินนั้นจะมีการจัดการที่นั่งแตกต่างกันไป ซึ่งการรู้เรื่องนี้จะทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่าที่นั่งของเครื่องบินลำนี้มีที่นั่งชั้นไหนให้เลือกได้บ้าง รวมถึงตำแหน่งต่าง ๆ ของเก้าอี้อีกด้วย
- จำนวนของผู้ร่วมเดินทาง แน่นอนว่าเมื่อรู้ผังของที่นั่งแล้ว การมีจำนวนที่แน่นอนของผู้ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น ก็จะทำให้สามารถวางแผนการนั่งได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องธรรมดามากที่เราต้องการนั่งใกล้คนรู้จักเพื่อความสบายใจ ไม่ต้องไปลุ้นว่าคนที่ไม่รู้จักเมื่อนั่งข้าง ๆ แล้วจะมีพฤติกรรมที่ทำให้อึดอัดตลอดการเดินทางหรือไม่
- สามารถเลือกที่นั่งได้หรือไม่ ถึงการเลือกที่นังแล้วส่วนใหญ่จะสามารถเลือกได้ แต่ก็มีบางสายการบินที่โลว์คอสหรือบินระยะสั้นบางสายนั้นจะต้องมีเงื่อนไขสำหรับการเลือก เพราะฉะนั้นตรวจสอบเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง
ที่นั่งแถว 1, 12 และ 14 คือแถวที่ควรเลือก
หากต้องการที่จะนั่งสะดวกสบาย สามารถยืดขาไปมาได้อย่างอิสระ ซึ่งโซนด้านหน้านั้นจะพอมีพื้นที่สำหรับการขยับร่างกายอยู่พอสมควร ซึ่งก็ได้แก่แถว 1, 12 และ 14 และอย่าลืมว่า ความกว้างของเบาะนั่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ตลอดระยะเวลาการเดินทางนั้นสะดวกสบาย ซึ่งส่วนมากแล้วเครื่องบินแต่ละลำจะมีความกว้างของเบาะเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 16.5-18.5 นิ้วตรงกลางคือที่ที่ควรเลี่ยง
การเลือกที่นั่งชิดริมด้านใดด้านหนึ่งไม่ว่าจะเป็นริมทางเดินหรือริมหน้าต่าง จะเป็นที่นั่งซึ่งมีความสะดวกสบาย เพราะจะไม่โดนขนาบทั้ง 2 ข้างจากคนอื่น ดังนั้นหากไม่ได้นั่งกับคนรู้จัก ตำแหน่งที่ไม่ควรเลือกเลยนั่นก็คือ ตรงกลางนั่นเองทำไมต้องเลือกนั่งริมหน้าต่างหรือติดทางเดิน
นอกจากการไม่ถูกเบียดจนมากเกินไปแล้ว การเลือกนั่งที่ริมนั้นก็ต้องมีปัจจัยในการเลือกอยู่ที่ว่าในการเดินทางความต้องการของคุณคืออะไร หากเป็นคนที่ชอบมองวิวท้องฟ้าหรือบรรยากาศภายนอก การได้นั่งติดหน้าต่างจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่น้อยให้กับคุณ แต่หากว่าคุณนั้นเป็นคนที่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย การลุกเดินจะสะดวกมากยิ่งขึ้นถ้าได้นั่งติดทางเดิน
ที่นั่งที่เหมาะสมกับคนเมาเครื่องง่าย
อาการเมาพาหนะนั้นย่อมเป็นอาการที่ใครหลายคนไม่ค่อยอยากจะสัมผัสมันสักเท่าไหร่ ยิ่งหากมีความจำเป็นต้องเดินทางโดยเครื่องบิน แล้วเกิดอาการเมาขึ้นมาคงอยู่ไม่สุขแน่ เพราะฉะนั้นแล้วตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับคนที่รู้ตัวว่าเมาง่ายนั้นจะอยู่ช่วงบริเวณ ปีกของเครื่องบิน เพราะว่าตำแหน่งนี้ถือว่ามีความสมดุล นุ่มนวล สั่นสะเทือนน้อยที่สุดแล้วขณะที่เครื่องกำลังเคลื่อนที่ตำแหน่งของที่นั่งที่ควรเลี่ยง
ใครที่อยากได้รับประสบการณ์เดินทางอย่างสงบ ไม่ถูกเสียงอันดังมารบกวนในขณะที่กำลังเดินทาง ตำแหน่งบนเครื่องที่ควรหลีกเลี่ยงไปให้ไกลแบบสุด ๆ เลยนั้นก็คือ บริเวณท้ายลำของเครื่องบิน เนื่องจากว่าตำแหน่งนี้ เป็นตำแหน่งที่ใกล้กับเครื่องยนต์มากที่สุด จึงมีเสียงดังและเครื่องสั่นอยู่ตลอดเวลานั่งชั้นบนคือพื้นที่สงบเสมอ
สำหรับใครที่ได้ขึ้นเครื่องบินแบบสองชั้น การเลือกที่นั่งของชั้นบนนั้นจะได้รับความสงบ เป็นส่วนตัว เนื่องจากจำนวนที่นั่งมีน้อยกว่า ทำให้ไม่มีคนพลุกพล่าน และยังรู้สึกปลอดโปร่งอีกด้วย ดังนั้นแล้วถ้าจองตั๋วและเลือกที่นั่งทัน ชั้นบนคือความสงบที่คุณตามหาในการเดินทางอย่างแน่นอนที่นั่งใกล้ครัวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ในส่วนของตำแหน่งที่นั่งใกล้ครัวนั้น ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เรียกได้ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ใครอยากจะนั่งบริเวณนี้ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่าคุ้มค่าพอหรือไม่ ซึ่งสำหรับข้อดีนั้นก็ได้แก่ การขอความช่วยเหลือจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องรอนาน เพราะพนักงานหลายคนจะอยู่บริเวณนี้อยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็นำพามาซึ่งข้อเสีย เนื่องจากเป็นจุดที่พนักงานต้อนรับจะต้องทำงานอยู่เสมอ การเดินทางที่ใช้เวลาอาจจะทำให้คุณนั้นไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ทางออกฉุกเฉินไม่ว่าใครก็นั่งได้
อีกหนึ่งความเชื่อผิด ๆ ของการนั่งตรงทางออกฉุกเฉินอย่าง เป็นที่สำหรับผู้ชายที่ตัวใหญ่และแข็งแรงจะนั่งตรงนี้ เพื่อให้มีพื้นที่ในการขยับขารวมถึงช่วยเหลือผู้อื่นในตอนที่เกิดกรณีฉุกเฉิน จริง ๆ แล้วหากทำการจองทัน ผู้หญิงหรือผู้ชายตัวเล็กก็สามารถนั่งตรงนี้ได้เช่นกัน และหากเกิดเหตุฉุกเฉินนั้น ก็ขอแค่ยึดสติให้มั่น ทำตามคำแนะนำของพนักงานต้อนรับ แล้วช่วยคนที่เหลือให้ออกทางประตูทางออกฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย เพียงเท่านี้ไม่ว่าใครก็นั่งที่ตรงนี้ได้แล้วและนี่ก็คือ ที่นั่งบนเครื่องบิน มีกี่แบบ ต่างกันยังไง แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ที่ทาง Gother นั้นได้รวบรวมมาให้กับทุกคนได้รับรู้กัน และเมื่อรับรู้แล้ว ต่อไปก็ถึงเวลากดจองตั๋วเครื่องบินผ่าน https://www.gother.com/th-th/flights ที่ทาง Gother นั้นได้รวบรวมตั๋วของทุกสายการบินมาให้ได้เลือกกันอย่างมากมาย พร้อมด้วยราคาที่ถูกใจ และเลือกที่นั่งให้เรียบร้อย เสร็จสรรพภายในเว็บเดียว จากนั้นก็รอวันออกเดินทาง ที่จะได้เก็บเกี่ยวจากประสบการณ์ในการนั่งเครื่องบินกันได้เลย
