แจกที่เที่ยวลับฮ่องกง! 4 ย่านลับในฮ่องกง ที่ยังไม่ถูกนักท่องเที่ยวครอง

เมื่อพูดถึงฮ่องกง หลายคนอาจนึกถึงแสงสีตึกระฟ้า แหล่งช้อปสุดฮอตอย่าง Tsim Sha Tsui หรือพาเหรดตัวการ์ตูนใน Disneyland แต่รู้ไหมว่า นอกจากมุมเมนสตรีมเหล่านี้แล้ว ฮ่องกงยังมี "ย่านลับ" ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางเมืองใหญ่ ย่านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ความแปลกใหม่ ที่ยังไม่ถูกนักท่องเที่ยวถล่ม!

วันนี้เราขอชวนเพื่อนๆ ไปเปิดโลกใหม่ กับ 4 ที่เที่ยวลับฮ่องกง ที่คนไทยอาจไม่คุ้นชื่อ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าได้ไปแล้วจะหลงรักจนอยากกลับไปซ้ำอีกครั้งแน่นอน  ใครเบื่อเส้นทางเดิมๆ ลองตามมาทางนี้ รับรอง มีเรื่องให้เล่าเพียบ!

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวฮ่องกงแบบไม่ซ้ำใคร Tai Hang คือจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด! ย่านนี้ซ่อนตัวอยู่ระหว่างย่านดังอย่าง Causeway Bay และ Tin Hau ที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนโฉมกลายเป็นย่านคาเฟ่สุดฮิป มีร้านอาหารฟิวชั่นน่าลองหลายแห่ง และชุมชนที่ยังคงความเป็นท้องถิ่นแบบอบอุ่นๆ เอาไว้ได้อย่างน่าหลงรัก
 

ไฮไลต์ของที่เที่ยวลับฮ่องกง Tai Hang

เทศกาล Fire Dragon Dance

หนึ่งในไฮไลท์ที่โดดเด่นที่สุดของ Tai Hang คือเทศกาล Fire Dragon Dance ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ (Mid-Autumn Festival) เทศกาลนี้มีประวัติความเป็นมากว่า 100 ปี เล่ากันว่าเริ่มต้นขึ้นในปี 1880 หลังจากที่ Tai Hang ประสบกับโรคระบาดและภัยพิบัติต่างๆ ชาวบ้านจึงสร้างมังกรไฟขึ้นเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย

ในทุกๆ ปี ชาวบ้านจะสร้างมังกรยาวกว่า 67 เมตร จากฟางข้าว ไม้ไผ่ และกระดาษ ประดับด้วยธูปหอมกว่า 70,000 ดอก แล้วแห่มังกรไปตามท้องถนน นับเป็นประเพณีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของฮ่องกงเลยทีเดียว

คาเฟ่และร้านอาหารสุดชิค

Tai Hang ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะย่านคาเฟ่และร้านอาหารฟิวชั่นสุดชิค ตามตรอกซอกซอยเล็กๆ เต็มไปด้วยร้านกาแฟสไตล์อาร์ตๆ ร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ และบาร์เล็กๆ ที่มีเครื่องดื่มเฉพาะตัว มีที่ไหนน่าลองบ้าง ตามไปดูกัน 
 

• ● Bing Kee Cha Dong (炳記茶檔): ร้านอาหารในตรอกเล็กๆ ที่เป็นที่รู้จักในหมู่คนท้องถิ่นจากเมนูก๋วยเตี๋ยวหมูสับและชานมฮ่องกงแท้ๆ เสิร์ฟในบรรยากาศเรียบง่ายแบบโลคอล ใครอยากสัมผัสรสชาติท้องถิ่นดั้งเดิมต้องแวะ! ร้านนี้เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ (เวลา 07.00-15.00 น.) ควรไปช่วงเช้าหรือสายจะดีที่สุด
• ● Chin Jor Fan Tong (前座飯堂): ร้านก๋วยเตี๋ยวสุดเก๋ในย่านไทฮังที่คุณสามารถคัสตอมเมนูเองได้ตั้งแต่ซุปยันท็อปปิ้ง ทั้งน้ำซุปเข้มข้น เส้นหลากหลายแบบ และความเผ็ดระดับที่คุณเลือกได้เอง! ภายนอกร้านตกแต่งสไตล์จีนคลาสสิก แต่พอเดินเข้าไปในร้านจะเจอกับความสดใสจากแสงนีออนและงานป๊อปอาร์ต ชวนให้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคอนเทนต์แบบรัวๆ
• ● Plumcot: เบเกอรี่โฮมเมดสไตล์ฝรั่งเศสที่อบอวลไปด้วยกลิ่นขนมหอมฟุ้งทุกเช้า เปิดโดยเชฟคู่หูชาวฝรั่งเศสที่ตกหลุมรักฮ่องกง เมนูห้ามพลาดคือ Kouign-amann ขนมหวานจากแคว้นบริตตานีที่กรอบนอกนุ่มใน หาทานยากมากในฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีครัวซองต์ ขนมปัง และเค้กที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจนหลายคนยอมเดินทางไกลเพื่อมาลอง!
• ● Sonne CAD: คอกาแฟห้ามพลาด! ร้านกาแฟ Specialty ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกเก่าหลังเล็ก 2 ชั้น ตั้งอยู่ในอาคารชุดยุคก่อนสงคราม ให้ฟีลอบอุ่นแต่มีสไตล์แบบเรียบเท่ ที่นี่เสิร์ฟกาแฟพิเศษจากหลากหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ยูกันดา และกัวเตมาลา (เมนูของร้านจะหมุนเวียนกันเป็นประจำ) ใครเป็นสายพูดคุยกับบาริสต้า ต้องลองนั่งที่บาร์ พูดคุยเรื่องกาแฟได้แบบเพลินๆ หรือถ้าอยากหามุมเงียบๆ นั่งจิบกาแฟมองผู้คน ชั้นบนของร้านก็ให้บรรยากาศสงบ ดีต่อใจไม่แพ้กัน!

ถ้าคุณชอบฟีลฮ่องกงแบบดิบๆ โลคอลๆ แต่ยังมีชีวิตชีวา Sham Shui Po (ซัมชุยโป) คือที่เที่ยวฮ่องกงที่ต้องปักหมุดเลย! ย่านนี้ตั้งอยู่ฝั่งเกาลูน ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวม สตรีทฟู้ดราคาย่อมเยา และ ขุมทรัพย์ของสาย DIY ไม่ว่าจะเป็นผ้า ลูกปัด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงคาเฟ่เท่ๆ และสตรีทอาร์ตสุดชิค ที่สำคัญ ราคาน่ารักกว่าย่านฮิตอื่นๆ แบบรู้จักแล้วต้องหลงรัก! 
 

ไฮไลต์ของที่เที่ยวลับฮ่องกง Sham Shui Po 

• ● Wai Kee Noodle Cafe: ร้านเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ก๋วยเตี๋ยวตับหมูและเนื้อวัว ในน้ำซุปร้อนๆ กลมกล่อม ใครไม่ถนัดตับก็เลือกแฮม ไข่ หรือไส้กรอก จับคู่กับเส้นแบบที่ชอบ ทั้งบะหมี่ มักกะโรนี หรือหมี่ซั่วก็ได้
• ● Lau Sum Kee Noodle: ร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ที่ยังคงใช้วิธีทำเส้นแบบดั้งเดิม ด้วยการนวดแป้งด้วยบ้องไม้ไผ่ตามสูตรครอบครัวที่สืบทอดมายาวนาน เมนูห้ามพลาดคือ โหลเมี่ยน (บะหมี่แห้ง) เสิร์ฟพร้อม ไข่กุ้งแห้งชิ้นโต รสกลมกล่อมเค็มนิดๆ อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
• ● Tim Ho Wan: ร้านติ่มซำที่ได้ชื่อว่าเป็น "ร้านมิชลินที่ถูกที่สุดในโลก" สาขา Sham Shui Po มักมีคิวไม่ยาวเท่าสาขาอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากลิ้มลองติ่มซำรสเลิศในราคาย่อมเยา
• ● Kung Wo Beancurd Factory: ร้านเต้าหู้เก่าแก่ที่อยู่คู่ย่านซัมชุยโปมาตั้งแต่ปี 1960  และยังได้รับความนิยมจนทุกวันนี้ ที่นี่เขาทำเต้าหู้สดใหม่ทุกวัน ทั้งเต้าหู้นมสด เต้าหู้ทอด และน้ำเต้าหู้ที่หอมกลิ่นถั่วแท้ๆ เมนูเด็ดพุดดิ้งเต้าหู้เนื้อเนียนนุ่ม ได้รสถั่วเหลืองเต็มคำ 

• ● Apliu Street: ตลาดอิเล็กทรอนิกส์กลางแจ้ง ที่มีทั้ง Gadget แบบใหม่เอี่ยมและของวินเทจสุดคูล ตั้งแต่สายชาร์จ แบตเตอรี่ ไปจนถึงกล้องวินเทจและวิทยุโบราณ
• ● Golden Computer Arcade: ศูนย์รวมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง มีทั้งสินค้าใหม่ล่าสุด สินค้าหายาก และอุปกรณ์สำหรับเกมเมอร์แบบครบครัน
• ● Ki Lung Street: สวรรค์ของคนรักงานฝีมือและแฟชั่นนิสต้าสาย DIY! สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายกระดุม ลูกไม้ ลูกปัด และอุปกรณ์เย็บผ้านานาชนิด เดินเพลินจนเลือกไม่ถูก พอช้อปกระดุมจุใจแล้ว ยังต่อได้อีกที่ Nam Cheong Street ตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องริบบิ้นและลูกไม้ หรือจะแวะ Yu Chau Street หาแบบผ้าสวยๆ กันต่อก็ยังได้ เรียกได้ว่า มาที่นี่ ครบ จบ สนุก สำหรับคนรักงานออกแบบเลย!

งานอาร์ตและคาเฟ่สุดฮิป

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Sham Shui Po เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อศิลปินและดีไซเนอร์รุ่นใหม่เริ่มย้ายเข้ามาเปิดสตูดิโอและร้านค้าในพื้นที่ ทำให้ย่านนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักงานศิลปะและกาแฟดริปสุดฮิป ตามไปดูคาเฟ่และแกลเลอรี่ที่น่าสนใจในย่าน Sham Shui Po กัน!
 

• ● Cofflow Specialty Coffee: จากร้านขายผ้าเก่ากลาง Sham Shui Po สู่คาเฟ่สไตล์เรโทรสุดเท่ Cofflow เก็บดีเทลยุคเก่าไว้ครบ ทั้งกระเบื้องยุคเก่าและประตูเหล็กหน้าร้านที่สลักชื่อร้านด้วยอักษรจีนสุดประณีต จนกลายเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตของสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ 
• ● Colour Brown X GO.ON Space: คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียลในตึก 2 ชั้นกลาง Sham Shui Po มาพร้อมบันไดวนสีเขียวที่กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต เสิร์ฟกาแฟ Single Origin จากเอธิโอเปีย คอสตาริกา และยูนนาน พร้อมเมนูพิเศษอย่างชานมสูตรเฉพาะและกาแฟเย็นถั่วแดง ชั้นล่างมีงานศิลปะจัดแสดง เสริมบรรยากาศให้ร้านดูมีสไตล์ ส่วนชั้นบนคือ GO.ON Space ที่จัดนิทรรศการและอีเวนต์ให้คนในชุมชนได้ร่วมสนุกอย่างต่อเนื่อง
• ● The Bridge+ Living Art Space: คาเฟ่กึ่งแกลเลอรีที่ให้บรรยากาศอบอุ่นที่นี่มักจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนชุมชนรอบข้างอยู่ตลอดๆ มีงานศิลปะหมุนเวียนให้ชมตลอดปี และมีกลิ่นหอมของกาแฟอบอวลในทุกมุม ใครผ่านมาที่ย่าน Apliu Street อย่าลืมแวะดูนิทรรศการ ชิมกาแฟ และซึมซับเรื่องราวดีๆ ของที่นี่กัน!
• ● Jockey Club Creative Arts Centre (JCCAC): โรงงานเก่าที่กลายเป็นศูนย์รวมงานศิลปะเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เดินชมผลงาน พูดคุยกับศิลปิน และเห็นการทำงานจริงในสตูดิโอ ภายในตัวอาคารยังคงมีเครื่องจักรอุตสาหกรรมโบราณตั้งโชว์อยู่ตามชั้นต่างๆ ให้กลิ่นวินเทจที่เท่ไม่เหมือนใคร

ถ้าอยากหลบหลีกความวุ่นวายจากฝูงนักท่องเที่ยวในฮ่องกง ลองแวะมาที่ Kennedy Town หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “K-Town” ที่เที่ยวฮ่องกงสุดคูลทางฝั่งตะวันตกสุดของเกาะ ที่ค่อย ๆ กลายเป็นแหล่งแฮงเอาท์ของคนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติ หลังจากรถไฟใต้ดิน MTR มาถึงเมื่อปี 2014

ที่นี่ผสมผสานกลิ่นอายของฮ่องกงดั้งเดิมเข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ได้อย่างกลมกล่อม และที่สำคัญคือ ยังไม่แมส! ใครอยากเจอมุมลับ ๆ ต้องมาดูเองสักครั้ง
 

ไฮไลต์ของที่เที่ยวลับฮ่องกง Kennedy Town

• ● % Arabica: คาเฟ่แบรนด์ดังจากเกียวโตที่เลือก Kennedy Town เป็นหนึ่งในทำเลริมน้ำสุดชิลในฮ่องกง ร้านสีขาวมินิมอลที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ยังคงอยู่ครบ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเอสเพรสโซ่เข้มข้น ลาเต้อาร์ตสวยเป๊ะ และวิวอ่าววิคตอเรียสุดปัง ใครสายถ่ายรูปต้องห้ามพลาด!
• ● Winstons Coffee: คาเฟ่สไตล์ออสซี่สุดอบอุ่น ที่ทั้งกาแฟและอาหารเช้าอร่อยเกินต้าน! เมนูเด็ดต้องยกให้ Flat White นุ่มละมุน กับครัวซองต์เนยหอมกรอบแบบที่กัดแล้วต้องยิ้ม ไปถึงทั้งที อย่าลืมแชะรูปกับ ป้ายชื่อร้านแบบโรงหนังวินเทจ ที่เป็นเอกลักษณ์สุด ๆ
• ● Sheung Hei (尚囍): ร้านข้าวอบหม้อดินเจ้าดังที่ชาวโลคอลฮ่องกงยกให้เป็นหนึ่งในใจ กลิ่นข้าวเกรียม ๆ ก้นหม้อคือเสน่ห์ที่ทำให้คนต้องกลับมาอีก ติ่มซำก็มี อาหารฮ่องกงก็เพียบ ใครอยากลองรสฮ่องกงแท้ ๆ ต้องมาที่นี่!
• ● Breeze Bistro: ร้านอาหารริมทะเลที่มาพร้อมระเบียงกลางแจ้งและวิวอ่าววิคตอเรียแบบเต็มตา เมนูเด่นเป็นแนวยุโรปผสมเอเชีย โดยเฉพาะ พาสต้าซีฟู้ด สเต๊กปลา และสลัดล็อบสเตอร์ ที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ทุกจาน เหมาะสุดๆ สำหรับดินเนอร์ชิลๆ หรือบรันช์วันหยุดแบบมีคลื่นลมพัดจากอ่าว ได้บรรยากาศสุดๆ

สวนสาธารณะริมทะเลที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

Belcher Bay Park คืออีกหนึ่งพื้นที่สีเขียวของ Kennedy Town ที่ใคร ๆ ก็แวะมานั่งชิล วิ่ง หรือเล่นโยคะ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตกและแสงกระทบผิวน้ำ เป็นบรรายากาศของความสุขที่เรียบง่าย

เดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่สุดคลาสสิก

ย่านนี้ยังมีอาคารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ อย่าลืมแวะไปที่ Lo Pan Temple วัดเล็กๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า Lo Pan ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งช่างไม้และสถาปนิก หรือ Tung Wah Group of Hospitals Western District Branch อาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุค 1880s ที่ผสมกลิ่นอายจีน ตะวันตกได้อย่างลงตัว ได้รูปชิคๆ กลับบ้านแน่นอน! 

ตลาดสดและร้านท้องถิ่นน่ารักๆ

ถ้าอยากเห็นวิถีชีวิตของชาวฮ่องกงแบบเรียลๆ แนะนำให้เดินเล่นตลาดสด Kennedy Town มีทั้งแผงผักผลไม้สด อาหารทะเล เนื้อสัตว์ รวมถึงร้านขนมท้องถิ่นที่หาซื้อไม่ได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป รับรองว่าได้ฟีล Local สุดๆ

วิธีการเดินทางไป Kennedy Town

เดินทางง่ายสุดๆ แค่นั่ง MTR สาย Island Line (สีฟ้า) ไปลงสถานี Kennedy Town ซึ่งเป็นสถานีปลายทางฝั่งตะวันตกของเกาะฮ่องกง หรือจะเลือกนั่งรถเมล์หรือรถรางสายต่างๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน

  ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากความวุ่นวายในเมือง มาสัมผัสที่เที่ยวฮ่องกงในมุมที่ต่างออกไปที้่ Lei Yue Mun! ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันออกสุดของเกาะเกาลูน ที่แม้จะอยู่ใกล้ย่านธุรกิจ Kwun Tong แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลก  เงียบ สงบ และเรียบง่ายในแบบที่หาไม่ง่ายในฮ่องกง
 

ไฮไลต์ของที่เที่ยวลับฮ่องกง Lei Yue Mun

• ● เดินดูและเลือกซื้ออาหารทะเลจากแผงขายตามตลาดปลา (ต่อราคาได้นิดหน่อย)
• ● ร้านค้าจะออกใบรายการสินค้าให้
• ● นำใบรายการไปที่ร้านอาหารที่ต้องการ 
• ● เลือกวิธีปรุง สั่งเมนูเสริม-เครื่องดื่มตามใจ
• ● แล้วนั่งรออร่อยกับซีฟู้ดสดใหม่สุดฟิน!

วัดและประภาคารเก่าแก่

Lei Yue Mun มีวัด Tin Hau เก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพธิดาแห่งท้องทะเล ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวประมงมายาวนาน นอกจากนี้ยังมีประภาคาร Lei Yue Mun Lighthouse ที่สร้างขึ้นในปี 1912 ตั้งอยู่บนเนินเขา เดินขึ้นไปไม่ไกล และได้ชมวิวอ่าวสวยคุ้มแรงแน่นอน

Lei Yue Mun Sam Ka Tsuen Village

หมู่บ้านชาวประมง Sam Ka Tsuen เป็นส่วนหนึ่งของ Lei Yue Mun มีบ้านเรือนเล็กๆ ที่สร้างขึ้นตามแนวชายฝั่ง หลายหลังเป็นบ้านที่สร้างบนเสาไม้ยื่นออกไปในทะเล ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต ที่นี่คุณจะได้เห็นวิถีประมงแบบดั้งเดิม บ้านไม้ริมทะเล อวนปลาตากแดด และชาวประมงที่กำลังซ่อมเรือ ภาพแบบนี้มีไม่กี่แห่งในฮ่องกงแล้วจริงๆ

Lei Yue Mun Park and Holiday Village

สวนสาธารณะ Lei Yue Mun Park เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีทัศนียภาพสวยงาม มีเส้นทางเดินป่า สวนพฤกษศาสตร์ และมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมี Holiday Village ที่มีบ้านพักและกิจกรรมกลางแจ้งให้ได้ลองแบบสบายๆ เหมาะสุดๆ สำหรับการหลบหนีความวุ่นวายของเมืองมาพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ

วิธีการเดินทางไป Lei Yue Mun

ขึ้น MTR สาย Kwun Tong Line (สีเขียว) ไปลงสถานี Yau Tong จากนั้นเดินต่อประมาณ 10-15 นาทีไปยังท่าเรือ Lei Yue Mun หรือจะนั่งแท็กซี่จากสถานีก็สะดวกเช่นกัน

แม้ฮ่องกงจะขึ้นชื่อเรื่องแสงสีและความคึกคัก แต่ในอีกมุมหนึ่ง เมืองนี้ยังมีย่านลับที่เงียบสงบ เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบดั้งเดิมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นย่านริมทะเลสุดชิล หมู่บ้านฮิปสเตอร์แสนอบอุ่น ย่านโลคอลที่เต็มไปด้วยของกินและของแต่งงานฝีมือ หรือ หมู่บ้านประมงเก่าแก่ที่พาให้คุณหลุดออกจากจังหวะชีวิตที่เร่งรีบ

ถ้าคุณอยากเห็นฮ่องกงในมุมใหม่ ลองเปิดใจให้ย่านเหล่านี้ แล้วคุณอาจจะตกหลุมรัก ฮ่องกงอีกด้านที่อบอุ่น เป็นกันเอง และน่าจดจำไม่แพ้แลนด์มาร์กไหนๆ บนเกาะนี้เลย

ใครอยากไปสัมผัสที่เที่ยวลับฮ่องกงเหล่านี้กันแล้ว ก็เตรียมตัวจอง ตั๋วเครื่องบิน  ที่พัก  หรือ กิจกรรมน่าลอง ผ่าน Gother ได้เลย! ให้ทริปฮ่องกงรอบนี้ ทั้งสะดวก สนุก และคุ้มแบบสุดๆ