เปรียบเทียบสวนสนุก Disneyland 3 แห่ง เซี่ยงไฮ้ vs ฮ่องกง vs โตเกียว ที่ไหนเหมาะกับคุณที่สุด

ถ้าพูดถึงสวนสนุกในฝันของใครหลายคน ชื่อของ Disneyland คงติดอยู่ในลิสต์แน่นอน โดยเฉพาะในเอเชียที่ได้รับความนิยมถึง 3 ประเทศ ให้เลือกไปฟินได้ทั้ง ญี่ปุ่น ฮ่องกง และจีน ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ปีนี้ แล้วลังเลว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบ Disneyland โตเกียว ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ รีวิวครบ 3 ประเทศ เทียบขนาด ราคา เครื่องเล่น จุดเด่น พร้อมแนะนำว่า Disneyland ไหนดีที่สุดในเอเชีย ปี 2025

บอกเลยว่าทั้งสามแห่งนี้สวย มีเสน่ห์ไม่เหมือนกันเลย เราจะพาไป รีวิวครบทั้ง 3 ประเทศ ว่าดิสนีย์แลนด์แต่ละที่มีจุดเด่นยังไง เทียบขนาด ราคา เครื่องเล่น และบรรยากาศให้เห็นชัด ๆ พร้อมแนะนำว่าในปี 2025 นี้ ถ้าให้เลือกไปสักที่หนึ่ง ดิสนีย์แลนด์ประเทศไหนดีและเหมาะที่สุดสำหรับคุณ

ถ้าพูดถึงดิสนีย์แลนด์ที่อบอุ่น เดินสบาย และเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบเอเชีย ต้องยกให้ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland) เลย สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะลันเตา (Lantau Island) เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2005 และเป็น “ดิสนีย์แลนด์แห่งแรกในจีน” จุดเด่นคือบรรยากาศเป็นกันเอง ไม่แออัด เดินเพลินทั้งวัน เหมาะสำหรับทุกวัยที่อยากสัมผัสความมหัศจรรย์ของดิสนีย์ในทริปสั้น ๆ

ที่นี่มี 7 โซนหลัก ได้แก่ Main Street U.S.A., Adventureland, Fantasyland, Tomorrowland, Grizzly Gulch, Mystic Point และ Toy Story Land แต่ละโซนตกแต่งอย่างละเอียด มีทั้งเครื่องเล่นสุดคลาสสิกและมุมถ่ายรูปน่ารักที่เปลี่ยนธีมไปตามฤดูกาล

สิ่งที่ทำให้ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือการผสมผสานความเป็น “ดิสนีย์” เข้ากับ “วัฒนธรรมเอเชีย” ได้อย่างลงตัว ตั้งแต่การออกแบบสวนให้เข้ากับหลักฮวงจุ้ย ไปจนถึงโซนพิเศษที่ไม่มีในดิสนีย์แลนด์ที่อื่น

1.โซน Castle of Magical Dreams

ปราสาทแห่งความฝันที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเฉลิมฉลองเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ทุกคน ปราสาทนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องดังกว่า 13 เรื่อง เช่น มู่หลาน เอลซ่า เบลล์ และออโรร่า กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของสวนที่สวยอลังการและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮ่องกงเท่านั้น

2.เครื่องเล่น Mystic Manor

หนึ่งในเครื่องเล่นที่มีเฉพาะที่นี่เลย แต่นำมาตีความใหม่จาก Haunted Mansion แบบตะวันตก ให้กลายเป็นเรื่องราวของนักสำรวจ “Lord Henry Mystic” และลิงน้อย “Albert” โดยใช้ระบบไร้ราง (Trackless Ride System) ทำให้แต่ละรอบการเล่นไม่เหมือนกัน สนุกและเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์

3.โซน Grizzly Gulch

โซนตะวันตกที่มีเครื่องเล่น Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars รถไฟเหาะสุดมันที่มีจังหวะถอยหลังกลางทางโดยไม่ทันตั้งตัว เป็นเครื่องเล่นที่ทั้งตื่นเต้นและมีเฉพาะในฮ่องกงเท่านั้น

4.โชว์พลุสุดอลังการ Momentous” Nighttime Spectacular

อีกหนึ่งโชว์ที่ไม่ควรพลาด! การแสดงพลุและโปรเจกชันแมปปิงสุดอลังบนปราสาท Castle of Magical Dreams พร้อมเพลงประกอบจากแอนิเมชันดิสนีย์กว่า 40 เรื่อง ตั้งแต่ Frozen, The Lion King ไปจนถึง Encantoเป็นโชว์ที่หลายคนยกให้ “สวยและอบอุ่นที่สุดในเอเชีย” ปิดท้ายวันในสวนได้อย่างประทับใจทุกครั้ง

การเดินทางไปฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ (Hong Kong Disneyland)

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เป็นจุดหมายยอดนิยม คือ “เดินทางง่ายมาก” จากใจกลางเมืองฮ่องกงเพียงไม่กี่สิบนาทีเท่านั้น

นั่งรถไฟ MTR:

• ขึ้นสาย Tung Chung Line แล้วเปลี่ยนขบวนที่สถานี Sunny Bay Station เพื่อขึ้นสายพิเศษ Disneyland Resort Line
• รถไฟขบวนนี้ตกแต่งธีมดิสนีย์ทั้งคัน มีหน้าต่างรูปมิกกี้เมาส์ นั่งเพลินจนไม่อยากลง!
• ลงสุดสายที่สถานี Disneyland Resort Station เดินต่อไม่ถึง 5 นาทีถึงทางเข้าสวน

นั่งแท็กซี่:

• เรียกแท็กซี่ได้จากทุกพื้นที่ในฮ่องกง แต่แนะนำใช้แท็กซี่สีฟ้า (Lantau Taxi)< เพราะสามารถเข้าเกาะลันเตาได้โดยตรง
• จุดลงที่สะดวกที่สุดคือ Hong Kong Disneyland Public Transport Interchange (PTI) อยู่ใกล้ประตูทางเข้าสวน เดินเพียงไม่กี่นาทีถึงด้านใน

แนะนำให้จองที่พักใกล้ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ไว้เลย เพื่อประหยัดเวลาเดินทาง

• ที่นี่เที่ยวสบาย เดินครบได้ในวันเดียว
  ขนาดของสวนฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กำลังพอดี สามารถเดินเที่ยวครบทุกโซนได้ภายใน 1 วัน เหมาะสำหรับคนที่อยากเก็บบรรยากาศแบบเต็มอิ่ม ไม่เร่งรีบ


• เตรียมรับมืออากาศเปลี่ยนไว
  เนื่องจากสวนสนุกตั้งอยู่ใกล้ทะเล อากาศจึงเปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะช่วงบ่าย แนะนำให้พกร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวไว้เสมอ


• เหมาะสำหรับครอบครัว
  มีโซน Fantasyland สำหรับเด็กเล็ก พร้อม Baby Care Center ที่ให้บริการอุ่นนม เปลี่ยนผ้าอ้อม และเช่ารถเข็นเด็กได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก


• ไม่เก่งภาษาก็เที่ยวได้
  แคสต์เมมเบอร์สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และหลายคนสามารถพูดจีนกลางหรือกวางตุ้งได้ด้วย หากไม่ถนัดภาษา แนะนำให้พกแอปแปลภาษาติดเครื่องไว้เพื่อความสะดวกในการสื่อสาร

• คนที่อยากสัมผัสดิสนีย์แบบสบาย ๆ
  ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องต่อคิวนาน เดินเล่นเพลิน ๆ ก็เก็บครบทุกโซนได้ในวันเดียว เหมาะกับคนที่ชอบเที่ยวแบบชิลล์แต่ยังอยากได้ความสนุกเต็มรูปแบบ


• คนที่อยากเริ่มต้นทริปดิสนีย์ครั้งแรก
  เพราะเดินทางง่ายจากไทย ใช้เวลาแค่ราว 3 ชั่วโมง ไม่ต้องขอวีซ่า ระบบทุกอย่างในสวนเข้าใจง่าย เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นประสบการณ์ดิสนีย์ครั้งแรก


• ครอบครัวและกลุ่มเพื่อน
  สวนขนาดกำลังดี เดินไม่เหนื่อย มีเครื่องเล่นสำหรับทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กในโซน Fantasyland ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ชอบโซน Marvel หรือ Frozen สนุกได้พร้อมกันทั้งครอบครัว นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นประเทศที่เที่ยวได้ครบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลังจากสนุกในสวนแล้ว ยังแวะไปมูที่วัดดัง ช้อปปิ้ง หรือชมวิวอ่าววิคตอเรียต่อได้ในวันเดียวเลย

ถ้าพูดถึงดิสนีย์แลนด์ที่อลังการ ทันสมัย และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ต้องยกให้เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) สวนสนุกแห่งนี้เปิดในปี 2016 ถือเป็นดิสนีย์แลนด์ที่ใหม่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในเอเชีย จุดเด่นคือขนาดพื้นที่กว้างขวาง เครื่องเล่นรุ่นใหม่ล่าสุด และดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็นดิสนีย์กับวัฒนธรรมจีนได้อย่างลงตัว

ที่นี่มี 7 โซนหลัก ได้แก่ Mickey Avenue, Gardens of Imagination, Fantasyland, Treasure Cove, Adventure Isle, Tomorrowland และ Toy Story Land แต่ละโซนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งเครื่องเล่นสุดล้ำ ฉากตกแต่งสมจริง และมุมถ่ายรูปอลังการเหมือนอยู่ในภาพยนตร์

โซน Zootopia โซนใหม่ล่าสุดแห่งเดียวในโลก

โซน Zootopia คือไฮไลต์ใหม่ล่าสุดของสวนนี้ และเป็นโซนเดียวในโลกที่จำลองเมืองสัตว์สุดครึกครื้นจากแอนิเมชันเรื่องดังไว้ครบทุกมุม ตั้งแต่ตึกสูงในเมืองใหญ่ ย่านหนูย่อส่วน ไปจนถึงรถไฟฟ้าสุดน่ารัก ทุกอย่างเหมือนหลุดมาจากหนังจริง ๆ

เครื่องเล่นเด่นคือ Zootopia: Hot Pursuit ที่ให้ผู้เล่นนั่งรถตำรวจของ Judy Hopps และ Nick Wilde ไล่ล่าผู้ร้ายทั่วเมืองด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ สนุกและตื่นเต้นแบบไม่ซ้ำที่ไหนในโลกเลย!

เครื่องเล่น TRON Lightcycle Power Run (โซน Tomorrowland)

หนึ่งในเครื่องเล่นที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนนี้เลย ให้ผู้เล่นนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในโลกแห่งอนาคต พุ่งทะลุแสงพร้อมเอฟเฟกต์เสียงสุดมัน โดยเซี่ยงไฮ้เป็นที่แรกในโลกที่เปิดเครื่องเล่น TRON ก่อนจะถูกนำไปสร้างต่อที่อเมริกา

เครื่องเล่น Pirates of the Caribbean: Battle for the Sunken Treasure

เครื่องเล่นที่แฟนดิสนีย์ทั่วโลกยกให้ “ดีที่สุดในซีรีส์ Pirates” ด้วยระบบ 3D และการเคลื่อนไหวของเรือที่สมจริงสุด ๆ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังจริงแบบ 360 องศา

ปราสาท Enchanted Storybook Castle

ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในโลกของดิสนีย์! ออกแบบเพื่อเป็นตัวแทนของเจ้าหญิงทุกคนในดิสนีย์ ภายในสามารถเดินสำรวจได้จริง มีทั้งนิทรรศการ ร้านอาหาร และจุดชมวิวบนยอดปราสาทที่สวยตระการตา

โชว์พลุ Ignite the Dream – Nighttime Spectacular

ปิดท้ายวันด้วยโชว์พลุสุดอลังการบนปราสาท Enchanted Storybook Castle ที่ผสมแสง สี เสียง และโปรเจกชันจากแอนิเมชันดิสนีย์กว่า 40 เรื่อง ตั้งแต่ Mulan, Tangled, ไปจนถึง Frozen สวยและยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนในโลก

การเดินทางไปสวนสนุกสะดวกมาก อยู่ห่างจากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้เพียง 30–40 นาที เท่านั้น

🚇 นั่งรถไฟใต้ดิน (Metro)

• ใช้ สาย Line 11 ลงที่สถานี Disney Resort Station (迪士尼站)
• ออกทาง ประตู 2 แล้วเดินต่อประมาณ 5–10 นาที ถึงทางเข้าสวนสนุก

🚕 นั่งแท็กซี่

• จากย่าน People’s Square หรือ Nanjing Road ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
• ค่าโดยสารราว ￥100–￥150 (หยวน)
• จุดลงที่สะดวกคือ Shanghai Disney Resort Public Transport Hub ซึ่งอยู่ติดทางเข้าโดยตรง

แนะนำจองที่พักใกล้เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ ประหยัดเวลาเดินทาง แล้วไปสนุกได้เต็มที่

แฟนดิสนีย์สายอัปเดต อยากเห็นของใหม่ก่อนใคร

• มีโซน Zootopia แห่งแรกของโลก
• เครื่องเล่นรุ่นใหม่ เช่น TRON Lightcycle Power Run และ Pirates 3D
• อัปเดตที่สุดในเครือดิสนีย์ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสของ Exclusive ก่อนใคร

ครอบครัวที่อยากเปิดโลกจินตนาการให้เด็ก ๆ

• ผังสวนเป็นระเบียบ เดินง่าย ปลอดภัย
• เด็กเล็กเพลินกับโซน Fantasyland และเครื่องเล่นแนวสบาย ๆ
• มีบริการรถเข็นเด็กและ Baby Care Center ครบ เหมาะกับการใช้เวลาทั้งวัน

นักท่องเที่ยวสายเทคและคนชอบความอลังการ

• โดดเด่นด้านเทคโนโลยี แสง สี เสียง และเอฟเฟกต์ล้ำสมัย
• มีปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของดิสนีย์ และโชว์พลุ “Ignite the Dream” สุดอลังการ
• ทุกเครื่องเล่นออกแบบด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีใหม่ เหมาะกับสายนวัตกรรม

คนที่เคยไปฮ่องกงหรือโตเกียวมาแล้ว

• ได้ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และทันสมัยขึ้นกว่าเดิม
• มีเอกลักษณ์แบบจีนไม่ซ้ำที่อื่น ให้ฟีลต่างจากฮ่องกง/โตเกียว
• เหมาะสำหรับผู้ที่อยากอัปเกรดประสบการณ์ดิสนีย์เวอร์ชันใหม่

ถ้าพูดถึงดิสนีย์แลนด์ในเอเชียที่ครบทุกอารมณ์ที่สุด ต้องยกให้โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) และโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) สองสวนสนุกในเครือ Tokyo Disney Resort ประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอลังการ ความสะอาด และบริการสุดประทับใจ เป็นสวนสนุกที่ผสมผสานความสนุก ความอบอุ่น และการบริการสุดประทับใจได้อย่างลงตัว

ที่นี่มี ธีมหลัก 7 โซนใหญ่ใน Tokyo Disneyland ได้แก่ Adventureland, Fantasyland, Tomorrowland, Westernland, Toontown, World Bazaar, และ Critter Country แต่ละโซนตกแต่งละเอียดสมจริงในสไตล์ญี่ปุ่น มีทั้งเครื่องเล่นสุดคลาสสิกและพื้นที่ถ่ายรูปสุดน่ารักที่เปลี่ยนธีมตามฤดูกาล ส่วน Tokyo DisneySea ที่อยู่ติดกันนั้น เป็นสวนสนุกธีม “โลกแห่งท้องทะเล” ที่มีเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น! โซนเด่นคือ Mediterranean Harbor, Mysterious Island, Arabian Coast, และ American Waterfront ที่ผสมความแฟนตาซีเข้ากับบรรยากาศโรแมนติก เหมาะกับคู่รักและสายถ่ายรูปสุด ๆ

โซน Fantasyland: Pooh’s Hunny Hunt

เครื่องเล่นสุดน่ารักที่ใคร ๆ ก็ต้องยิ้มตั้งแต่ยังไม่เข้าแถว Pooh’s Hunny Hunt คือหนึ่งในไฮไลต์ของ Tokyo Disneyland และเป็นเครื่องเล่นระบบไร้ราง (Trackless Ride System) แห่งแรกของโลก

จุดเด่นของเครื่องเล่นนี้คือ:

• นั่ง “ถังน้ำผึ้ง” ล่องไปในโลกของหมีพูห์และเพื่อน ๆ แบบอิสระ เส้นทางแต่ละรอบไม่เหมือนกัน
• เต็มไปด้วยเสียงเพลง กลิ่นน้ำผึ้ง และฉากแสนอบอุ่น เหมือนเข้าไปอยู่ในหนังสือภาพของ Winnie the Pooh

เครื่องเล่น Beauty and the Beast: “Enchanted Tale of Beauty and the Beast”

เครื่องเล่นที่เปิดตัวในปี 2020 และกลายเป็นหนึ่งในจุดที่คนพูดถึงมากที่สุดของ Tokyo Disneyland ผู้เล่นจะนั่งใน “ถ้วยชาเวทมนตร์” เคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรีภายในปราสาทของเจ้าชายอสูร

จุดเด่นของเครื่องเล่นนี้คือ:

• แสง สี เสียง และการขยับตัวละครสมจริงระดับภาพยนตร์ด้วยเทคโนโลยีแอนิเมทรอนิกส์รุ่นใหม่
• โซนนี้มีเฉพาะในโตเกียวเท่านั้น ทั้งเครื่องเล่น ร้านขนม และร้านของที่ระลึกในธีม Beauty and the Beast

เครื่องเล่น The Happy Fair Lab & Toontown

อีกโซนที่ห้ามพลาดคือ Toontown ที่เต็มไปด้วยบ้านของมิกกี้ มินนี่ และเหล่าเพื่อน ๆ เด็ก ๆ สามารถกดปุ่ม เปิดประตู หรือเล่นกับสิ่งของในบ้านตัวละครได้จริง เหมือนได้เข้าไปอยู่ในการ์ตูนหนึ่งตอนเลยทีเดียว

จุดเด่นของโซนนี้คือ:

• The Happy Fair Lab (ใกล้ Tomorrowland) มีมุมถ่ายรูปและโปสเตอร์ลิมิเต็ดเฉพาะ Tokyo Disneyland
• เหมาะกับสายถ่ายรูปและนักสะสมที่อยากได้ภาพหรือของเฉพาะกิจจากสวนนี้เท่านั้น

แนะนำให้จองที่พักใกล้โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เพื่อประหยัดเวลาเดินทาง

แฟนดิสนีย์ตัวจริง (Disney Lovers / Disney Collector)

เพราะที่นี่คือดิสนีย์แลนด์ที่ “ละเอียดสุดในโลก” และมีเครื่องเล่น Exclusive ที่ไม่มีในประเทศอื่น เช่น Pooh’s Hunny Hunt หรือโซนใหม่ Fantasy Springs ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเก็บประสบการณ์ครบทุกสวน ที่นี่คือ “must visit” ของจริง

คู่รักและคนที่ชอบบรรยากาศโรแมนติก

โซน DisneySea ถือเป็นสวนดิสนีย์ที่โรแมนติกที่สุดในเอเชีย ทั้งวิวทะเล Mediterranean Harbor ตอนเย็น ๆ และบรรยากาศไฟกลางคืนที่อบอุ่นมาก เหมาะกับการเดินช้า ๆ ถ่ายรูปคู่ หรือดินเนอร์ชมโชว์น้ำ

ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

โตเกียวดิสนีย์แลนด์เป็นมิตรกับเด็กสุด ๆ มีโซน Toontown และ Fantasyland ที่เครื่องเล่นน่ารัก เล่นง่าย ปลอดภัย มีบริการ Baby Center และรถเข็นเด็กให้เช่า เด็กเล็กก็สนุกได้ เด็กโตและผู้ใหญ่ก็มีเครื่องเล่นมัน ๆ อย่าง Splash Mountain หรือ Space Mountain

นักท่องเที่ยวที่ชอบดีเทลความเป็นญี่ปุ่น

เพราะนี่คือ “ดิสนีย์แลนด์ในแบบญี่ปุ่น” ที่เต็มไปด้วยความสุภาพ ความเป็นระเบียบ และบรรยากาศอบอุ่นแบบ Omotenashi (การบริการด้วยใจ) ถ้าคุณชอบความประทับใจเล็ก ๆ ที่ละเอียดทุกมุม นี่คือสวนที่เหมาะสุด

ไม่ว่าจะเลือกไปดิสนีย์แลนด์ที่ไหน เวทมนตร์ของดิสนีย์ก็รออยู่ทุกมุมโลก ถ้าอยากสัมผัสความอบอุ่นและรายละเอียดละเมียดละไมแบบญี่ปุ่น ต้องที่ Tokyo Disneyland & DisneySea ถ้าอยากเที่ยวสบาย ใกล้ไทย เดินเพลินทั้งวัน ต้อง Hong Kong Disneyland แต่ถ้าอยากเจอความอลังการล้ำยุคและโซนใหม่อย่าง Zootopia แห่งแรกในโลก ต้องไม่พลาด Shanghai Disneyland

แต่ละสวนมีเสน่ห์ไม่ซ้ำกัน โตเกียวอบอุ่นเหมือนความฝัน, ฮ่องกงเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย, ส่วนเซี่ยงไฮ้เต็มไปด้วยความล้ำสมัยและตื่นเต้นทุกนาที และสำหรับแฟนดิสนีย์ตัวจริง…ต้องเก็บให้ครบทั้ง 3 ที่ในชีวิตสักครั้ง เริ่มต้นทริปในฝันของคุณได้เลยกับ Gother รวมตั๋วเข้าสวนสุดคุ้ม แพ็กเกจเที่ยวครบจบในที่เดียว